Loader

ศักดิ์สิทธิ์ไหมคะ

Started by อินทุศีตาลา, July 07, 2010, 15:52:28

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

July 07, 2010, 15:52:28 Last Edit: July 07, 2010, 15:58:56 by สิรวีย์
ตลอดเวลาไม่นานที่เข้ามาเป็นสมาชิกของ Hindumeeting ได้รับรู้รับฟังหรือแม้แต่ร่วมแสดงความคิดเห็นมาก็หลายเรื่องค่ะ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งค้างคาใจอยู่ตลอดเวลา หากยังไม่เคยกล้าเอ่ยปากถามใครสักที ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องนามธรรม เปราะบาง และอาจละลาบละล้วงใครหลายคน แต่ในที่สุดก็พบว่าช่วงนี้เป็นเวลาเหมาะสมแล้วที่จะขอความเห็นจากทุกท่าน

ดิฉันมีจุดเริ่มต้นของการบูชาเทพเจ้าไม่ค่อยเหมือนใครเขา คือไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสัมผัสจับต้องกับท่าน แต่หลังจากติดตามอ่านกระทู้หลายๆหัวข้อ บางทีก็รู้สึกเหนื่อยใจจนถึงขั้นว่าฉํนจะเข้ามาอ่านทำไมเนี่ย เลยทำให้อยากถามปัญหาเหล่านี้

1.ศักดิ์ศิทธิ์คืออะไรคะ คำนี้อาจดูเหมือนเป็นที่รู้จักและมีความหมายแจ่มชัด แต่คำจำกัดความของท่านทั้งหลายคืออะไรหรือคะ เทวรูปที่ศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าขอแล้วต้องได้ดังขอ ถ้าไม่ได้ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือคะ หากเป็นเช่นนั้นดิฉันซึ่งไม่เคยขออะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากท่านเลย เทวรูปของดิฉันจึงไม่มีวันศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิได้เลยใช่ไหมคะ

2.อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ  และอะไรคือเครื่องหมายยืนยันว่านั่นคือพระเจ้า ดิฉันไม่เคยเห็นนิมิตจากท่านแบบตรงๆเลย หมายความว่าดิฉันยังไม่เป็นที่รักของท่านอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับท่านเลยนอกจากขอให้ท่านรับรู้ความภักดีหรือถ้าท่านเมตตาขอให้ทรงนำทางดิฉันและคนที่รักให้เดินไปตามทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ

3. และขออนุญาตถามตรงๆว่าอะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่ เห็นในตำนานต่างๆกว่าใครจะติดต่อกับท่านได้ก็ต้องอาศัยกิจอันยอดยิ่งต่างๆนาๆ

คำถามนี้เกิดขึ้นด้วยใจบริสุทธิ์ และปรารถนาจะต่อเติมจิตศรัทธาของตนเองให้ยืนยาวต่อไป หากไปละลาบละล้วงหรือไม่ถูกใจ ไม่ถูกจริตใครดิฉันกราบขออภัยไว้เสียเนิ่นๆตรงนี้ หากชอบจะตอบขอความกรุณาตอบและขอขอบพระคุณ หากไม่ชอบขอให้เลยผ่านไปอย่าสร้างกระทู้นี้ให้เป็นสมรภูมิเลยนะคะ

ขอพระผู้เป็นเจ้าอำนวยพรแด่ท่าน
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ขอบคุณ คุณสิรวียร์ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นครับ

1.ศักดิ์ศิทธิ์คืออะไรคะ คำนี้อาจดูเหมือนเป็นที่รู้จักและมีความหมายแจ่มชัด แต่คำจำกัดความของท่านทั้งหลายคืออะไรหรือคะ เทวรูปที่ศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าขอแล้วต้องได้ดังขอ ถ้าไม่ได้ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือคะ หากเป็นเช่นนั้นดิฉันซึ่งไม่เคยขออะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากท่านเลย เทวรูปของดิฉันจึงไม่มีวันศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิได้เลยใช่ไหมคะ

