Loader

อยากทราบวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องคับ

Started by chooca, April 26, 2009, 20:36:00

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบูชาอ่ะคับ ที่สงสัยแน่นอนเลยก็คือว่า การปฏิบัติบูชาส่วนใหญ่สำหรับผู้บูชาทางสายเทพเนี่ย จะต้องมีข้อปฏิบัติหรือข้อห้ามอะไรบ้างคับ เพราะว่าผมพอรู้แบบคร่าวๆ คับ ประมาณว่า ต้องมีการบูชาด้วยนม น้ำและผลไม้ แต่ผมกลัวว่าการบูชาบางอย่างผมอาจจะทำไม่ถูกไม่ควร ก็เลยขอรบกวนพวกพี่ๆ ทุกท่าน ช่วยสอนด้วยคับ เพราะอย่างน้อย ผมจะได้นำมาปฏิบัติให้เป็นในลักษณะที่ถูกต้อง เหมาะสมต่อไปคับ ขอขอบพระคุณมากนะคับ

ว่าแต่ว่า  บูชาองค์ไหนล่ะครับ
[HIGHLIGHT=#000000]*****จยันตี มังคลา กาลี  ภัทรกาลี กปาลิณี*****  [/HIGHLIGHT]

ลิ้งค์ด้านล่างนะครับ เป็นลิ้งค์ การบูชาพระตามธรรมเนียมที่ถูกต้องนะครับ

โดยเขียนและเรียบเรียงขึ้นโดย พี่หริทาส ครับ ซึ่งพี่เค้าบูชาพระแบบอินเดียเหนือนะครับ

ลองอ่านดูนะครับ


[t=27.0]

แค่อยากฝากไว้นะครับว่า

อย่ายึดติดครับ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นมายา เป็น กุศโลบาย ให้ผู้คนบูชาพระเป็นเจ้า
อยากให้ทุกคนมีสติ ในการบูชา
อยากให้ทุกคนมีสมาธิ ในการบูชา
ถึงแม้ว่าเราจะมีเครื่องมีอหรืออุปกรณ์ครบครันเพียงใด หรือ ถูกต้องเพียงไหน แต่หากการบูชานั้นขาดซึ่งสติ ขาดซึ่งสมาธิ คงจะเป็นการบูชาที่สมบูรณ์ไม่ได้

จริงหรือไม่ที่ต้องสั่นกระดิ่งเวลาอารตี ถ้าเป็นจริง ชาตินี้ทั้งชาติคนแขนด้วนแขนขาด ก็คงไม่สามารถบูชาพระองค์ได้
จริงหรือไม่ว่าต้องมีอุปกรณ์ที่ครบครับ ถ้าเป็นจริง ชาตินี้คงมีคนจนอีกหลายล้านคน ที่ไม่สามารถบูชาพระองค์ได้

ทุกสิ่งทุกอย่าง มนุษย์ปรุงแต่งขึ้น พระเป็นเจ้าไม่เคยอ้อนวอนขอ

เธอต้องเป่าสังข์เชิญนะ ไม่งั้นฉันจะไม่ประทานพรให้เธอ
เธอต้องถวายของนะ ไม่งั้นฉันจะไม่โปรดปรานเธอ
เธอต้องใช้ธูปหอมกำยานอย่างดีนะ ไม่งั้นฉันจะไม่รับรู้ว่าเธอบูชาอยู่

มีใครบ้างเคยได้ยินพระผู้เป็นเจ้าพูดอย่างข้างต้น ผมว่าคงไม่มีแน่นอนครับ

เพียงแต่อยากฝากเอาไว้ว่า ธรรมเนียมแต่ละที่ จารีตแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ก่อนจะทำอะไรให้ศึกษา และเลือกสายในการปฏิบัติตน แล้วมุ่งไปยังเส้นทางที่ตนได้เลือก แต่อย่ายึดติดให้ตัวเองตึงมากไปครับ

ปล. กระทู้นี้ผมตอบช้า เพราะติดธุระไม่ได้เข้าบอร์ดอยู่สองสามวัน

ชอบคำตอบของคุณกาลิทัสมากค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดี เพียงแค่เรามีใจศรัทธาพระองค์ เป็นลูกที่ดีก็เพียงพอแล้วสำหรับท่าน (จากประสบการณ์ที่ท่านมาโปรดลูก) อย่างอื่นก็เป็นการแสดงออกว่าเราอยากบูชาท่านเท่านั้น  

