Loader

แนะนำด้วยครับ หิ้งพระที่บ้าน

Started by กษิติ, December 03, 2009, 09:53:34

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Quote from: ตรีศังกุ on December 24, 2009, 13:15:27

วัฒนธรรมจีนไม่มีเทศกาลกินเจครับ ย้ำว่าไม่มี ไต้หวัน ฮ่องกง ก็ไม่มี










[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

พี่เทวาเหนือเกล้า
ผมว่าดั่งเดิมมันจะเว้นผักฉุนฤไม่
ชั่งมันเทอะคัฟ
เราปฏิบัตตาม......ในสิ่งที่ใจเราบอกให้ทำเทอะคัฟ
เพราะจุดประสงค์ของการกินเจไม่ได้เพียงเพื่อบูชาต่อพระพุทธ โพธิสัตว์ สิ่งศักสัทธิ์
แต่ที่สำคัญคือการระงับ ระงับจากการเบียดเบียนต่อสรรพชีวิตอื่น
เพราะเวไนยสัตว์ในโลกนี้ต่างก็มีชีวิตจิตวิญาณมีความรู้สึกเหมือนกัน ที่สำคัญต่างก็มี พุทธธาตุแห่งตนเท่ากัน
มีสิทธิได้บรรลุธรรมเหมือนกันหมด
ผมว่าทำตามที่พี่สะดวกเทอะคัฟ
หากเราไม่สามารถกินได้แบบตรงๆก็กินเจเขี่ยเนี้ยะแหละ
อานิสงค์ของการกินเจทั่งสิบข้อผมว่าพี่คงทราบแล้ว
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

คุณน้อง พี่ไม่มีปัญหากับผักฉุน ผักเหม็น ผักไม่เหม็นค่ะ  คุณน้องขา

ขอบคุณนะคะน้องnai 3
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


Quote from: โหราน้อย on December 24, 2009, 16:32:57
Quote from: ตรีศังกุ on December 24, 2009, 13:15:27

วัฒนธรรมจีนไม่มีเทศกาลกินเจครับ ย้ำว่าไม่มี ไต้หวัน ฮ่องกง ก็ไม่มี











นั่นมันแค่เป็นที่มาเฉยๆ เขาสันนิษฐานครับ
ประวัติศาสตร์จีน ไม่มีเทศกาลกินเจครับ

.......

การงดผักฉุน มันไม่ใช่ประเพณีจีนหนิครับ

ที่ไต้หวัน เมนูอาหารเจ ยังเห็นหัวหอม ต้นหอม มาปรุงอาหารอยู่เลยครับ

คนจีนเขาไม่ได้พูดว่าถือศีลกินเจ แต่เขาพูดว่า ถือเจกินอาหารบริสุทธิ์ 持斋吃素

การงดผักฉุน เป็นการกินในวัด และอาหารเจแบบนี้ ก็ไม่ไดเป็นอาหารรสเลิศ อาจเป็นข้าวต้ม กินกับเต้าหู้ใส่เต้าเจี้ยว

......

ร้านอาหารเจในไต้หวัน และในโทรทัศน์ที่ทำอาหารเจ ผมยังเห็เขาใส่นม เนย หัวหอม ต้นหอม ในอาหารเลยครับ

น้องNai3 พี่ยังไม่รู้เล้ย อานิสงค์ของการกินเจ 10 ข้อ อ่ะ มีอะไรบ้างจ้า

พี่กินมัง เพราะพี่สงสารน้องหมู น้องไก่ เอาง่าย ๆ สงสารเค้า แค่นั่นเอง

ความหมายอะไรพี่ไม่รู้สักอย่าง รู้แต่ว่า ทำแล้วสบายใจ ก็ทำต่อไปนั่นล่ะจร้า

ว่าแต่ เอาอานิสงค์มาให้พี่อยากรู้ ตอนนี้หาความรู้มาแจก ซะดีดี อิอิ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


คืองง่ายๆ ค่ะ สมัยนี้ มันมารวม กัน ขยำ ขยุม ปนเป หมดแล้ว

คนไทยเราก็เลย ทำตามๆๆๆ กันมาไม่รุ้อะไร

จบ

เพราะ เถียงไปก็เท่านั้น ไม่แลดูว่าจะมีใครได้สาระอะไรขึ้นมา
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]