ศักดิ์สิทธิ์ในความหมายของผมคือกิเลส คือความอยากได้ไม่สิ้นสุดครับ เพราะอะไรหรือ

อะไรที่เราบูชา เค้าไม่บูชา เค้าเรียก หิน ดิน เทวรูป พระพุทธรูป
แต่อะไรที่เค้าบูชา ขอแล้วได้ เค้าเรียก สิ่งนั้นว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ดั้งนั้นในทรรศนะของผม คำว่าศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกิเลสครับ คือ การขอไม่มีวันสิ้นสุด
พระองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ คนก็แห่ไปขอหวยกันครับ

เทวรูปที่บ้านผมศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่เคยขออะไรท่านซักที รู้แต่ว่า ยามผมท้อใจ ผมเสียใจ ผมจะไปนั่งหน้าเทวรูป อันเป็นสิ่งแทนพระองค์ เหมือนพระองค์ทอดพระเนตรมองมาเสมอ และทุกครั้งที่ผมไปนั่งร้องไห้ต่อหน้าพระองค์จะ ความรู้สึกมันเหมือนกับพระองค์ทรงมอบพลัง ให้กำลังใจผมให้ยืนหยัดต่อสู้ทุกครั้งไป นี่แหละครับ คือความรู้สึกของผม

2.อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ  และอะไรคือเครื่องหมายยืนยันว่านั่นคือพระเจ้า ดิฉันไม่เคยเห็นนิมิตจากท่านแบบตรงๆเลย หมายความว่าดิฉันยังไม่เป็นที่รักของท่านอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับท่านเลยนอกจากขอให้ท่านรับรู้ความภักดีหรือถ้าท่านเมตตาขอให้ทรงนำทางดิฉันและคนที่รักให้เดินไปตามทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ

3. และขออนุญาตถามตรงๆว่าอะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่ เห็นในตำนานต่างๆกว่าใครจะติดต่อกับท่านได้ก็ต้องอาศัยกิจอันยอดยิ่งต่างๆนาๆ

ผมไม่เคยพยายามติดต่อกับทุกพระองค์ แต่ผมพยายามเข้าถึงโลกของพระองค์ให้มากที่สุด โดยการปฏิบัติตนตามหลักศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพุทธ ฮินดู หรืออะไรก็ดีครับ ที่สอนให้คนทำดี ไม่ทำชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ครับ และท้ายที่สุดของฮินดูคือการรวมไปอยู่ในปรมาตมัน คือไปอยู่ในดินแดนแห่งพระเจ้าครับ ไม่ได้สิ้นสุดที่การระลึกชาติได้ หรือติดต่อกับเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายได้ครับ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา มีตัวเราเท่านั้นที่ตอบปัญหานี้ได้ดีที่สุด

ความงมงาย และ ความศรัทธา ต่างกันเพียงปลายผม ครับ

ดังนั้นแล้วขอให้พึงระลึกไว้เสมอครับ ว่าคุณกำลังไหว้พระโดยตั้งมั่นอยู่ในหลักแห่งศรัทธา หรือ งมงายครับ

ฝากไว้เท่านี้

กาลิทัส




เห็นด้วยกับพี่ยีนส์คร้าบ

เทวรูปที่เราได้บูชากันอยู่เปรียบเหมือนกับตัวแทนของพระเป็นเจ้าอย่างที่พี่ยีนส์ได้บอก  นั้นคือพระเป็นเจ้าได้มอบพลังของพระองค์มายังเทวรูปนั้นทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเรื่องขอแล้วได้หรือไม่ได้ อยู่ที่ว่าเราขออะไรขอในความเป็นจริงหรือไม่ขอแล้วเราแสวงหาในสิ่งที่เราต้องการหรือป่าว ถ้าเรารู้จักแสวงหาพระเป็นเจ้าจะเกื้อหนุนเราครับ แล้วก็อยู่กับบุญบารมีของเราด้วยเช่นกันครับ

2.อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ  และอะไรคือเครื่องหมายยืนยันว่านั่นคือพระเจ้า ดิฉันไม่เคยเห็นนิมิตจากท่านแบบตรงๆเลย หมายความว่าดิฉันยังไม่เป็นที่รักของท่านอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับท่านเลยนอกจากขอให้ท่านรับรู้ความภักดีหรือถ้าท่านเมตตาขอให้ทรงนำทางดิฉันและคนที่รักให้เดินไปตามทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ

ส่วนเรื่องการเข้าถึงพระเป็นเจ้า เบนเองเคยบอกไปแล้วในกระทู้นึงว่าทุกคนสามารถเข้าถึงพระองค์ได้ เพราะพระองค์ไม่ทรงรังเกียจผู้ที่มีจิตศัทธาต่อพระองค์ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในวรรณะไหนก็ตาม ขอแค่เรามีจิตศัทธาต่อพระองค์เป็นที่ตั้งมั่นไว้แค่นี้พระองค์ก็ทรงรับรู้ว่าเราต้องการอะไร เรามีใจศัทธามากน้อยเพียงใด  พี่โด่งไม่ใช้ศาสนิกชนที่แย่หรอกครับ เพราะการที่เราสวดมนต์ภวานาทุกวันก็เปรียบเหมือนกับว่าเรากำลังติดต่อกับองค์ท่าน

3. และขออนุญาตถามตรงๆว่าอะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่ เห็นในตำนานต่างๆกว่าใครจะติดต่อกับท่านได้ก็ต้องอาศัยกิจอันยอดยิ่งต่างๆนาๆ

ผมขอตอบว่า ที่รู้ได้ด้วยจิตศัทธครับรู้ด้วยตนเองเจอด้วยตนเอง  เพราะไม่ว่าผมจะทำอะไรก็มักจะสำเร็จเสมอ(อันนี้ไม่ได้มาโอ้อวดนะครับ)

ขอพระเป็นเจ้าประทานพรประทานบารมีให้กับพี่โด่งด้วยเช่นกันครับ

โอม มหา บารมี เทวา
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

July 10, 2010, 05:07:53 #3 Last Edit: July 10, 2010, 07:42:50 by Purple_Tulip
   คุณกาลิทัศกล่าวชอบแล้วค่ะ คนไทยสมัยนี้
ส่วนมากขาดการปฏิบัติ ไมค่อยสนใจธรรมะ
หวังเพียงสิ่งที่ตนปราถนา โดยลืมคำว่า กฏแห่งกรรม
มุ่งหวังแต่ปาฏิหาริย์ จะทำอะไรก็ทำเพื่อหวังผล
ตอบแทน  สุดท้ายก็ล้ำเส้นไปถึงคำว่า งมงายค่ะ

   


ขอตอบด้วยคนครับ

สำหรับผมแล้ว เวลาผมบูชาพระ บูชาเทพ เสร็จแล้ว

ผมขอแค่ความสุขกาย สุขใจ ครับ

ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ แล้วนั้ัน ผมว่าคงตอบยาก เพราะทุกคนคงรับรู้ได้ไม่เท่ากันมังครับ

แต่เวลาที่ผมมองที่ รูปท่านแต่ละพระองค์แล้ว ผมมีความสุข ม๊าก มาก ครับ

ขออนุญาตนะคะ ออกตัวไว้ก่อนว่าดิฉันเอง มิได้เป็นผู้รู้ หรือผู้เก่งปฎิบัติมากมาย แต่เห็นกระทู้คุณแล้วอยากแสดงความเห็นบ้าง
1. ศักดิ์สิทธิ์ คืออะไร ต้องถามใจตัวเองก่อนค่ะ ว่า"ศักดิ์สิทธิ์"ที่ว่านั้น อย่างไรถึงเรียกว่าศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตัวดิฉัน เชื่อว่า ถ้าคิดดี ทำดี ความ"ศักดิสิทธิ์" มิใช่สิ่งที่อธิบายได้ง่ายๆ ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับใจของตน รู้ได้ด้วยใจของตน ว่า"ศักดิ์สิทธิ์"หรือไม่ มิใช่ว่าตั้งใจจะขอ เพียงอย่างเดียว พอไม่ได้ ก็บอกไม่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ได้มองตนเองว่าปฎิบัติชอบหรือไม่
2. อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ปรารถนาจะสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้า และอะไรคือเครื่องหมายของพระผู้เป็นเจ้า
เรียนตรงๆเลยค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าเลย เพียงแต่ทำทุกอย่างด้วยความศรัทธา เหมือนบุตรที่พึงปฎิบัติต่อบิดามารดาเท่านั้น ส่วนอะไรคือเครื่องหมายของพระผู้เป็นเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ทุกอนู คือพระเป็นเจ้า เพราะพระองค์จะทรงสถิตทุกหนแห่ง หากที่นั่น มีศรัทธา และบูชา
3. อะไรที่ทำให้คิดว่าพระเป็นเจ้าจะทรงสื่อสารกับเราผู้มีกิเลสอยู่
    อันนี้ขอตอบตรงๆว่า ผู้ศรัทธา พระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้าจะมิทรงทอดทิ้ง ตามหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนา ต่างสอนให้ ลด ละ เลิก ต่อสิ่งไม่ดีทั้งปวง  ส่วนคำว่าสื่อสารนั้น ผู้ศรัทธา และบูชา จะรู้สึกได้ว่า มีความสุข และสงบ และสบายใจที่ได้ทำ นั่นก็ถือว่าสุขมากแล้วค่ะสำหรับดิฉัน