คำสอน  พระเวทย์  หรือแม้แต่เทวะ  ท่านเสมือนหนึ่ง พาหนะ ที่จะพาเราล่วงข้ามไปสู่ที่หมาย   เมื่อเราถึงที่หมาย  เราก็มิจำเป็นต้องยึดหรือใช้พาหนะนั้นๆ   (อ่านแล้วขบคิดกันให้ดีก่อนจะตีกลับนะครับ)  คำตอบนี้หาได้มีอหังการ มมังการใดๆเจือปน  หากแต่คนมักเอาจิตตนมาใส่ให้เกิดอคติเสียเอง  ผมอธิบายเป็นกลางๆ  ใครจะว่าอย่างไรผมไม่สน  เพราะถือว่าท่านบอกไว้เช่นนี้    พระเวทย์ พระคัมภีร์ต่างๆ  อ้างอิงกันไม่ไหวหรอกครับ  ว่าคำสอนนี้มาจากเล่มไหน  นิกายไหน  ผมรู้แค่ว่า  ท่านมาบอกแบบนี้  พอจะเทียบได้กับสิ่งใดในศาสนาบ้างครับ   ศรุติเหรอ  ไม่รู้สิ  แล้วแต่จะเรียก   เอาเป็นว่า  พาหนะใด  เส้นทางใด  ที่เข้ากับจริต  เข้ากับชีวิต  และมโนมูลฐานของเรา   จงเลือกทางนั้นครับ  หากเปรียบคำสอนและศาสนา หรือเหล่าเทวา เป็นเรือ   ที่นำพาพวกเราข้ามมหาสมุทรแห่ง กิเลส  ตัณหา  อุปาทาน  ต่างๆ  เมื่อถึงฝั่งแห่งอภิปรมาตมันแล้ว  เราก็มิต้องใช้เรือเหล่านั้นแล้ว  ใช่หรือไม่ครับ พี่น้อง
[HIGHLIGHT=#000000]*****จยันตี มังคลา กาลี  ภัทรกาลี กปาลิณี*****  [/HIGHLIGHT]

ง่ายๆนะวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องนะคะ

ไม่รู้อะไรแล้วอย่าทำเกินกว่าที่รู้ เพราะมันแหกคอกแหกรีตศาสนาที่สั่งสมมาเป็นพันๆปี

และถ้ารู้แล้วก็ทำให้เต็มที่กับสิ่งที่ได้รู้มา อย่าให้ด้อยกว่าหรือมากไปกว่าที่ทำได้

และถ้าผิด เมื่อรู้แล้วจงแก้ให้ถูก เพราะคำว่า ผู้ไม่รู้คือไม่ผิด มันใช้ไม่ได้ตลอด เพราะคำนี้ ทำให้หลายคน เมินเฉยไม่รู้ต่อไปไม่ขวนขวายที่จะรู้ เพื่อจะได้ไม่ผิด

สิ่งที่เขาสั่งสมกันมาเปนพันๆปี ศาสนาอยู่ได้เพราะกฏ เพราะจารีตไม่ใช่หรือ ไม่งั้น ศาสนาคงมั่วและเละเทะ ถ้าใครคิดอยากจะทำอยากทำอะไรก็ได้

ถ้าคุณคิดจะบูชาเทพเจ้าฮินดู คุณก็ต้องยอมรับในฮินดู ถ้าคุณจะนับถือพระคริสต์ คุณก็ต้องยอมรับในจารีตของศาสนาคริสต์ ถ้าคุณจะนับถือศาสนาพุทธ คุณก็ต้องเคารพในพระไตรปิฎก

ไม่ใช่คิดอะไรเอาเองตามใจ เพราะคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนก่อตั้งกำเนิดศาสนา

คุณไม่ใช่ศาสดา

และคุณไม่ได้เป็นคนเขียนพระคัมภีร์ใดๆ ก็ตาม หรือพระเวทย์

นอกจากคุณจะไปตั้งศาสนาใหม่ เขียนพระคัมภีร์เองใหม่ และได้รับการยอมรับจนได้ใช้คำว่า "ศาสนา" แล้ว