กรุณาอย่ามองว่าเป็นการเถียงหรือการทะเลาะเบาะแว้งนะครับ  หากมองด้วยปัญญาจะทราบดีว่าเป็นการค้นหาความจริง

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

มีจิตเมตตาไม่อยากเบียดเบียน
ก็ถือว่าโพธิจิตได้บังเกิดแล้วคัฟ
ที่คุณตรีศังกุบอกว่าอาหารเจที่ไต้หวันใส่หัวหอม ต้นหอม
ผมยังไม่เคยเจอเลย
อาหารเจไต้หวันกับอาหารเจในจีน มันไม่ต่างกับอาหารเจไทยเลยนะคัฟ
ว่างๆคุณนั่งเครื่องบินไปกินเล่นๆตามวัดต่างๆก็จะรู้นะคัฟ
ที่คุณIMFAO บอกว่ามันไร้สาระมันไร้สาระตรงไหนคัฟ
เราทั่งหมดที่มาคุยกันนะตรงนี้ต่างก็ต้องการหาความรุ้
ถ้าเกิดแต่ละคนมาเพื่อที่จะกอบโกยโดยที่ไม่เผยแพร่
แล้วปัญญามันจะเกิดไหมอะคัฟ
ความรู้จะแพร่ขยายเหมือนดั่งเทียนที่จุดต่อเพื่อยังความสว่างไหมอะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

เอิ๊กส์  พี่ให้คะแนนเกือบมะทันเลย น้องชาย NAI3  ว่าแต่ไหนอ่ะ

อานิสงค์ 10 ประการของการกินเจ  เอามาขยายต่อซะโดยดี

(เดี๊ยวนี้เริ่ม มีทวงแล้วนะ) อิอิ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


พี่ลองไปเซิรทในกูเกิล
ดูจิคัฟ
จะเจอขึ้นมาเลย
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

Quote from: nai 3 on December 25, 2009, 20:36:53
มีจิตเมตตาไม่อยากเบียดเบียน
ก็ถือว่าโพธิจิตได้บังเกิดแล้วคัฟ
ที่คุณตรีศังกุบอกว่าอาหารเจที่ไต้หวันใส่หัวหอม ต้นหอม
ผมยังไม่เคยเจอเลย
อาหารเจไต้หวันกับอาหารเจในจีน มันไม่ต่างกับอาหารเจไทยเลยนะคัฟ
ว่างๆคุณนั่งเครื่องบินไปกินเล่นๆตามวัดต่างๆก็จะรู้นะคัฟ
ที่คุณIMFAO บอกว่ามันไร้สาระมันไร้สาระตรงไหนคัฟ
เราทั่งหมดที่มาคุยกันนะตรงนี้ต่างก็ต้องการหาความรุ้
ถ้าเกิดแต่ละคนมาเพื่อที่จะกอบโกยโดยที่ไม่เผยแพร่
แล้วปัญญามันจะเกิดไหมอะคัฟ
ความรู้จะแพร่ขยายเหมือนดั่งเทียนที่จุดต่อเพื่อยังความสว่างไหมอะคัฟ

เพราะที่นั่นเขาไม่เคร่งไงครับ

ก็อาหารเจที่ไม่ใส่ผักฉุน มันเป็นอาหารกินในวัดนิครับ

แต่อาหารเจแบบเหลา ฮ่องเต้ ก็ใส่ผักฉุน ใส่นม เนย ไข่ก็มีครับ......เคยเห็นอยู่

สงสัย
ตามอาหารเหลาแบบนี้ผมคงจะม่เคยเห็น
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

เพราะในร้านอาหารเขาไม่ได้บอกส่วนผสมหน่ะ
แต่ผมเคยอ่านตั้งแต่เมนู วิธีทำอาหาร นม เนย เขายังใส่เลยครับ