ปล.ด้วยจิตเคารพค่ะ

ด้วยความเห็นส่วนตัว

1. เพราะเรายังเปนมนุษย์ที่เวียนว่ายอยู่ในวัฎฎะสงสาร จึงยังต้องมีภาวะแห่งกรรมทั้งปวงเปนห่วงโซ่พันธนาการไว้

2. เพราะความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด จึงต้องแสวงหาไปเรื่อย ถึงแม้จะต้องทำลายสิ่งใดก้อตามก้อจะทำเพื่อสนองความต้องการของตนเอง

3. เพราะเรายังไม่สามารถเข้าถึงพระธรรมอันดีพอ

4. จากข้อ 1 - 3 ทำให้เราพยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไว้

เปนความคิดส่วนตัวน่ะค่ะ เพราะที่เรายังเคารพบูชาและกราบไหว้พระทุกๆองค์ เพราะเรายังไม่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้กระจ่างแจ้งแห่งความเป็นไปทั้งปวง

ปล. อ่านกะทู้ของคุณ Matakali แล้วมันทำให้เราฝึกสมองมากๆเลยค่ะ พร้อมด้วยความเห็นจากผู้รู้อีกมากมาย ^^
[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic


แสดงความเห็น และ ทรรศนะด้วยคนนะครับ

1. เทวรูปที่ศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าขอแล้วต้องได้ดังขอ ถ้าไม่ได้ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือคะ
ทุกครั้งที่ผมกราบไหว้ บูชา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ศาสนาใดๆ ก็ตาม  ผมจะไม่ร้องขออะไรจากท่าน
การร้องขอ หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง คงจะลำบากใจน่าดู เพราะคงต้องรับฟังอย่างมากมาย
เหมือนการทำดี หรือกราบไว้ เพื่อหวังผล

2. ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ
ไม่เลยครับ บูชาด้วยหัวใจ ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่จำเป็นจะต้องสื่อสารกันได้
เพียงเรารับรู้ สุขใจที่จะบูชา การติดต่อได้ อาจเป็นเรื่องจิตนำไป

3. อะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่
หากพระเจ้าจะติดต่อกับใคร ในรูปแบบใด (หรือจิตนำไป) หรือไม่ติดต่อก็ไม่เป็นไร
ใครไำม่ได้รับสื่อจากพระเจ้า ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา

Quote from: โอม มหา บารมี เทวา   โอม on July 07, 2010, 22:48:59
เห็นด้วยกับพี่ยีนส์คร้าบ

เทวรูปที่เราได้บูชากันอยู่เปรียบเหมือนกับตัวแทนของพระเป็นเจ้าอย่างที่พี่ยีนส์ได้บอก  นั้นคือพระเป็นเจ้าได้มอบพลังของพระองค์มายังเทวรูปนั้นทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเรื่องขอแล้วได้หรือไม่ได้ อยู่ที่ว่าเราขออะไรขอในความเป็นจริงหรือไม่ขอแล้วเราแสวงหาในสิ่งที่เราต้องการหรือป่าว ถ้าเรารู้จักแสวงหาพระเป็นเจ้าจะเกื้อหนุนเราครับ แล้วก็อยู่กับบุญบารมีของเราด้วยเช่นกันครับ