เพราะนี่ไม่ใช่ลัทธิใหม่สร้างด้วยศรัทธา

ยกเว้นแต่ว่าคุณจะกล่าวว่านี่คือการกระทำส่วนตัว ไม่ใช่ความเชื่อของศาสนา และคุณไม่ใช่คนที่ยอมรับในศาสนา

ขอบคุณค่ะ
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#ffc000]แร้ว ยม เหรอว่าศีล ฮินดู ที่มี อหิมสา สัตยะ พรหมจารียะ อัสเตยะ โลภะ เป็นต้นเนี่ย เหมือนศีลห้า ศสนาพุทธ รึป่าวก้าบ   อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  คนมาดูช่วยสอนหน่อยเด้อ                    [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffc000] ปล  ขออภัยที่ใช้ตัวใหญ่ เนื่องจากน้องทรายสายตาสั้น                         [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffc000]คุนแม๋ขอร้องงงงงงงงงง  [/HIGHLIGHT]


[HIGHLIGHT=#ffff00]............... notthing[/HIGHLIGHT] [HIGHLIGHT=#92d050]...ศรัทธา  ไม่ศรัทธา  งมงาย   ไม่งมงาย  เชื่อ   ไม่เชื่อ เหมือนปาท่องโก๋[/HIGHLIGHT]

เห็นกระทู้นี้อยู่หลายวัน ว่าจะออกความคิดเห็นบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยัง แต่ไหนๆได้เขียนมาตั้งหลายกระทู้แล้ว ต่ออีกสักหน่อยนะ อื้ม .....ขออนุญาตเว็บมาสเตอร์ก่อนว่าอาจจะมีการกล่าวถึงเรื่องเจ้าเรื่องทรงผสมบ้างเล็กน้อย แต่จะเป็นการเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง ก็คงไม่เป็นไรนะ จะพยายามเลี่ยงให้ถึงที่สุด ขอบอกก่อนว่าอันนี้เล่าให้ฟังนะ

เอาละเล่าให้ฟัง ว่าผมเริ่มบูชามายังไงไปยังไง จนทุกวันนี้ทำอย่างไร ขอย้อนกลับไปสัก 22 ปีที่แล้ว สมัยนั้น การบูชาเทพฮินดูยังไม่เป็นที่นิยมกันนั้น เท่าที่สังเกตุ จะหนักไปทางสายจีนมากกว่า สมัยนั้นคนบูชา ร.5 ก็ไม่มากนั้น ผมเป็นคนต่างจังหวัด แต่ก็เรียนรู้การไหว้พระไหว้เทพมาตั้งแต่เด็ก เพราะที่บ้านเขาชอบไปศาลเจ้า ก็เข้าออกบ่อยๆจนรู้พิธีกรรม แล้วก็โดนเรียกให้ไปเป็นมือช่วยผู้ถือไม้กี ต่อมาวันหนึ่ง มีคนเอาพระคเนศมาให้ทางบ้าน ที่บ้านก็ตั้งบูชา(ตอนนั้นผมเรียกเทพช้าง) แต่ด้วยเป็นคนต่างจังหวัดก็ไม่ทราบขั้นตอนในการบูชา ต่อมามีครูท่านหนึ่งเป็นผู้ที่สนใจและคาดว่าสนใจเป็นพิเศษเพราะเห็นพี่แก่มาที่บ้านที่ไร คุณเธอก็จะบิดมือบิดไม้ไปมาแล้วก็ร่ายภาษาอะไรก็ไม่รู้ ไอ้เราก็เป็นเด็ก(ตอนนั้นน่าจะสัก 19) ก็สงสัย???? แต่ไม่รู้จะถามใคร ถามผู้เป็นพ่อ ท่านก็ไม่รู้ จนต่อมา ก็มีคนเอาหนังสือเกี่ยวกับการบูชาเทพมาให้ แต่สมัยก่อนเขาจะแปลเป็นแบบไทยๆ พวกอ่านโองการประมาณนี้ ก็ศึกษาไป คำสวดก็พื้นๆ เช่น โอมนะโม นารายะ นะมะภะวันตุเม ทุติยัมปิ นะโม นารายะ นะมะ......ฯ ประมาณนี้ ก็เอาละวะ อ่านๆๆๆ ตามประสาคนอยากรู้ จนวันหนึ่ง มีข่าวว่า พระคเณศที่กรุงเทพ ดื่มนม??? เราก็ดูข่าว ยิ่งเรื่องแปลกแบบนี้ชอบ ก็ตามดู จนกระทั้ง อยากลองบ้าง ก็แอบหยิบเอาพระคเณศมาลองแบบในทีวีบ้าง สรุปเป็นไง 55555 นมไหลลงพื้นหมดเลย ก็ผมเล่นกรอกปากท่านอะครับ ในใจก็คิดว่า โห้ย ขี้หก..สร้างเรื่อง ก็เลยไม่สนใจ จนมาอายุประมาณ 20 ตอนนั้นผมเกเรมาก ประเภท ไม่อยู่โต๊ะสนุ๊ก ก็อยู่ร้านเหล้า(ดองยา) แล้วสุดท้ายก็ไปนอนตาม.....วัยรุ่นต้องเดานะ อิอิ ผมไม่เคยอยู่ติดบ้านเลย เพราะตอนนั้น บ้าสนุ๊กมาก ยิ่งตอนนั้นได้ไปเจอรุ่นพี่ที่เขาเป็นมืออาชีพแข่งขันประเภท ค. เขาเรียกกันแบบนั้น ก็ยิ่งบ้าหนักเลยหนักๆเข้าที่บ้านคงทนพฤติกรรมอันสุดเจ๋งของเราไม่ได้ ก็เลยหาเรื่อง บอกว่า เอ่อ..นี้ ป๋าเอาดวงมึงไปดู ดวงมึงไม่ดี ต้องกลับมานอนบ้านที่ห้องพระทุกคืน ไม่งั้นไม่ต้องมาเรียกกูพ่อนะ แต่เราก็ไม่สน ท่านก็เลยใช้ไม้เด็ด ว่าถ้าอยู่นอนบ้าน จะจ่ายเงินให้คืนละ 200 เออ แบบนี้เข้าท่า เลยจำใจนอน พอนอนได้ประมาณสัก 2 อาทิตย์ มันก็เหมือนคนขาดยา เพราะไม่อยากอยู่แล้ว ก็วางแผนว่าคืนนั้น จะแอบปีนหลังคาออกมา แต่ด้วยว่า ไม่เห็นเพื่อนมันขับรถผ่านมา ก็เลย คิดว่าพรุ่งนี้จะนัดเพื่อนมารับ สรุปเลยทนนอนอีกคืน คืนนี้ละที่พลิกชีวิตของคนที่ไม่เคยอยากจะบูชาเทพ ก็ต้องบูชามาจนถึงทุกวันนี้ ....เรื่องจะเป็นเช่นไรต่อไป ถ้าไม่เบื่อก่อนจะเล่าให้ฟังต่อ .....โหวตครับ

ขอเสริมนะค๊ะ ดังที่คุณ กาลิทัส พูดมานั้น ก็ถูกต้องค่ะ

เพราะในเมื่อปัจจัยเราไม่สามารถ ทำมากกว่านี้ได้ อย่างที่ดิชั้นพูดมาตลอดก็คือ

ทำเท่าที่ตัวเองทำได้ ถูกต้อง และสุดความสามารถ โดยไม่ต้องแหกกฏแหกรีต อยุ่ในกรอบของศาสนาที่กำหนดมา

นั้นก็ถือว่า เราบูชาท่านได้อย่างดีที่สุดแล้ว
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]

ย่องมาดึกๆเพราะนอนไม่หลับ โห้...ยังมีคนนอนไม่หลับแบบเราอีกตั้งหนึ่ง คน โอ้ มายก๊อตตตตตตตตตต

งั้นมาต่ออีกสักตอนดีกว่า .... หลังจากที่หลับไปก็ฝันว่า ........ผมนั่งอยู่ในห้องพระ แล้วก็ปรากฏมีแสงสว่างมากสีทองอร่าม เปล่งแสงจากองค์เทวรูปองค์หนึ่ง จำได้ว่าคุณแม่ไปเอามาจาก บ้านนอก พอดีชาวบ้านเขาขุดได้ ก็เลยเอามาให้ เป็นองค์นั่งถือจักร แสงสว่างมากจ้าจนแสบตา พอหรี่ตาดูอีกทีก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง ขณะนั้นก็มีน้าสาวคนหนึ่งได้เดินมาแล้วบอกว่า ตี๋ๆเลขออกแล้ว (ผมชื่อตี๋นะ) ผมเลยถามว่าเลขออกอะไร น้าสาวที่อยู่ในฝันก็บอกออกมา 7 ตัวเลย (สมัยนั้นรางวัลที่ 1 เจ็ดตัวครับ) พอพูดจบก็สะดุ่งตื่น พอจำได้ว่า ขณะนั้นจะรุ่งเช้าแล้ว ก็เลยจดเลขไว้ แต่จำเลขหลักสุดท้ายไม่ได้ เลยจดแค่หกตัว กะว่าตื่นมาอีกทีค่อยมานั่งนึก หลังจากนั้นก็นอนต่อจนมาตื่นอีกทีก็ตอนสายๆ เลยรีบลงมาช่วยทางบ้านเช็คหวย เพราะแต่ก่อนที่บ้านขายหวย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอาเลขที่เราฝันไปให้คุณพ่อ ท่านก็จดไว้ บอกว่าเราฝันกินบ้านกินเมือง คนอะไรจะฝันได้เจ็ดตัว แต่หลักสุดท้ายจำไม่ได้จริงๆ พอครั้นหวยออก ปรากฏว่าหวยออกตามที่เราฝันทุกตัว ตั้งแต่หลักล้านจนถึงหลักสิบ แต่หลักหน่วยเราจำไม่ได้ ก็เลยคิดว่า 5555 ได้รางวัลละเรา แต่ผลปรากฏว่าอดครับ เพราะคุณพ่อไม่ได้ซื้อ ท่านไม่เชื่อ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ถ้าวันใกล้ๆหวยออก คุณพ่อก็จะพยายามให้เรานอนตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อเราจะได้ฝันหวย และก็ไม่พลาดครับ หลายครั้งต่อหลายครั้ง เรามักฝันได้ไม่สองตัวก็สามตัวเรื่อย ในใจตอนนั้นก็คิดว่าถ้ามีโอกาส เราจะต้องเอาเทวรูปองค์นี้เป็นของเราให้ได้ หลังจากผมก็เริ่มศึกษาว่าประวัติเทพองค์นี้มีพระนามว่าอะไร ก็มารู้ว่าท่านคือพระนารายณ์นั้นเอง เป็นองค์ปฐมบรมครู ในการบูชาและภาวนาถึงท่านตั้งแต่นั้นเรื่อยมา มีครั้งหนึ่ง ผมได้หนังสือเกี่ยวกับ โยคะเล่มหนึ่ง ในหนังสือเล่มนั้น ได้วิธีปฏิบัติบูชาด้วยการภาวนา (ภักติโยคะ) ผมก็เริ่มศึกษา จนผมนั่งสมาธิแน่วนิ่งไปกับสมาธิ จนอยู่มาวันหนึ่งได้เกิดเรื่องมหัศจรรย์ทางจิตเป็นครั้งแรกกับผมก็ได้เริ่มเกิดขึ้น ...............ตอนนี้เริ่มง่วงแล้ว ค่อยมาต่อพรุ่งนี้ครับ

เหมือนอย่างที่บอกนะครับ  สายใดทางใด  ก็มีหลายสาย หลายทาง   เข้าทางไหนไปทางนั้น    แต่ละเส้น  แต่ละสาย  ถ้าสายไหนเป็นสัจจะ  สายนั้นย่อมเป็นสัจจะ   แต่สายไหน มิใช่สัจจะ  สายนั้นย่อมไม่สามารถตั้งอยู่ได้  พิสูจน์  แล้วทำความเข้าใจ  นะคร้าบบบ
[HIGHLIGHT=#000000]*****จยันตี มังคลา กาลี  ภัทรกาลี กปาลิณี*****  [/HIGHLIGHT]

ต่อค่ะ อยากได้เลขหวย แบ่งบ้างอะไรบ้าง นะค๊ะ เอามา โพสต์ บอกเลย รวยทั้งบอร์ด ออก รถกันทุกคน 555+
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]

คิดไปคิดมา ผมว่าผมหยุดเขียนต่อดีกว่า เดี๋ยวจะคนว่าผมโม้เกินไป เพราะเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้มันแสนจะพิศดาร หรือจะเรียกตามสายพุทธว่า เป็นเรื่องปัจจัตตัง เป็นเรื่องรู้ด้วยบุคคล และอีกอย่างการเล่าก็อาจจะเฉไฉนอกเรื่องบ้าง ซึ่งดูแล้วไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้สักเท่าไร อีกอย่างเพื่อเป็นการรักษากฏด้วย เดี๋ยวจะแหกกฏไป คนชอบมีคนเกียดเรามี งั้นผมขอหยุดเรื่องเล่าต่อครับ

เรื่องของไหว้ ให้ผู้รู้เขามาถกกันต่อ ส่วนของผมการบูชา แรกๆก็นิยมไหว้ถวายผลไม้ ถวายนม ถวายไฟ มีการอารตี ทุกวัน ในช่วงต้น แต่หลังๆมา ก็ไม่ได้ทำแบบที่ว่าเลย เพียงวันไหนสะดวกก็อาจจะซื้อผลไม้มาไหว้ จุดตะเกียง จุดกำยาน สวดมนต์ แล้วสิ้นสุดที่นั่งสมาธิ ....สุดท้าย ก็ทำแบบง่ายๆไม่ยุ่งยาก เพราะยิ่งทำก็ยิ่งเหมือนยึดติด แต่เรามาเร่งในการทำสมาธิเพื่อปล่อยวางให้ได้ในชาตินี้ครับ (วางจริตเดิม สันดานเดิม กิเลสเดิม ให้ได้ ก่อนกลับสู่แหล่งเดิมที่เรามา ) จบ

[HIGHLIGHT=#ffc000]ฝันเห็นเลข 763 อ่า สงสัยเป็นบ้านเลขที่ สมาชิกคนใน เวปป่าวเนี่ย ต้องลองซื้อซะแระ  อิอิ ( จิงๆนะ ) คุนแม๋ข่อร้องงงงงง[/HIGHLIGHT]


[HIGHLIGHT=#ffff00]............... notthing[/HIGHLIGHT] [HIGHLIGHT=#92d050]...ศรัทธา  ไม่ศรัทธา  งมงาย   ไม่งมงาย  เชื่อ   ไม่เชื่อ เหมือนปาท่องโก๋[/HIGHLIGHT]

ทุกคนมีทางเดินและสิ่งที่จะต้องพบเจอแตกต่างกันไป

ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#548dd4]แหม อาคุงเฮียตี๋ก้อ ตราบใดที่เรายางมะพูดภาษาฮินดีใส่กานแบบน้ำไหลไฟดับ คนไทยด้วยกาน มะรักกาน  จะไปรัก ปลาหมอสีที่ไหนอ่าคับ จะสีไหน คนไทย ก้อรักกัน ( เกี่ยวรึป่าวเนี่ย หุหุหุ )[/HIGHLIGHT]


[HIGHLIGHT=#ffff00]............... notthing[/HIGHLIGHT] [HIGHLIGHT=#92d050]...ศรัทธา  ไม่ศรัทธา  งมงาย   ไม่งมงาย  เชื่อ   ไม่เชื่อ เหมือนปาท่องโก๋[/HIGHLIGHT]

มาช้าดีกว่าไม่มา  เห็นด้วยกับคุณกาลีทัสทุกประการ  เเล้วการบูชาที่ดีที่สุดคือจิตใจของคนเรานั้นเอง จิตใจเราดีใสสะอาดไม่มีดำ  ก็จะทำให้การบูชานั้นดี  เเต่ถ้าคิดร้ายในระหว่างการบุชามันก็ไม่ดี  มันเป็นปัญหาโลกแตกมากสำหรับเรื่องการบูชาว่าการบูชาไหนดีที่สุด  มันไม่มีคำตอบให้คุณได้เห็นหรือรับทราบ  เเต่คำตอบที่น่าจะหาได้เเล้วตรงมากที่สุดเเล้วดีที่สุด คือการบุชาด้วย จิตใจอันประเสริฐนะคับ

[HIGHLIGHT=#ffffff]ถูกต้องค่ะ ทุกคนมีเเนวทางการปฎิบัติ ความคิด ความเชื่อที่เเตกต่างกันไปโดยส่วนตัวจะใช้พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งคนไทยทุกคนรู้จักมาตั้งเเต่เกิดอยู่เเล้วมาปฎิบัติ ในเเนวทางเทพเจ้า  ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้เเก่นเเท้ของฮินดูที่เเท้จิงหลอกค่ะ ถามว่าปฎิบัติอารตี พิธีทางฮินดูไม้ ปฎิบัติค่ะ ปฎิบัติเป็นประจำทำให้ดีที่สุด ซึ่งมีผิดพลาดบ้างไม้ เราไม่รู้เเต่ที่รู้คือ จิตที่เราเคารพบูชาองค์เทพเจ้าเท่านั้น ถูกบ้าง ผิดบ้างในการบูชา เเต่พระองค์ท่านน่าจะดูจากความตั้งใจมากกว่า ไม่จำเป็น ต้องใช้ของราคาเเพง องค์ที่เป็นโลหะ เเค่เพียงรูปภาพ อภินิหาร หรือเรื่องต่างๆ ก้อสามารถเกิดขึ้นได้ โดยส่วนตัวสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับดิชั้นมากเเล้ว จนบางครั้งคิดว่าตัวเองบ้า เเต่มันก้อเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดกับตัวเรา โอเคค่ะ สรุปได้ว่าการบุชา ไม่ว่าจะเป็นสายใด  คุณจะอยู่ศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ สอนให้เราทำตัวเป็นคนดี เเละถ้าเรายึดมั่นในตัวพระองค์ไม่ว่าจะบูชาด้วยถ้วยโลหะ หรือเเก้วพลาสติก รึสิ่งใดๆ พระองค์ย่อมดูที่ความตั้งใจเเละยึดมั่นในการบูชา มากกว่าจะใช้ของราคาเเพงๆ ที่เราๆไม่มีปัญญาจะซื้อได้ โอเคค่ะ  [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff]ขอบารมีพระเเม่เจ้าตรีซูลัมทรงอวยพรเเด่ทุกคนด้วยเถิด..[/HIGHLIGHT]


  ถูกที่สุดครับ เห็นด้วย เห็นควร และเห็นชอบครับ

ครับผม เห็นด้วยครับ   เพียงแต่ขอเสริมนิดหน่อยนะครับ
  ในบางคราว  เรื่องของการสร้างสถาปนาองค์เทพ  ก็มีเรื่องของ วัตถุที่จะสร้างองค์พระ  หรือ ของที่ใช้ในการบูชา  บางครั้งมันก็มีค่านิยม ธรรมเนียมกันอยู่บ้าง  แต่มันเป็นเรื่องเชิงลึกมากกว่า สำหรับเราๆผู้บูชาธรรมดา  ไหว้ตามมีตามเกิด  แต่ให้เต็มที่ ผมว่า ก็คงจะเพียงพอสำหรับผู้บูชาแบบพวกเรานะครับ 
    ในครั้งหนึ่ง ที่งานบูชาขององค์ ปุรุโซตรัม(พระกฤษณะ) มีสาวกคนหนึ่งที่มากด้วยศรัทธา แต่ไม่มีความรู้ใดๆเลย  จึงถามต่อคนที่บูชาในงานว่าจะถือบวชอย่างไร  คนในนั้นก็กลั่นแกล้งเธอด้วยจิตใจที่เดียดฉันท์ว่าเธอเป็นคนยากจน และ โง่เขลา  เธอได้บอกวิธีถือศีลแบบผิดๆ  สาวกคนนั้นก็ปฏิบัติ ด้วยความจงรักภักดี  จนเป็นที่พอพระทัยแด่องค์ปุรุโซตรัมเป็นอันมาก 
    นี่คือตัวอย่างอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังครับ
[HIGHLIGHT=#000000]*****จยันตี มังคลา กาลี  ภัทรกาลี กปาลิณี*****  [/HIGHLIGHT]