อันนี้ผมก็ไม่ทราบอะนะ
แต่ที่ผมเคยเห็น
เค้าจะม่ใส่ของพวกนี้เลย
ผักทั่ง5ก็ไม่ใส่
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ผมก็ทราบมาทำนองเดียวกับท่าน nai 3 ครับ  เพราะสอบถามไปยังเพื่อนที่เคยบวชเป็นพระจีนจากวัดโพธิ์แมนคุณาราม  คำตอบที่ได้คือพระที่เดินทางมาจากเมืองจีนบอกว่า  ไม่เฉพาะพระสงฆ์ที่ทานเจเท่านั้นที่ไม่ทานพวกผักฉุน  ฆราวาสที่ทานเจเองก็ไม่ทานพวกผักฉุนเช่นกันครับ

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

โห  งกอ่ะน้อง NAI3
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


Quote from: โหราน้อย on December 27, 2009, 21:46:55
ผมก็ทราบมาทำนองเดียวกับท่าน nai 3 ครับ  เพราะสอบถามไปยังเพื่อนที่เคยบวชเป็นพระจีนจากวัดโพธิ์แมนคุณาราม  คำตอบที่ได้คือพระที่เดินทางมาจากเมืองจีนบอกว่า  ไม่เฉพาะพระสงฆ์ที่ทานเจเท่านั้นที่ไม่ทานพวกผักฉุน  ฆราวาสที่ทานเจเองก็ไม่ทานพวกผักฉุนเช่นกันครับ

ฆราวาสนี่ ฆราวาสไหนครับ

ผักฉุนที่คนจีนถือ มันมีผักอะไรบ้าง???

ฆราวาสที่หลวงพี่บอกคุณ เพราะไม่กินหรือไม่ชอบครับ???

เรื่องผักฉุนในวัฒนธรรมจีน มันไม่เหมือนกัน แต่ละท้องที่ไม่เหมือนกัน บางแห่งมันมีหัวหอม บางแห่งก็ว่าคึ่นช่ายเป็นผักฉน บางแห่งก็ว่าผักชีเป็นผักฉุน

ซึ่งแนวคิดผักฉุนในลัทธเต๋าที่รับมาจากอินเดีย เอามาดัดแปลง และเรื่องผักฉุนก็ไม่เหมือนกัน แต่หลักๆมันมีกระเทียม เพราะกลิ่นมันแรง สวดมนต์แล้วกลิ่นมันรบกวนผู้อื่น เหตุผลนี้พอฟังขึ้น แล้วบอกว่างดเพื่อชำระจิตใจให้สงบ......ก็เปนเรื่องของนักบวช

......

อาหารจีนในจีนเอง มันมีสักกี่ชนิดมันใส่ผักฉุน??? หมายถึงอาหารจีนในจีนนะครับ

http://www.trang2.go.th/kmc/modules.php?name=News&file=print&sid=811

เหตุผลง่ายๆ

ที่เขาห้ามกินผักฉุน เพราะสมัยก่อนโน้นมันไม่มีน้ำยาดับกลิ่นปาก ไม่มียาสีฟัน เกรงถ้าถ้าทานผักฉุน แล้วพระสวดมนต์ ทำให้เหม็นตลบอบอวลทั้งวัดเวลาสวดมนต์.....กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลกครับ

เหตุผลมันเป็นเรื่องกลิ่นปากมากกว่านะครับ เห่ๆ

ผักฉุน เช่น กระเทียม ในความเชื่อศาสนาฮินดู กินแล้วเกิดความกำหนัด อันนี้มันพอฟังขึ้นอยู่ครับ

และที่ผมจำได้ ในความเชื่อฮินดู ผักที่ว่ากินแล้วกำหนัด ห้ามกิน มี กระเทียม หัวหอม ต้นหอม

ผักต้องห้ามในประเพณีกินเจ
<!-- Main -->[SIZE=-1]ผักต้องห้ามในประเพณีกินเจ

ความเชื่อเกี่ยวกับชนิดของผักต้องห้ามในอาหารเจนั้นมีความเชื่อแตกต่างกันไป ขึ้นกับคำสอนหรือคำภีร์ที่แต่ละสำนักจะยึดถือเป็นสรณะ

คัมภีร์หลิงซู่ ( 靈樞經 ) เรียกผักต้องห้ามว่า อู่ไช่ ( 五菜 ) ประกอบด้วย

1.ผักพิมเสน
2.ผักกูฉ่าย
3.หอม
4.หอมปรัง (หลักเกี๋ยว,หลักเกียว)
5.ทานตะวัน

หอมปรัง (หลักเกี๋ยว) มีลักษณะคล้ายหัวหอม ใบกลวง แต่มีขนาดของหัวและใบเล็กกว่า ส่วนหัวมีสีขาวเจือชมพู กลิ่นและรสชาดฉุนจัดกว่าหอม เวลาเคี้ยวจะรู้สึกกรุบกรอบ
[/SIZE]
[SIZE=-1]คัมภีร์ไท่ชิงวี่เช่อ ( 太清玉冊 ) เรียกผักต้องห้ามว่า อู่ฮุน ( 五葷 ) ประกอบด้วย

1.หอม
2.กระเทียม
3.หอมปรัง (หลักเกี๋ยว)
4.ผักกูฉ่าย
5.ผักชี

คัมภีร์จินซูเจิ้นจี่ ( 金書真記 ) เรียกผักต้องห้ามว่า อู่ซิน ( 五辛 ) ประกอบด้วย

1.หอม
2.กระเทียม
3.หอมปรัง (หลักเกี๋ยว)
4.ผักกูฉ่าย
5.มหาหิงคุ์ (เฮงกื๋อ)

เฮงกื๋อ  興渠 เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับผักชี แต่มีลำตันสูงใหญ่แบบไม้พุ่ม ทางจีนตะวันตก อินเดีย และอาหรับ จะขุดดินส่วนรากเป็นโพรงและกรีดเอายางจากรากเฮงกื๋อมาใช้เป็นยารักษาระบบการย่อยอาหาร ไทยเราใช้ยางไม้นี้ละลายกับเหล้าเป็นยามหาหิงคุ์ทาท้องเด็กเล็กแก้จุกเสียด อืดเฟ้อ

คัมภีร์เออหย่า ( 爾雅 ) เรียกผักต้องห้ามว่า อู่ฮุน ( 五葷 ) ประกอบด้วย

1.กูฉ่าย 韭菜
2.หอมปรัง (หลักเกี๋ยว) 六藠
3.กระเทียม 大蒜
4.ผักชี 香菜
5.ผักมัสตาร์ด ( หุ่งไท้ 蕓薹 ) [/SIZE]
[SIZE=-1][/SIZE]
[SIZE=-1]ดอกมัสตาร์ดจะอยู่ตรงส่วนยอด เมื่อแก่จะให้เมล็ดสำหรับสะกัดน้ำมัน และผงมัสตาร์ด


ในประเทศจีนผักมัสตาร์ดนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ผักน้ำมัน ( 油菜 ) เพราะเมล็ดแก่ของผักชนิดนี้สามารถนำไปหีบเป็นน้ำมันพืชเพื่อใช้ปรุงอาหารในครัวเรือนและในอุตสาหกรรม ทั้งเมล็ดยังใช้ในการสกัดผงมัสตาร์ดที่เผ็ดร้อนซ่านจมูก ดังนั้นกินเจของคนจีนบางถิ่น(จีนแคะ)จึงหมายรวมถึงการห้ามใช้น้ำมันในการปรุงอาหารเจด้วย

ท่านจะเห็นได้ว่า คัมภีร์ที่กำหนดชนิดผักต้องห้ามที่ยกมากล่าวข้างต้นไม่มีฉบับใดเลยกล่าวถึงยาสูบ ที่มักปรากฎในเอกสารเกี่ยวกับเรื่องกินเจของไทย ทั้งนี้เพราะในวัฒนธรรมจีนเดิมถือยาสูบหรือบุหรี่เป็นสิ่งเสพติด อันเป็นของต้องห้ามในศีลห้าของฝ่ายมหายานอยู่แล้ว อีกทั้งใบยาสูบก็หาใช่พืชผักที่รับประทานในชีวิตประจำวัน