2.อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ  และอะไรคือเครื่องหมายยืนยันว่านั่นคือพระเจ้า ดิฉันไม่เคยเห็นนิมิตจากท่านแบบตรงๆเลย หมายความว่าดิฉันยังไม่เป็นที่รักของท่านอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับท่านเลยนอกจากขอให้ท่านรับรู้ความภักดีหรือถ้าท่านเมตตาขอให้ทรงนำทางดิฉันและคนที่รักให้เดินไปตามทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ

ส่วนเรื่องการเข้าถึงพระเป็นเจ้า เบนเองเคยบอกไปแล้วในกระทู้นึงว่าทุกคนสามารถเข้าถึงพระองค์ได้ เพราะพระองค์ไม่ทรงรังเกียจผู้ที่มีจิตศัทธาต่อพระองค์ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในวรรณะไหนก็ตาม ขอแค่เรามีจิตศัทธาต่อพระองค์เป็นที่ตั้งมั่นไว้แค่นี้พระองค์ก็ทรงรับรู้ว่าเราต้องการอะไร เรามีใจศัทธามากน้อยเพียงใด  พี่โด่งไม่ใช้ศาสนิกชนที่แย่หรอกครับ เพราะการที่เราสวดมนต์ภวานาทุกวันก็เปรียบเหมือนกับว่าเรากำลังติดต่อกับองค์ท่าน

3. และขออนุญาตถามตรงๆว่าอะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่ เห็นในตำนานต่างๆกว่าใครจะติดต่อกับท่านได้ก็ต้องอาศัยกิจอันยอดยิ่งต่างๆนาๆ

ผมขอตอบว่า ที่รู้ได้ด้วยจิตศัทธครับรู้ด้วยตนเองเจอด้วยตนเอง  เพราะไม่ว่าผมจะทำอะไรก็มักจะสำเร็จเสมอ(อันนี้ไม่ได้มาโอ้อวดนะครับ)

ขอพระเป็นเจ้าประทานพรประทานบารมีให้กับพี่โด่งด้วยเช่นกันครับ

โอม มหา บารมี เทวา


ที่คุณ โอม  มหา บารมี  เทวา

ผมอยากจะบอกว่า  การเข้าถึงพระเจ้าหรือที่เรียกว่า  บรรลุในโมกษะ  หรือ  ปรมัตมัน
แตกต่างกับการติดต่อกับพระเจ้า  อย่างที่คุณโอมกล่าวโดยสิ้นเชิงนะครับ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

1.ศักดิ์ศิทธิ์คืออะไรคะ คำนี้อาจดูเหมือนเป็นที่รู้จักและมีความหมายแจ่มชัด แต่คำจำกัดความของท่านทั้งหลายคืออะไรหรือคะ เทวรูปที่ศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าขอแล้วต้องได้ดังขอ ถ้าไม่ได้ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือคะ หากเป็นเช่นนั้นดิฉันซึ่งไม่เคยขออะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากท่านเลย เทวรูปของดิฉันจึงไม่มีวันศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิได้เลยใช่ไหมคะ

bopeep...ขอเสนอความคิดเห็นนะครับ ความหมายของคำว่าศักดิ์สิทธิ์ นั้น ตามความเข้าใจ อาจจะหมายความว่า ที่เชื่อมั่น เชื่อถือว่า มีอันนาจบันดาลทุกสิ่งให้ได้มาตามประสงค์ หรือ ความขลัง ที่เกิดขึ้นในวัตถุ สิ่งนั้น สิ่งนี้ อันนี้คือความหมายที่คิดนะครับ และสิ่งนี้ก็อยู่กับความเชื่อมนุษย์อย่างผม และทุกคน ในที่นี้ มานาน แล้วนะครับ มันแยกออกจากตัวผม และตัว ทุก ๆ คนในที่นี้ ม่ได้หรอกนะครับ ทั้งในการได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น และได้สัมผัส เราอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เรากำลังอยู่ในคำว่า ศักดิ์สิทธิ์ อยู่ คำว่าศักดิ์สิทธิ์นั้นจะอยู่กับตัวเราตลอดไป ตราบที่เรายังมี ความเชื่อ และความ ศรัทธาอยู่ครับ ผมคิดอย่างนี้นะครับ ถึงแม้ว่าใคร จะว่าสิ่งที่เราบูชาว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เราก็ยังเชื่อ และศรัทธา ในความศักดิ์สิทธิ์ ขอท่านอยู่แล้ว ถูกต้องไหมครับ

2.อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ  และอะไรคือเครื่องหมายยืนยันว่านั่นคือพระเจ้า ดิฉันไม่เคยเห็นนิมิตจากท่านแบบตรงๆเลย หมายความว่าดิฉันยังไม่เป็นที่รักของท่านอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับท่านเลยนอกจากขอให้ท่านรับรู้ความภักดีหรือถ้าท่านเมตตาขอให้ทรงนำทางดิฉันและคนที่รักให้เดินไปตามทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ


bopeep...อันนี้เป็นคำถามที่โดนใจผมมากเลยครับ ขอมอบตำแหน่งผมถ้วยและสายสะพายให้เลยครับ น่าตอบเป็นที่สุด คำถามนี้ ขอตอบแบบไม่เกรงใจเลยนะครับ

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ

- บางความคิดของคนมุมหนึ่ง ต้องการที่จะเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่น ต้องการเป็นคนเหนือคน ด้วยกิเลส ตัณหา และความต้องการที่จะแสดงตัวว่าเป็นผู้วิเศษเหนือมนุษย์ แล้วก็เอามาหลอกลวงบนความเชื่อของผู้อื่นให้หลงเชื่อ เปลี่ยนจากศรัทธา เป็น ความงมงาย ครับ

- บางความคิดของคนมุนหนึ่ง ต้องการเป็นผู้ศรัทธาที่ต้องการและมีความสามารถ อยากใกล้ชิดกับพระองค์มากจนเก็บ ไปฝัน เก็บไปคิด จนเป็นมโนภาพ ในความฝัน

ในการที่จะสื่อสารกับท่านได้ หรือ สื่อสารกับท่านไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ศรัทธาครับ หน้าที่ของเรามีเพียงแต่ เชื่อ บูชา ปฏิบัติ และอยู่ในความดี นี่ซิครับ คือสิ่งที่สมควรทำ

ในการที่ว่าท่านจะรักเราหรือไม่รักเราก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องรู้ขอให้รู้แค่เรารักท่านแค่ไหนก็พอครับ

ในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเราไม่สามารถ รู้ได้ว่าจริงเท็จ แค่ไหน มีแต่ตัวเองที่รู้ครับ และสิ่งที่เรารู้เราเห็นเอง ก็ต้องเก็บเอามาคิด แล้วก็พิจารณาให้ดีครับ ว่าใช่มากน้อยแค่ไหน หรือ ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นกำลังหรอกตัวเองอยู่หรือไม่

การตำหนิตัวเองเป็นสิ่งที่สมควรนะครับ และอยากจะบอกว่า จะแย่หรือดีเลิศ ไม่มีใครบอกได้ครับ มีแต่ตัวท่านเองเท่านั้น

3. และขออนุญาตถามตรงๆว่าอะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่ เห็นในตำนานต่างๆกว่าใครจะติดต่อกับท่านได้ก็ต้องอาศัยกิจอันยอดยิ่งต่างๆนาๆ

bopeep...ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่า ความต้องการของจิตที่ต้องการให้พระผุ้เป็นเจ้าได้รับรู้ถึงความศรัทธาในตัวตนของคน ๆ หนึ่งมั้งครับ ว่า เขาคือผู้ศรัทธาพระผู้เป็นเจ้า  ไม่ได้รวมพวกอุตริ นะครับ พูดถึงดดยทั่วไป ซึ่งถ้าความคิดนี้ ผมคิดว่าหลายท่านในที่นี้ และ ตัวของคุณเจ้าของกระทู้เอง ก็คงคิดเหมือนผมในเรื่อง อยากให้ท่านได้รับรู้ ว่าเราศรัทธาท่าน แค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้หวัง ให้เป็นเช่นนั้น การสื่อสารถึงท่านคงจะเป็นไปไม่ได้ ขนาดชาวฮินดูชนแท้ ยังสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าของเขาเองได้เลยครับ อย่าได้ไปยึดติด กับภารตะฟิมล์มากเลยครับ เขาสร้างมาเพื่อความบันเทิง ครับ

**** เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จงปฏิบัติ จงศรัทธา จงเชื่อ จงรัก ในพระผู้เป็นเจ้าที่เราบูชานับถือ ก็พอครับ สิ่งที่พิมพ์ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ****