Loader

รูปพระกฤษณะผู้มีรักแท้

Started by Kimnei, September 28, 2009, 11:16:33

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

คิดว่าหลายคนคงเคยได้เห็นกันมาแล้ว








เห็นรูปสวยดีเลยนำมาแบ่งปันค่ะ   ซ้ำกับกระทู้เก่านะคะ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

เออเนอะ นอนดึกมากเลยเบลอว่าจะเพิ่มเติมกระทู้พี่สฺวสฺติ ขออภัยด้วยนะคะ

กลายเป็นหัวข้อใหม่เลย 
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

งั้นเพิ่มเติมข้อมูลตรงนี้ดีกว่าค่ะจะได้ไม่ซ้ำเค้ามาก
ประวัติของพระนาม

คำศัพท์ กฤษณะ (เทวนาครี: कृष्ण)นั้นเป็นภาษาสันสกฤตมีความหมายว่า ดำ คล้ำ มืด หรือนํ้าเงินเข้ม ซึ่งใช้พรรณนาบุคคลที่มีสีผิวคลํ้า พระกฤษณะทรงได้รับคำพรรณนาบ่อยๆ ว่าผิวดำ แต่ในรูปภาพนั้นพระองค์ได้รับการวาดด้วยสีผิวสีนํ้าเงินเข้ม

พระประวัติ
พระกฤษณะเป็นหลานตาของกษัตริย์ ณ มถุรานคร พระกษัตริยมรมพระนามว่าอุคระเสน พระกษัตริย์มีบุตร ๒ คน พญากงส์และนางเทวกี นางเทวกีได้สมรสกับพระวสุเทพ ต่อมาพญากงส์กบฎต่อพระบิดา ได้จับพระบิดาอุคระเสนและพี่สาวพี่เขยขังไว้ โหรทำนายว่าบุตรคนที่แปดของนางเทวกีจะฆ่าพญากงส์ พญากงส์จึงฆ่าลูกทุกคนของนางเทวกี หลังจากฆ่าหกคนแรกแล้ว คนที่เจ็ดแท้ง พระกฤษณะเป็นคนที่แปด พระวสุเทพสามารถลักลอบเอาพระกฤษณะไปฝากให้โคบาลชื่อนันทะและนางยโศธาเลี้ยงได้



มหาภารตะ

กฤษณะเป็นญาติฝ่ายมารดาของฝ่ายปาณฑพ พระกฤษณะได้ช่วยเหลือพี่น้องปาณฑพหลายครั้งหลายหน เช่น ช่วยเป็นประธานในพิธีกรรมราชสูรยะของยุธิษฐิระ ช่วยภีมะฆ่าท้าวชราสัน ช่วยเหลือพระนางเทราปตีจากการถูกทุหศาสันเปลื้องผ้าส่าหรี และเป็นผู้ถ่ายทอดภควัทคีตาแก่อรชุน เป็นสารถีและเป็นผู้ชี้นำของอรชุนในการปราบแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝ่ายเการพ เช่น ภีษมะ โทรณาจารย์ และ กรรณะ




การตายของกฤษณะ

หลังจากสงครามสิ้นสุดลง พระกฤษณะครองกรุงทวารกาไปอีก 36 ปี พระองค์เสด็จไปไช้ชีวิตในป่าหลังจากสละราชบัลลังค์ไห้กับเหล่ากษัตริย์ยาฑพซึ่งกำลังแย่งชิงอำนาจกัน ระหว่างที่พระกฤษณะกำลังนั่งสมาธิ นายพรานจาราได้ยิงธนูไส่ข้อเท้าของพระองค์ถึงแก่ความตาย ตำนานกล่าวไว้ว่าแท้จริงแล้วพรานจาราในชาติที่แล้วคือพญาพาลีกษัตริย์แห่งขีดขิน สนองเวรแก่พระวิษณุซึ่งเคยอวตารเป็นพระรามและฆ่าตนตายอย่างไม่ยุติธรรม หลังจากการตายของพระกฤษณะ กรุงทวารกาและเหล่ายาฑพทั้งหมดได้จมลงสู่มหาสมุทร กาลียุคได้เข้ามาแทนที่ทวาปรยุค




พระนามของพระกฤษณะ

  • มเธวะ (Madhava)แปลว่า ผู้นำมาซึ่งฤดูใบไม้ผลิ
  • เกศวะ (Keshava)แปลว่า ผู้มีผมงาม
  • หริ (Hari)แปลว่า ผู้กำจัด
  • โควินธ์ (Govinda)แปลว่า คนเลี้ยงวัว
  • ทวารกานาถ (Dwarakanath)แปลว่า ผู้ปกครองแห่งกรุงทวารกา
  • กรรณหา (Kanha)เป็นชื่อเรียกของพระกฤษณะในวัยเด็ก
  • วาสุเทพ (Vasudeva)เป็นชื่อเรียกตามชื่อท้าววาสุเทพผู้เป็นบิดา
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

น้องกิมจ๋า เก่งไม่ใช่ย่อยเลยนะเรา ชื่นชมจากใจจ้ะ 

ขอบใจนะจ๊ะ ประวัติของพระกฤษณะ 

วันนี้มีคนเอาพระกฤษณะมาให้พี่แนทบูชาด้วยล่ะ องค์ไม่ใหญ่แต่ยังไงก็ดีใจค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ



ภาพสวยจังค่ะ ขออนุญาติเซฟเก็บไว้บูชานะคะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ




เพิ่มเติมให้ครับ

ภาพนี้เป็นภาพพระกฤษณะ กับ อรชุนครับ ( 1 ในพี่น้องตระกูลปาณฑพครับ) โดยในภาพ พระกฤษณะกับอรชุนกำลังเป่าสังข์เป็นสัญญาณการเริ่มต้นสู้รบกันระหว่างสองตระกูล ปาณฑพ และ เการพ

การกลับสู่เกษียณสมุทรของพระองค์(การสิ้นอายุรกฤษซัง) อีกตำนานนึงของตระกูลของผมเอง ผิดถูกยังไงไม่ว่ากัน เพราะเป็นเรื่องที่ผมถูกปลุกฝังมาตั้งแต่เด็กอาจจะไม่ชัดเจนมากนัก แต่ประวัติทางบ้านผมมีความคล้ายกับ หนังสือของ ส. พลายน้อยมากครับ

ลูกชายของพระกฤษณะชื่อกรรษามาแต่งเป็นหญิงท้องแก่ ไปหยอก นารทมุนี ว่าลูกของดิฉันจะออกมาเป็นอะไร พระนารท โกรธ พร้อมสาปว่า ออกมาเป็น หอกต้นอ้อ ทิ่มแทงโคตรตระกูลมึงนะสิ

ทันใดนั้น ครรปลอมของกรรษามา ก็ออกมาเป็นเมล็ดต้นอ้อ กรรษามากลัวมากจึง หอบเอาเมล็ดต้นอ้อเอาไปทิ้งทะเล ด้วยความลนลานจึงเผลอทำเมล็ดตกลงพื้นเป็นจำนวนมากแต่กรรษามาไม่สน มุ่งจะเอาเมล็ดที่เหลือไปทิ้งอย่างเดียว แล้วจึงกลับสู่เคหะสถานทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ส่วนเมล็ดที่ตกทะเลมีปลามากิน วันนึงพรานจาราออกประมงและได้จับปลาตัวนี้ขึ้นมาเจอต้นอ้อในท้องปลา(ต้นอ้อนี้ได้เจริญเติบโตในท้องปลาปลาตัวนี้ชาติที่แล้วคือม้าอุปการที่ถูกพระรามบูชายัญ) พรานจาราจึงเหลาต้นอ้อเป็นศรเก็บไว้ล่าสัตว์

ครั้นเวลาผ่านไปพวกยาฑพแย่งชิงบัลลังค์ พระองค์จึงคิดจะสละบัลลังค์และอพยพไปยังเกาะสรรวินชา(ปัจจุบันเกาะนี้จมลงมหาสมุทรไปแล้ว) พระองค์ให้พวกลูกๆทั้งหมื่นนำหน้าไปยังทะเลก่อนพระองค์เสด็จท้ายขบวนบรรยากาศชั่งเป็นใจนักอากาศเริ่มหนาวจนพระองค์สั่นจนแทบยืนไม่ไว้ เมฆฝนลอยมาทับตะวัน หาดทรายกลายเป็นสีเงิน นกกาบินว้อนแทนนกนางนวล นำทะเลลดลงอย่างไม่น่าเชื่อเพื่อรองรับลูกๆทั้งหมื่นของพระองค์ พระกฤษณะเริ่ม เหนื่อยเหมือนกับตนเองชราภาพและนั่งพิงใต้ต้นไทรอยู่เพียงรำพัง

ระหว่างรอเรือลูกๆทั้งหมื่นได้ดื่มสุราเสพอบายมุข จนขาดสติและถอนต้นอ้อที่กรรษามาเผลอทิ้งไว้ จนบัดนี้ได้เจริญเติบโตมาพร้อมเป็นหอก ดั่งคำสาปพระนารท พระกฤษณะที่หมดแรงเดนมองเหล่าลูกๆ ของพระองค์ฆ่าฟันกัน ครั้นนึกถึงครั้นวัยหนุ่มพระองค์พระองค์ทรงถามตัวเอง จะมีไปทำไมชายานับหมื่น จะมีทำไม น้ำตาของพระองค์เริ่มไหลหลั่ง การหายใจ เริ่มไม่เป็นจังหวะ พระองค์เริ่มสะอึก ครั้นนึกถึงความสุขและความมั่นสัญญาว่าจะมีนางราทาเพียงองค์เดียว บัดนี้พระองค์ทรงพลาดไปเสียแล้ว นี่แหละผลของกิเลสและความไม่พอของพระองค์ การหั้มหั่นของลูกๆพระองค์สิ้นสุด หาดทรายสีเงินกลายเป็นสีแดง เสียงแห่งความตายดับเหลือแต่เสียงครื้นทะเลแพ่วเบา และเสียงรำไห้ของพระองค์ ผ่านไปชั่วครู่พระองค์หยุดร้อง และมองข้ามผ่านซากศพลูกของพระองค์ มองไปอย่างทะล นัยน์ตาของพระองค์เริ่มสว่าง กายมนุษย์ของพระองค์เริ่มรู้สึกกลิ่นอายของบัลลังค์นาคที่พระองค์เคยนอน กลิ่นของพระนางลักษมี กลิ่นของเกษียณสมุทร

พระองค์เหม่ออยู่ชั่วครูลมเริ่มพัดแรง พรานจาราเห็นพระกฤษณะนึกว่าเป็นเนื้อทรายจึงลั่นศรต้นอ้อที่พระนารทสาปใส่กลางอกพระกฤษณะ พรานจารานี้คือพาลีที่ชาติที่แล้วพระรามทรงประหารไป บัดนี้ก็สิ้นเวรสิ้นกรรมแลวพรานจาราได้สนองกรรมแล้ว พระกฤษณะล้มตัวลง

ครื้นทะเลได้ซัดนำร่างพระศพของพระองค์กลับคืนเกษียณสมุทร พระลักษมีที่รออยู่บนบัลลังค์พระวาสุกียิ้มและต้อนรับพระองค์แต่พระองค์กลับเดินเข้ามาพร้อมสีหน้าที่เศร้าสลด พระลักษมีถามไถ่พระองค์บอกบัดนี้ได้เข้าสู่กลียุคแล้ว เราจะทำอย่างไรดี พระลักษมีตอบ ปล่อยไปตามกาลเถิดพระเจ้าค่ะให้มนุษยโลกได้เสวยผลกรรมที่เค้าได้ทำกันไว้จนกว่าสิ้นกลียุคพระองค์อย่าเศร้าไปเลยถึงเพลานั้นพระองค์นั้นแหละคือผู้หยุดทุกสิ่งพระองค์จะเป็นเฉดเช่นพระศิวะผู้ทำลายล้างทุกอย่างที่ล้วนเป็นสิ่งมลทิน ส่วนตัวหม่อมฉันหม่อมฉันจะเป็นดั่งพระธรณีใช้ทุกส่วนรองรับผู้ที่แสวงบุญและปราศจากมลทินและบูชาความดี ตราบนานเท่านาน

นายวาสุเดวา รุทระปาณฑิยา
ขอก้มเคารพต่อพระบาทพระหริถึงแม้จะสิ้นลมก็ขอให้ลมหายใจสุดท้ายสนานพระบาทพระองค์ด้วยเถอะ







ขอบคุณคุณVasudeva ที่ได้นำความรู้มาแบ่งปันกันค่ะ

ขอบคุณพี่ยีนส์ ภาพสวยมากค่ะ ขออนุญาติเซฟนะคะพี่
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


สังข์ที่พระกฤษณะกับพระอรชุนเป่าชื่อรัยอะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ม่ายรู้อะครับ

รู้แต่จักร ชื่อสุทรรศนาจักร บ้านบูชาอยู่อะครับ


ไม่แน่ใจว่า
สังข์ของพระกฤษณะฤว่าของพระอรชุน
ที่ชื่อเทวทัตอะ
ก็เลยถามอะ
แต่จักรสุทรรศเป็นของพระวิษณุนิ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

หาเจอแล้วคัฟ
ปัญชยสังข์เป็นของพระกฤษณะ
เทวทัตสังข์เป็นของพระอรชุน
ผิดถูกอย่างไรช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ในที่สุดก็ได้รู้ว่าสังข์ ชื่ออะไร ขอบคุณครับ

แต่สุทรรศสนาจักร มีอยู่กับพระกฤษณะด้วยครับ

เพราะมีอยู่ตอนนึงในมหากาพย์ภควัคคีตามีอยู่ตอนนึงที่พระกฤษณะใช้ประหารกษัตร์ทราม

และทุกวัดสายพระนารายณ์จะมีพระสุทรรศนา บูชาครับ เช่นวัดพระเวงกาเตส และวัดพระ นาราซิมฮา









[HIGHLIGHT=#ffff00]ขอนำรูปมาเพิ่มเติมความสวยงามและรักอันนิรันดร[/HIGHLIGHT]















[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





ขอบคุณมากค่ะ ที่มาช่วยกันเพิ่มเติมกระทู้นี้

และมาเพิ่มเติมข้อมูลให้อีก 
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

สวัสดีอย่างเป็นทางการก่อนนะค่ะ  ต้องขอชมนะค่ะ รูปที่น้องนำมาฝากสวยมากค่ะ พี่ยังไม่มีความสามารถที่จะนำรูปสวยแบบนี้มาให้
ชมรมฯ ดูได้เพราะคอมพิวเตอร์พี่ไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ คงจะต้องอาศัยน้องๆ ก่อนนะค่ะ คงจะไม่ว่านะค่ะ 

ขอบคุณนะคัฟ
ผมก็เพิ่งทราบเรื่องสุทรรศนจักรนิแหละคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต


สวยคะ  สวยดูเเล้วโรแมนติกจังเลย  คะ 
เสียหายไม่ว่า  แต่เสียหน้าไม่ได้

December 19, 2009, 08:51:47 #22 Last Edit: December 22, 2009, 06:47:57 by ตรีศังกุ
ลองอ่านความคิดเห็นเรื่องพระกฤษณะ ในทัศนคติของร.6ท่าน ดูนะครับ

ในหนังสือลิลิตนารายณ์สิบปาง พระราชนิพนธ์ร.6


หน้า459....การที่มีผู้ชอบแต่งเรื่องพระกฤษณะมากมายนัก เพราะพวกพราหมณ์ชั้นหลัง ๆ พากันนิยมว่าพระกฤษณะเปนตัวพระนารายณ์เสียเองทีเดียว จึ่งถือกันว่าใครได้แต่งเรื่องยอพระเกียรติพระกฤษณะแล้วก็จะได้บุญมาก ผลของการที่มีผู้แต่งเรื่องพระกฤษณะเปนหลายรายเช่นกล่าวนี้ แทนที่จะเปนเครื่องสนับสนุนความเลื่อมใส ดูเหมือนจะกลับทำให้ผู้อ่านผู้ฟังที่มิใช่ผู้ถือศาสนาพราหมณ์กลับรู้สึกความบกพร่องของพระกฤษณะมากขึ้น


   
สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าเชื่อตามความสันนิษฐานของนักปราชญ์ชาวยุโรป ว่าพระกฤษณะ แท้จริงเปนกษัตริย์ซึ่งได้มีอำนาจขึ้นครั้ง ๑ เพราะเปนผู้มีฝีมือในการรบ และมีความฉลาดในทางอุบายด้วย แต่ประวัตติการจริงจะมีเพียงเท่าใดก็ยากจะสันนิษฐานให้แน่เสียแล้ว.....ส่วนตัวพระกฤษณะเองนั้น ตามความเห็นของข้าพเจ้า เปรวีรบุรุษกล้าหาญและมีสติปัญญาสามารถจริง แต่ความประพฤติทรามมาก มีกิเลสแรงกล้า ใครขัดใจก็ฆ่าเสียง่าย ๆ และชอบประพฤติทางกามะมิจฉาจาร และเปนเจ้าเล่ห์หลอกลวงต่าง ๆ ใช้กลมายาอย่างปราศจากธรรม แต่ทั้งในการผิดเมียเขาก็ดี ฆาตะกรรมก็ดี ดูผู้แต่งเรื่องพระกฤษณะกลับยกย่องแสดงเป็นคุณสมบัติ ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าศาสนาพราหมณ์ได้ทรามลงปานใด และทำให้แลเห็นได้ว่าเหตุใดพระพุทธเจ้าของเราจึ่งต้องทรงริเริ่มตั้งลัทธิศาสนาขึ้นใหม่....ข้าพเจ้าขอสารภาพโดยตรงว่าข้าพเจ้าไม่รู้สึกนิยมในคุณสมบัติพระกฤษณะ และไม่ชอบประวัตติการของพระกฤษณะ เท่าที่ข้าพเจ้าชอบประวัตติการของพระราม แต่ถ้าผู้ใดปรารถนาที่จะทราบประวัตติการของพระกฤษณะโดยพิสดารยิ่งขึ้น ก็เชิญอ่านหนังสือ "ภาควัตปุราณะ"หรือหนังสือ"เปรมสาคร"เองเถิด ในมหาภารตะมีเรื่องพระกฤษณะอยู่มาก แต่สลับอยู่กับประวัตติการของกษัตริย์ปานฑพและโกรพที่ทำสงครามกัน ซึ่งต้องเปลืองเวลาค้นหามากอยู่ จึ่งสู้อ่านในหนังสือ ๒ คัมภีร์ที่ออกนามก่อนนี้ไม่ได้


หน้า469...แท้จริงข้าพเจ้าเองมีความเห็นว่า ประวัตติการของพระกฤษณะในตอนที่เปนเด็กนี้ ไม่มีอะไรไปกว่าการแสดงลักษณะของเด็กที่เก่งอย่างหัวโจกเด็ก มีความซุกซนเป็นลักษณะอันปรากฎชัดกว่าลักษณะอื่น เช่นการแกล้งลักผ้านุ่งของพวกหญิงเลี้ยงโคไปไว้บนต้นไม้นั้น ข้าพเจ้าแลไม่เห็นเลยว่าเปนกิจการอันน่ายกเอามาสรรเสริญ เพราะดูเปนการเล่นรังแกและอยากดูผู้หญิงแก้ผ้าเท่านั้น ส่วนการที่พูดชวนนันทะโคบาลให้นำเครื่องพลีไปเส้นเขาโควรรธนะ แล้วกฤษณะไปกินเครื่องเส้นเสียเองนั้น ก็ประพฤติอย่างคนสัประดน และทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องทิตเพ็ชร์แต่งตัวเปนเทวดาไปกินเครื่องเส้นของหมื่นหาญที่ไร่ฝ้ายนั้นเทียว ผลของการเล่นสัประดนคราวนั้นก็เกือบนำผลร้ายสู่พวกโคบาลที่เปนมิตร์สหาย แต่พะเอินแก้ตัวหลุดได้โดยสำแดงปาฏิหารอย่างไม่น่าเชื่อเลย เพราะเรื่องปาฏิหาร ใครนึกจะแต่งขึ้นอย่างไรก็ได้ตามใจทั้งสิ้น ตามความจริงบางทีกฤษณะจะได้เปนผู้มีสติปัญญาออกอุบายให้โคบาลและโคได้พ้นอุทกภัยได้ โดยพาเข้าถ้ำอัน ๑ ในเขาโควรรธนะ จึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ช่วยให้พ้นอุทกภัย ส่วนปาฏิหารยกเขาขึ้นทั้งเขา และถือกั้นแทนร่มนั้น คงเปนของแต่งเติมขึ้นใหม่


...
ประวัติพระกฤษณะตอนนี้ แสดงกิเลสของผู้ประดิษฐ์ขึ้นโดยแจ่มแจ้งทีเดียว คือแสดงว่าตัวของตัวพอใจในทางกามาคุณารมย์แล้ว ก็ต้องหาเหตุมาอ้างเพื่อแก้ความชั่วให้กลายเปนดี อย่าว่าแต่ในพระพุทธศาสนาเลย ถึงแม้ในไสยศาสตร์เอง มีมานวธรรมศาสตร์เปนต้น ก็ถือว่าการล่วงประเวณีเปนบาป เปนกามะมิจฉาจาร แต่ในตำนานพระกฤษณะกลับเอาขึ้นสรรเสริญเปนคุณสมบัติของผู้ที่ยกย่องเปนผู้วิเศษถึงแก่ว่าเปนองค์พระนารายณ์เอง การทำชู้กับนางราธาภรรยานายอายัณโฆษ แทนที่จะติเตียนกลับยกเอาขึ้นเปนข้อสรรเสริญ และเมื่อผัวจวนจะเข้าไปจับได้ ต้องแปลงตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วยืนแลบลิ้นปลิ้นตาทำเปนเทวรูปกาลี ก็กลับสรรเสริญว่าเปนปาฏิหาร อีกอย่าง ๑ นางโคปีคนใดที่ใจง่ายยอมให้กฤษณะเล่นชู้กับตนก็กลายเปนได้บุญไปหมด และมีชู้ ไม่ซื่อตรงต่อผัวของตัว น่าจะให้ตกนรก กลับกลายเปนให้ขึ้นสวรรค์ คำสั่งสอนอย่างเต็มไปด้วยอคติเช่นนี้ แม้แต่พวกถือศาสนาพราหมณ์ด้วยกัน บางพวกก็เห็นว่ากลืนไม่ลง แต่เปนธรรมดามนุษบุถุชมย่อมมีความปรารถนาที่จะได้ไปสู่สุคติภพ และถ้ายิ่งไปได้ง่าย ๆ ก็ยิ่งพอใจ เมื่อมีผู้กล่าวให้ฟังว่าอาจจะสมปรารถนาได้โดยไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าทำความภักดีในพระกฤษณะให้ปรากฎเท่าฉะนี้ พวกคนที่อยากขึ้นสวรรค์โดยไม่ต้องลำบากจึ่งพากันเลื่อมใสในพระกฤษณะมาก คนชนิดนี้ถ้ามีใครหลอกให้ดี ๆ ว่า อาจซื้อตั๋วเดินทางจากเขาเพื่อไปสวรรค์ได้ คงพากันยกผู้ขายตั๋วนั้นขึ้นเปนพระนารายณ์อวตารเปนแน่


อ่านแล้วพิจารณาเอาเองนะครับ

ยังไงก็เป็นความคิดของ ร.6 ท่าน
ถ้าจะวิจารณ์ความเห็น อยากให้แสดงความเห็นแบบ"ซอฟๆ"หน่อย

เพราะท่านเป็นคนพูดอะไรตรงๆหน่ะครับ

เรื่องพาลกฤษณะ ที่ผมทราบ เรื่องเก่าสุดชาวอินเดียใต้แต่ง

และคนละเรื่องกับมหาภารตะ

ตามพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 นั้น ทรงใส่พระทัยในเรื่องของรายละเอียดและลักษณะส่วนพระองค์ขององค์พระกฤษณะครับ

แต่ในศาสนาพราหมณ์  (คัมภีร์ภควัตรคีตา หรือ มหากาพย์มหาภารตะ หรือ กฤษณะราวตาร)

แทบจะไม่กล่าวถึงในเรื่องส่วนพระองค์เท่าไหร่ เนื้อเรื่องและเนื้อหาส่วนใหญ่แต่มักจะกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ ความมีปัญญา ความเก่งกาจ องอาจ ไปเสียมากกว่าครับ รวมไปถึงวัตถุประสงค์ในการอวตาน

มันเลยกลายเป็นเรื่องมองต่างมุมไปครับ
ผมคิดแบบนี้นะ  แต่ทุกอย่างลองดูดีๆ ครับ กรรมสนองกรรมตลอดเลยพระกฤษณะทรงสิ้นพระชนม์ก็เพราะชดใช้กรรม แถมกรุงทวารกาของพระกฤษณะก็ต้องคำสาปให้พี่น้องตระกูลเดียวกันมาฟาดฟันกันเองตาย เฮ้อ!!! ((ปุราณะฮินดูนี่สุดๆ ไปเลยครับ ผมละนับถือ))

คุณกาลิทัสสงสัยเหมือนผมไหม

ผมสังเกตว่าคำสอนสายภักติ โดยเฉพาะคำสอนที่เกี่ยวกับพระกฤษณะ มีพฤติกรรมผิดแปลกกว่าคนอื่น ลักลอบเข้าห้องนางราธาที่มีสามีอยู่แล้ว ซึ่งในความคิดคนฮินดูมองเป็นเรื่องไม่งาม และเป็นบาป โดยเฉพาะ ญ ที่ไม่ซื่อตรงต่อสามี แต่การที่ผู้แต่งเขียนให้ดู กลายเป็นว่านางราธา เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ ความรักบริสุทธิ์ต่อพระกฤษณะ......ผมคิดว่าคนที่เขียนได้แบบนี้ เขาคิดอะไรอยู่ และจะสื่ออะไร ทั้งๆที่นางมีสามีแล้ว ควรซื่อสัตย์ต่อสามีถึงจะได้บุญ และเป็นความรักบริสุทธิ์

และคนที่นับถือส่วนมาก ไม่เคยรู้ว่านางราธามีสามีอยู่แล้วคือนายอายัณโฆษ และไม่ได้คิดว่าผิดสามีภรรยาเป็นบาปหนัก แต่ลัทธิอื่นก็ถือว่าเป็นบาป

และชีวิตวัยเด็กของท่าน ดูไม่ค่อยมีอะไรที่เป็นคุณธรรมเท่าไร แต่เป็นเรื่องของอภินิหาร และทำอะไรเกินเลย มีพฤติกรรมแผลงๆไม่เหมือนคนอื่น เช่น เอาผ้านุ่งพวกหล่อนที่อาบน้ำ ไปแขวนบนต้นไม้ ถ้าอยากให้ให้พวกหล่อนขึ้นจากน้ำมาขอ.....ผมก็ไม่รู้ว่าคนแต่งเขาจะสื่ออะไร

ถ้าเอารามายณะ กับมหาภารตะ มาเทียบ และดูว่าชาวบ้านชอบเรื่องไหน และคุณธรรมเรื่องไหนที่สามารถใช้ได้ในชีวิตจริง และเป็นประโยชน์
ผมคิดว่ารามายณะ มันแพร่หลาย และซึมซับเข้าในความคิดของคนมากกว่า


Quote from: Kimnei on September 28, 2009, 11:36:33
งั้นเพิ่มเติมข้อมูลตรงนี้ดีกว่าค่ะจะได้ไม่ซ้ำเค้ามาก
ประวัติของพระนาม

คำศัพท์ กฤษณะ (เทวนาครี: कृष्ण)นั้นเป็นภาษาสันสกฤตมีความหมายว่า ดำ คล้ำ มืด หรือนํ้าเงินเข้ม ซึ่งใช้พรรณนาบุคคลที่มีสีผิวคลํ้า พระกฤษณะทรงได้รับคำพรรณนาบ่อยๆ ว่าผิวดำ แต่ในรูปภาพนั้นพระองค์ได้รับการวาดด้วยสีผิวสีนํ้าเงินเข้ม

พระประวัติ
พระกฤษณะเป็นหลานตาของกษัตริย์ ณ มถุรานคร พระกษัตริยมรมพระนามว่าอุคระเสน พระกษัตริย์มีบุตร ๒ คน พญากงส์และนางเทวกี นางเทวกีได้สมรสกับพระวสุเทพ ต่อมาพญากงส์กบฎต่อพระบิดา ได้จับพระบิดาอุคระเสนและพี่สาวพี่เขยขังไว้ โหรทำนายว่าบุตรคนที่แปดของนางเทวกีจะฆ่าพญากงส์ พญากงส์จึงฆ่าลูกทุกคนของนางเทวกี หลังจากฆ่าหกคนแรกแล้ว คนที่เจ็ดแท้ง พระกฤษณะเป็นคนที่แปด พระวสุเทพสามารถลักลอบเอาพระกฤษณะไปฝากให้โคบาลชื่อนันทะและนางยโศธาเลี้ยงได้



มหาภารตะ

กฤษณะเป็นญาติฝ่ายมารดาของฝ่ายปาณฑพ พระกฤษณะได้ช่วยเหลือพี่น้องปาณฑพหลายครั้งหลายหน เช่น ช่วยเป็นประธานในพิธีกรรมราชสูรยะของยุธิษฐิระ ช่วยภีมะฆ่าท้าวชราสัน ช่วยเหลือพระนางเทราปตีจากการถูกทุหศาสันเปลื้องผ้าส่าหรี และเป็นผู้ถ่ายทอดภควัทคีตาแก่อรชุน เป็นสารถีและเป็นผู้ชี้นำของอรชุนในการปราบแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝ่ายเการพ เช่น ภีษมะ โทรณาจารย์ และ กรรณะ




การตายของกฤษณะ

หลังจากสงครามสิ้นสุดลง พระกฤษณะครองกรุงทวารกาไปอีก 36 ปี พระองค์เสด็จไปไช้ชีวิตในป่าหลังจากสละราชบัลลังค์ไห้กับเหล่ากษัตริย์ยาฑพซึ่งกำลังแย่งชิงอำนาจกัน ระหว่างที่พระกฤษณะกำลังนั่งสมาธิ นายพรานจาราได้ยิงธนูไส่ข้อเท้าของพระองค์ถึงแก่ความตาย ตำนานกล่าวไว้ว่าแท้จริงแล้วพรานจาราในชาติที่แล้วคือพญาพาลีกษัตริย์แห่งขีดขิน สนองเวรแก่พระวิษณุซึ่งเคยอวตารเป็นพระรามและฆ่าตนตายอย่างไม่ยุติธรรม หลังจากการตายของพระกฤษณะ กรุงทวารกาและเหล่ายาฑพทั้งหมดได้จมลงสู่มหาสมุทร กาลียุคได้เข้ามาแทนที่ทวาปรยุค




พระนามของพระกฤษณะ

  • มเธวะ (Madhava)แปลว่า ผู้นำมาซึ่งฤดูใบไม้ผลิ
  • เกศวะ (Keshava)แปลว่า ผู้มีผมงาม
  • หริ (Hari)แปลว่า ผู้กำจัด
  • โควินธ์ (Govinda)แปลว่า คนเลี้ยงวัว
  • ทวารกานาถ (Dwarakanath)แปลว่า ผู้ปกครองแห่งกรุงทวารกา
  • กรรณหา (Kanha)เป็นชื่อเรียกของพระกฤษณะในวัยเด็ก
  • วาสุเทพ (Vasudeva)เป็นชื่อเรียกตามชื่อท้าววาสุเทพผู้เป็นบิดา

เพิ่มเติมนะครับ

กฤษณะ ชื่อผู้หญิงคือ กฤษณา คือชื่อของนางเทราปที
และฤๅษีวยาส ชื่อจริงของท่านคือ กฤษณะ ฉายาว่า ไทวปายน(แม่ท่านเป็น ญ ชาวบ้าน)

ในภาษาบาเรียกว่า กัณหะ ผู้หญิงเรียก กัณหา สันสกฤตเรียก กฤษณา

และใครที่ผิวคล้ำๆ ตั้งชื่อว่า"กฤษณะ" อย่างนางเทราปที นางผิวคล้ำ เลยชื่อ กฤษณา

จริงๆ แล้วทั้งคัมภีร์ภควัตรคีตา มหากาพย์รามายณะ หรือ มหากาพย์ภารตะ ก็ดี

ส่วนมากเป็นเรื่องเทิดพระเกียรติพระวิษณุในภาคอวตานต่างๆ ครับ

แต่ถ้าเป็นคนไทย คงนิยมมหากาพย์รามายณะมากกว่า เพราะเรียนเรื่องรามเกียรติ์มาตั้งแต่เด็ก

อีกอย่างนะครับ " เชื่อไม๊ว่าพ่อผมเล่ามหากาพย์รามายณะ หรือรามเกียรติ์ให้ผมฟังก่อนนอนทุกคืน สมัยยังเด็กห้าหกขวบเลยครับ ? "

พูดขึ้นมาแล้วรักพ่อแฮะ ซึ้งๆ

ส่วนพระกฤษณะเท่าที่ผมดูนะ ผมว่าดูสมัยใหม่กว่าสมัยพระรามเยอะ ทั้งการประพันธ์และวิถีรวมถึงการดำเนินเรื่องครับ


โอม ชัยยะ วิษณุ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


พระกฤษณะมีรักแท้ด้วยหรอครับ???

ที่ทราบ พระกฤษณะมีชายาหมื่นกว่านาง ชายาเด่นๆก็นางรุกมิณี นางชามพวดี และนางสัตยภามา

ผมอยากทราบ คำบูชาพระกฤษณะ คับ

พอจะมีใครบอกผมได้ไหมคับ ขอบคุณคับ

ลองดูตามกระทู้นี้นะครับ สำหรับบทบูชาครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=16.0

นาร๊าย นาราย ที่ไหนมีความวุ่นวาย ที่นั่นต้องมี..............  อิอิ ขำ ๆ นะคะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


อย่ามองอย่างง้านครับคุณเทวาเหนือเกล้า 555+

ท่านน่ะเป็นตัวเอกเดินเรื่องทำให้เกิดปุราณะเชียวนะครับ (นาร๊าย นาราย)

ว่าแต่กระทู้นี้เค้ากระทู้ของพระกฤษณะนะครับเนี่ย 555

ฮเร กฤษณะ ฮเร กฤษณะ
กฤษณะ กฤษณะ ฮเร ฮเร
ฮเร ราม ฮเร ราม
ราม ราม ฮเร ฮเร