การระบุยาสูบเป็นผักต้องห้ามน่าจะเกิดจากความผิดหลงของผู้แปลในศัพท์คำว่า หุ่งไท้ ( 蕓薹 ) ซึ่งออกเสียงใกล้กับคำว่า “ฮุง” ในภาษาถิ่นแต้จิ๋วที่แปลว่า บุหรี่

อ้างธาตุห้า พาสับสน

ผู้เขียนบางท่านยกเอาหลักธาตุห้าของจีน ( 五行 ) ขึ้นอ้างเป็นเหตุผลเกี่ยวกับการห้ามรับประทานผักต้องห้ามอย่างดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ชอบด้วยหลักหลักการแพทย์แผนจีน เช่น

ห้ามรับประทานใบยาสูบ เพราะทำลายการทำงานของปอดและกระทบธาตุโลหะในร่างกาย หรือ

ห้ามรับประทานหัวหอม เพราะทำลายการทำงานของไต และกระทบธาตุน้ำในร่างกาย และอื่นๆ

การกล่าวอ้างดังนี้ไม่ชอบ เพราะ ใบยาสูบมิใช่ผักเพื่อการรับประทานดังกล่าวแล้วข้างต้น ทั้งการอ้างก็ผิดและแย้งกับหลักการแพทย์แผนจีน เพราะคัมภีร์การแพทย์จีนถือว่า หัวหอม หรือต้นหอม มีรสเจือเผ็ด ถูกจัดเป็นธาตุน้ำ ซึ่งเป็นธาตุที่ส่งเสริมการทำงานของตับ ที่ตามความเชื่อในลัทธิธาตุห้าถือว่าเป็นธาตุไม้ ที่ต้องมีน้ำมาส่งเสริม

ดังนั้นหากจะอ้างเอาความเชื่อในธาตุห้าแล้ว เรากลับจะต้องรับประทานหัวหอมให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย ทั้งตัวหอมเองก็มีผลในการบำรุงการทำงานของตับ

การอ้างหลักธาตุห้าจึงรังแต่จะสร้างความสับสนสำหรับการเรียนรู้ในระยะยาว



สาเหตุที่ห้ามรับประทานผักต้องห้าม
เหตุที่ห้ามรับประทานผักบางชนิดปรากฏในพระสูตรเหลิ่งเอี๋ยน ( 楞嚴經 ) ซึ่งกล่าวว่า ผักต้องห้ามที่ยกขึ้นกล่าวในพระสูตรนั้น หากรับประทานเมื่อปรุงสุกแล้วจะมีผลกระตุ้นความทุรนอยากในกาม หากรับประทานเมื่อยังดิบก็จะทำให้อารมณ์วู่วาม ด่วนกระทำการก่อนใคร่ครวญ ผู้ที่รับประทานเป็นประจำจะส่งกลิ่นขับมงคลเทพให้ไกลห่าง แต่กลับเป็นที่ยั่วยวนให้เหล่าอสูรหลงใหลและเข้ามาพัวพัน



http://plaengnam.bloggang.com[/SIZE]
[SIZE=-1][/SIZE]
[SIZE=-1]...[/SIZE]
[SIZE=-1][/SIZE]
[SIZE=-1]พระสูตรเหลิ่งเอี๋ยน คือ ศูรางคมสูตร[/SIZE]
[SIZE=-1][/SIZE]
[SIZE=-1]http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plaengnam&month=05-2007&date=19&group=3&gblog=11[/SIZE]
[SIZE=-1]เรื่องนุ่งขาวห่มขาว[/SIZE]
[SIZE=-1][/SIZE]
[SIZE=-1]แต่ผมว่านุ่งขาวห่มขาว เป็นชุดสวมในขณะถือศีล อันนี้เข้าเค้าอยู่ครับ<!-- End main-->[/SIZE]

Quote from: ตรีศังกุ on December 28, 2009, 06:47:13
Quote from: โหราน้อย on December 27, 2009, 21:46:55
ผมก็ทราบมาทำนองเดียวกับท่าน nai 3 ครับ  เพราะสอบถามไปยังเพื่อนที่เคยบวชเป็นพระจีนจากวัดโพธิ์แมนคุณาราม  คำตอบที่ได้คือพระที่เดินทางมาจากเมืองจีนบอกว่า  ไม่เฉพาะพระสงฆ์ที่ทานเจเท่านั้นที่ไม่ทานพวกผักฉุน  ฆราวาสที่ทานเจเองก็ไม่ทานพวกผักฉุนเช่นกันครับ

ฆราวาสนี่ ฆราวาสไหนครับ

ผักฉุนที่คนจีนถือ มันมีผักอะไรบ้าง???

ฆราวาสที่หลวงพี่บอกคุณ เพราะไม่กินหรือไม่ชอบครับ???

ผมว่าท่านกาลิทัสน่าจะตักเตือนบุคคลนี้อีกสักรอบนะครับ  เพราะจากที่ผมสังเกตุมาหลายๆกระทู้เค้าไม่ได้ต้องการเข้ามาเพื่อแสวงหาความรู้  หรือถ่ายทอดความรู้ของตนเองให้แก่ผู้อื่นอย่างแท้จริง  ในทางตรงกันข้ามเข้ามาเพื่อก่อความวุ่นวายเสียมากกว่า  และพยายามป่วนความเห็นของเพื่อนสมาชิกไปทั่ว  หากยังปล่อยไว้ให้มีพฤติกรรมอยู่เช่นนี้ผมคิดว่ารังแต่จะก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายต่อบุคคลอื่นครับ

ปล.สรรพนามที่ใช้เรียกพระจีนคือ ซือเฮีย นะครับท่านผู้รอบรู้ หาใช่คำว่า หลวงพี่แต่ประการใด

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

เอาเป็นว่า
ทำตาม
สิ่งที่ปัจจุบันกาลนิยมทำเทอะคัฟ
มัวแต่สาวถึงคัมภีร์เล่มนุ่นคัมภีร์เล่มนี้
วุ่นวายปล่าว






ธรรมแท้จริงไร้ตัวอักษร
แม้กระดาษขาวที่เขียนความก็หาใช่ธรรมะ
แม้หมึกดำที่เขียนความก็หาใช่ธรรมไม่
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

Quote from: โหราน้อย on December 28, 2009, 22:10:46
Quote from: ตรีศังกุ on December 28, 2009, 06:47:13
Quote from: โหราน้อย on December 27, 2009, 21:46:55
ผมก็ทราบมาทำนองเดียวกับท่าน nai 3 ครับ  เพราะสอบถามไปยังเพื่อนที่เคยบวชเป็นพระจีนจากวัดโพธิ์แมนคุณาราม  คำตอบที่ได้คือพระที่เดินทางมาจากเมืองจีนบอกว่า  ไม่เฉพาะพระสงฆ์ที่ทานเจเท่านั้นที่ไม่ทานพวกผักฉุน  ฆราวาสที่ทานเจเองก็ไม่ทานพวกผักฉุนเช่นกันครับ

ฆราวาสนี่ ฆราวาสไหนครับ

ผักฉุนที่คนจีนถือ มันมีผักอะไรบ้าง???

ฆราวาสที่หลวงพี่บอกคุณ เพราะไม่กินหรือไม่ชอบครับ???

ผมว่าท่านกาลิทัสน่าจะตักเตือนบุคคลนี้อีกสักรอบนะครับ  เพราะจากที่ผมสังเกตุมาหลายๆกระทู้เค้าไม่ได้ต้องการเข้ามาเพื่อแสวงหาความรู้  หรือถ่ายทอดความรู้ของตนเองให้แก่ผู้อื่นอย่างแท้จริง  ในทางตรงกันข้ามเข้ามาเพื่อก่อความวุ่นวายเสียมากกว่า  และพยายามป่วนความเห็นของเพื่อนสมาชิกไปทั่ว  หากยังปล่อยไว้ให้มีพฤติกรรมอยู่เช่นนี้ผมคิดว่ารังแต่จะก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายต่อบุคคลอื่นครับ

ปล.สรรพนามที่ใช้เรียกพระจีนคือ ซือเฮีย นะครับท่านผู้รอบรู้ หาใช่คำว่า หลวงพี่แต่ประการใด


รู้ครับ

ผมไปวัดจีน ก็เรียกหลวงพ่อ หลวงพี่ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรครับ