Messages

เพิ่มเติมให้ครับ สำหรับ ทศมหาวิทยา หรือ พลังแห่งเทวีทั้ง 10
[HIGHLIGHT=#facdae]
[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]1. กาลี[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]2. ตารา[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]3. ลลิตาเทวี (ตรีปุรสุนทรี)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]4. ภูร์วาเนศวารี[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]5.ไภรวี[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]6. ชินมัสตา[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]7. ดุมมาวตี[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]8. พคลามุขิ[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]9. มาตันจี[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]10. กามาลา[/HIGHLIGHT]

ขออภัยครับ ผมพลาดกระทู้นี้ไป

ผมสรุปให้ครับ ถ้าพูดถึงพระแม่แพนนารี ชื่อที่สอดคล้องจะมีอยู่องค์นี้องค์เดียวครับ พระองค์ท่านคือ பண்ணாரி ( ปัณณาริ อัมมัน)
พระองค์เป็นเทพเจ้าประจำถิ่นครับ เลยไม่ค่อยทราบประวัติอะไรมากนัก เท่าที่ทราบก็ตามที่ส่งลิ้งค์ให้ไปครับ

เป็นเทพเจ้าของทางอินเดียใต้ครับ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านมีประวัติว่าอย่างไร มีวัดของท่าน ชื่อว่า วัดปัณณาริอัมมัน เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก และ วัดนี้ก็มีประวัติ คร่าวๆ นะครับ เชื่อกันว่า สมัยก่อนพื้นที่นี้เป็นป่า มีสัตว์ป่ามากมาย เรียกสถานที่นั้นว่า ปัณณาริ แล้วก็มีคนเลี้ยงวัว ต่างก็เลี้ยงเพื่อเอาน้ำนม แต่มีวัวอยู่ตัวนึง ในทุกวัน มันจะมายืนอยู่ที่แห่งหนึ่งเสมอ และเมื่อมายืนอยู่ตรงนั้นแล้ว น้ำนมของวัวจะไหลออกมาเองโดยไม่มีคนรีด เป็นอย่างนั้นทุกวัน จนเจ้าของวัวสงสัย จึงได้ถางหญ้าบริเวณนั้นจนได้พบศิวลึงค์และ เป็นกองภูเขาทราย (บ้านเราคงเรียกว่าจอมปลวกครับ)

หลังจากนั้นได้มีคนภาวนาจิตถึงพระเป็นเจ้าในสิ่งที่เกิดขึ้น จนได้คำตอบว่า ณ สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่สำคัญ เหมาะสมแก่การสร้างวัด และมีเทพนารีองค์หนึ่งที่คอยปกป้องรักษาผู้แสวงบุญ และคนทำมาค้าขายที่ผ่านเส้นทางนี้ ให้ทำเป็นรูปเคารพขึ้นเพื่อให้คนได้บูชา และด้วยความที่สถานที่นั้นเรียกว่า ปัณณาริอยู่แล้ว จึงสร้างรูปเคารพและให้พระนามพระองค์ว่า ปัณณาริอัมมัน และได้รับการนับถือมาจนปัจจุบันครับ

คำถามของคุณ toeysri ตามนี้ครับ


1. ทำไมรูปเคารพของพระแม่ปัณณารีอัมมัน ถึงเป็นสีเนื้อ หรือ สีเหลือง และทรงยิ้ม ทำไมไม่เหมือนกับที่เราทราบในหนัง


คำตอบ เราจะดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของเทวรูปไม่ได้กันเลยทีเดียวครับ เนื่องจากเทวรูปประธานของวัดต่างๆ ของอินเดียใต้นั้น จะเป็นเทวรูปหินดำเท่านั้น และโดยปกติจะไม่นำออกมาให้ใครเห็น จะอยู่ด้านในของวิหาร หรือ โบสถ์ที่มีผ้าปิดอยู่ครับ ที่เห็นเป็นเพียงองค์จำลอง เหมือนกับวัดแขกสีลมบ้านเราครับ ส่วนสีพระวรกายที่เห็น หรือ ใบหน้าที่แย้มสรวล ต้องแยกดังนี้ครับ


ใบหน้า - เวลาถึงเทศกาลบูชา ที่เป็นพิธีการสำคัญ ทางวัด หรือ พราหมณ์ประจำวัด จะนำเอาเทวรูปประธานงานนั้นๆ มาตกแต่งให้สวยงาม โดยใช้แป้งสีต่างๆ มาพอกที่ใบหน้า แต่งหน้าแต่งตาเทวรูปให้สวยงาม แจ่มใสครับ ซึ่งเป็นพิธีกรรมของทางอินเดียใต้ครับ (ตรงนี้ถ้าใครไปวัดแขกสีลม ถ้าสังเกตุ พระขันทกุมาร จะทรงพอกหน้าด้วยแป้งสีต่างๆ ครับ บางครั้งก็สีขาว (ผงวิภูติ) บางครั้งก็สีส้ม (ผงจันท์) ครับ


แขน และ ขา - ตรงนั้นไม่ใช่แขนขาจริงๆ นะครับ ถ้าทราบเรื่องการแต่งเทวรูปจะทราบว่าเทวรูปทุกองค์ของวัดสามารถต่อแขน ต่อขา ได้ครับ ถ้าเป็นเทวรูปสำคัญ จะสั่งผลิดด้วยทองคำ หรือ สัมฤทธิ์ก็ได้ครับ หรือจะทำเป็นแบบสวม ให้สวยงามเป็นแขนสีทอง ขาสีทอง สวมเข้าไปแทนหินสีดำก็ได้ครับ


ภาพด้านล่างเป็นพระปัณณารีอัมมันทั้งหมด ซึ่งได้รับการประดับประดาเรียบร้อย แต่ด้านในยังคงเป็นเทวรูปหินดำครับ (ผมหาภาพตอนที่ยังไม่แต่งองค์พระไม่ได้ครับ เพราะเค้าสงวนภาพองค์จริงครับ ตามที่บอกมักจะไม่ให้ใครเห็นครับ จะอยู่ด้านในสุดของโบสถ์มีเพียงพรามหณ์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาติครับ)










2. ทำไมประวัติของพระแม่ปัณนารี ไม่ตรงกับพระแพนนารี ในละครหรือแผ่นดีวีดี ตามที่ผมกล่าวครับ เป็นเทพเจ้าประจำถิ่นเท่านั้น ดังนั้นคนสร้างอาจนำเอาเศษเสี้ยวหนึ่งของอภินิหารของพระองค์มาสร้างหนังครับ ซึ่งจริงๆ แล้ว Amman หรือเทพเจ้าประจำถิ่นทั้งหลาย คนประจำถิ่นนั้นเท่านั้นถึงจะทราบในอภินิหาร แล้วมาสร้างเป็นภาพยนต์ให้เรารับชมกันครับ


คำตอบผมคงช่วยอะไรได้บ้างนะครับ ^_^

ยินดีด้วยครับ ^_^

ยินดีต้อนรับครับ ^_^

ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้พระใดเป็นประธานหิ้งครับ ส่วนมากประธานของหิ้งจะยกไว้สูงสุดครับ (ตามหลักการตั้งหิ้งโดยทั่วไป) หรือวางในตำแหน่งที่เด่นที่สุด
แต่จริงๆ แล้วพระพิฆเนศ และ พระศิวะ คุณสามารถวางชั้นเดียวกันได้ ไม่มีปัญหาครับ
แต่ถ้าจำเป็นต้องวางองค์หนึ่งองค์ใดไว้สูงกว่า คนมักจะตั้งพระศิวะไว้สูงกว่าครับ ด้วยศักดิ์ของความเป็นบิดาครรับ

แต่ที่แน่ๆ คุณต้องบูชา พระพิฆเนศ ก่อนเสมอครับ

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 15 สิงหาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]
[/HIGHLIGHT]
1. Tummakeup@hotmail.com
2. watcharapong.utcc2013@gmail.com
3. cookie-pms81@hotmail.com
4. Neu-ng@hotmail.com
5. jig_qq@hotmail.com
6. neungbuppha@gmail.com
7. hider9@hotmail.com
8. woranan_2524@hotmail.com
9. kittikacha@gmail.com

ยินดีต้อนรับครับ ^_^

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 9 สิงหาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 4 สิงหาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]
[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]1. [/HIGHLIGHT]thanaporn@gmail.com
2. robots_man1212@hotmail.com

พระนามนี้ดูมาจากในหนังอินเดียรึเปล่าครับถ้าใช่ ตามลิ้งค์มาเลยครับ เคยมีเพื่อนท่านหนึ่งถามไว้ครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=4743.0

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 2 สิงหาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]
[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]1. [/HIGHLIGHT]skyzaa@hotmail.com
2. spi.spi@hotmail.com

ขออนุญาติดันครับ ถือเป็นอีกหนึ่งกระทู้ดีๆ ครับ

สวัสดีครับ และขอบคุณที่ยังอยู่กับเรา ^_^

ยินดีครับ

ยังจำได้และคิดถึงทุกคนครับ คุณทิวลิปสีม่วง ---> จำได้ไม๊ว่าจะผ่านมากี่ปีก็เรียกแบบนี้ ^_^

[HIGHLIGHT=#fadbc6]ยินดีต้อนรับครับ ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]
[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]1.[/HIGHLIGHT]botun.ch@gmail.com

^_^ ยินดีครับ

ยินดีต้อนรับครับ ^_^

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 30 กรกฎาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]


1. blueday15.bt@gmail.com
2. oPockyzao@hotmail.com
3. frank_neaui@hotmail.com
4. JittakornKai@hotmail.com

ยินดีต้อนรับสู่ HM ครับ

ขอให้ที่นี่เป็นอีกแหล่งความรู้ อีกแหล่งมิตรภาพที่ดีครับ

กาลิทัส

[HIGHLIGHT=#fadbc6]สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 29 กรกฎาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]
[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#fadbc6]1. [/HIGHLIGHT]Kran.Pamasoo@gmail.com
2. juniorlovelylove@gmail.com
3. poopea02@hotmail.com
4. vinaiair2010@hotmail.com
5. chonthicha_58@hotmail.com

สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติ วันที่ 28 กรกฎาคม 2557 (สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีครับ)

1. yadarinz@hotmail.com
2. deawdesign@yahoo.com
3. Nokkyjubjub@gmail.com
4. onibabarus@gmail.com
5. satoo_lert@yahoo.com
6. saktayasutthi@gmail.com
7. paopaowaldorf@gmail.com
8. nongchanida@gmail.com

เนื่องจากปัญหาที่มี Spam เข้ามาแฝงสมัครสมาชิก และโพสภาพไม่สมควร ทางทีมงาน จึงได้มีขั้นตอนการกรองสมาชิกก่อนเข้าใช้งาน
ดังนั้นทางผม ที่เป็นคนดูและทางด้านสมาชิกอยู่ จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้

1. ทางเว็บจะอนุมัติการเข้าใช้งานให้กับผู้ที่สมัครไม่เกิน 24 -48 ชั่วโมง (ป้องกันวันไหนผมไม่ว่างครับ ^_^)
2. ถ้าภายใน 48 ชั่วโมง ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ รบกวนแจ้งผมทันที ทาง Email : Kalitas.hindumeeting@gmail.com
หรือทาง Facebook : Kalitas HM ได้ทันทีครับ
3. ในแต่ละวันผมจะมีการแจ้ง สำหรับสมาชิกที่ได้รับการอนุมัติแล้วทางเว็บจากกระทู้นี้ทุกวัน และ ทาง Facebook : Kalitas HM ทุกวัน
ดังนั้นท่านสามารถเข้ามาตรวจสอบการอนุมัติสมาชิกได้เลยนะครับ

(( ท่านใดที่ไม่ได้รับการอนุมัติ ไม่ได้แปลว่าผมไม่ให้เข้ามาใช้งานนะครับ แต่ผมตีว่าเป็น Spam ไป เนื่องจาก Server ที่ใช้เป็นของต่างประเทศบ้าง หรือ ชื่อที่ใช้ในการสมัคร อ่านไม่ออกเป็นภาษาอะไรไม่รู้บ้าง ดังนั้นเวลาสมัครรบกวนเป็นชื่อภาษาอังกฤษที่อ่านเป็นภาษาไทยได้จะดีมากครับ ผมจะได้ทราบว่าไม่ใช่ Spam ครับ))

กาลิทัส
เว็บมาสเตอร์

ปีนี้ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ได้มีกำหนดการจัดงานวันเคณศจตุรถีขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ครับ

แจ้งให้ทราบโดยทั่วกันครับ

(( ภาพจากงานพิธีเคณศจตุรถี ปี 2554 ณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) ครับ ))

ยินดีครับ ^_^

ขณะนี้จัดการระบบสมาชิกเรียบร้อย โดย

1. อนุมัติชื่อบุคคลที่ยังไม่ได้อนุมัติ
2. ลบ Spam ที่แอบแฝงมาสมัครทั้งหมดทิ้ง
3. ขออนุญาติลบ ชื่อสมาชิกทุกท่าน ที่สมัครแล้วไม่เคยเข้าสุ่ระบบเพื่อใช้งาน (ซึ่งตรงนี้หลายท่านอาจไม่ทราบว่า มีบางห้องที่เราสร้างไว้สำหรับสมาชิกที่ login เข้าระบบแล้วเท่านั้นที่จะใช้งานได้)

ดังนั้น นับแต่ตอนนี้ไป ท่านใดที่มีปัญหาหรือผลกระทบในการเข้าระบบเพื่อใช้งาน สามารถสมัครสมาชิกใหม่ได้เลยครับ ผมจะทำการอนุมัติ User ภายใน 24 ชั่วโมงครับ ถ้าแจ้งมาใน FB ยิ่งดีเลยครับ จะได้เข้าไปอนุมัติได้ทันทีทันควันครับ

Facebook กาลิทัส : Kalitas HM

กฎกติกามารยาท ก็ยังคงเดิมครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

เชื่อว่า น้องๆ ที่เข้ามาเว็บไซด์เป็นประจำน่าจะรู้กติกาดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นกติกาไม่ได้มีขึ้นเพื่อกล่าวหา ให้ร้าย ใคร หรือบุคคลใดทั้งสิ้น แต่เป็นเพียงการละ ที่จะพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักดั้งเดิมของศาสนาเท่านั้นนะครับ
[HIGHLIGHT=#facdae]
[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]
[/HIGHLIGHT]

วัตถุประสงค์ของ HM ยังคงเดิม คือ

ทางทีมงานได้ร่วมกันสร้างและจัดทำเว็บไซด์และเว็บบอร์ด โดยมีจุดมุ่งหมายดังนี้

เป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมทางศาสนาฮินดูอย่างแท้จริง
เป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าทางศาสนา
เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับศาสนาฮินดูและเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู
เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์พูดคุยเกี่ยวกับศาสนาฮินดู และเทพเจ้าทั้งหลายในเชิงสร้างสรรค์
เป็นแหล่งรวบรวมคนรักศาสนา และ เทพเจ้าทางศาสนาฮินดู เพื่อการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในด้านต่างๆ
เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์งานต่างๆ ที่จะจัดขึ้น (เฉพาะวัดที่เป็นที่ยอมรับของกรมการศาสนาเท่านั้น)

สุดท้ายวัตถุประสงค์ของการจัดทำเว็บไซด์และเว็บบอร์ด ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งทีมงานทุกคนไม่มีความคิดที่จะแสวงหารายได้ใดๆ ผ่านเว็บไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้ามีบุคคลใดแอบอ้างนำชื่อทีมงานคนใดคนหนึ่ง หรือเว็บไซด์ไปใช้ในเชิงพานิชย์รบกวนช่วยแจ้งทีมงานได้ทันที

[ขอเชิญร่วมงานพิธีคเณศจตุรถี ประจำปี 2556]

ขอเชิญร่วมงานพิธีคเณศจตุรถี ประจำปี 2556

ณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)

เนื่องในวันคล้ายวันประสูติองค์พระพิฆเนศ

ณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)

วันที่ 9 กันยายน 2556

พิธีบูชา ช่วงเช้า เริ่มเวลา 09.00 น.

พิธีบูชา ช่วงเย็น เริ่มเวลา 17.30 น.

เสร็จพิธีอัญเชิญองค์พระพิฆเนศออกแห่รอบโบสถ์

ภาพบรรยากาศพิธีคเณศจตุรถี เมื่อปี 2555

http://www.youtube.com/v/mHp3LY1Frqw

ขอให้พรแห่งพระศิวะคุ้มครองครับ ^^

น้องหวานเรียบง่าย สะอาด งดงาม คงความปราณีตเช่นเดิม

คิว ขอแซวนิดนึง เห็นขนมถวายพระพิฆเนศ ก็ยังเป็นขนมไทย ไม่ทิ้งความเป็นไทยจริงๆ

โอม นมัสศิวายะ - ขอให้พรแห่งพระศิวะ อยู่รอบกายศิษยานุศิษย์ทุกคนครับ

ปล. ต้นมะตูมบ้านพี่ นกกินยอดหมดเลย T__T

ถ้าไปหาที่ลานด่านเกวียนไม่เจอหรอกครับ ถ้าส่วนขององค์เทพขนาดใหญ่ สั่งปั้นได้ ต้องที่หนองโสนครับ เลยลานด่านเกวียนไปไม่กี่กิโลครับ ^^

ก่อนอื่นลองเข้าไป Search ดูใน FACEBOOK นะครับ เดี๋ยวนี้มีให้สั่งปั้นเยอะครับ ชิ้นงานก็มีให้ชมเยอะครับ

เพราะราคาคงไม่ต่างกันมาก ถ้าบวกค่าขนส่งและค่าอื่นๆ ครับ

ถ้าไม่นั่งแท็กซี่ ก็ขึ้นรถเมล์จากท่ารถหมอชิตสาย 157 หรือ 183 เลยครับ จะผ่านวัดราชนัดดาทั้งสองสาย จุดสังเกตุคือ จะผ่านลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ครับ เห็นลานพลับพลากดกริ่งเลยครับ ด้านหลังลานพลับพลา คือ วัดราชนัดดาครับ



ภาพจาก : http://www.bloggang.com/data/n/noiwan-wannoi/picture/1287908761.jpg
ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

เพิ่มเติมภาพครับ



ภาพจาก : www.dinodia.com
ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

พระมีนากษีครับ อย่ามุ่งไปที่นกแก้วมากครับ มุ่งมองไปที่เทวลักษณะที่สำคัญ เช่น ท่าประทับ, อาวุธที่พระหัตถ์, เครื่องประดับอาภรณ์ ของพระองค์ดีกว่า ((ขอบคุณภาพอ้างอิงของคุณ Darin ครับ เป็นคำตอบได้อย่างดีครับ)) ^^

ผมยกตัวอย่างพระพิฆเนศ ถ้าไม่เห็นพระมุษิกะ (หนู) พระองค์ยังใช่พระพิฆเนศหรือไม่ ?? คำตอบคือ ใช่ พระองค์ยังคงเป็นพระพิฆเนศ ด้วยเทวลักษณะของพระองค์ คือมีเศียรเป็นช้าง, มีงาหักหนึ่งข้าง เป็นต้นครับ ^^

อักขระ " โอม " มีความหมายมากมาย และความหมายหนึ่ง คือ การรวมทั้งสามมหาเทพไว้ด้วยกันครับ

ตามหลักของคัมภีร์อุปนิษัทในศาสนาฮินดู กล่าวไว้ดังนี้ครับ

อะ คือ พระพรหม  :  อุ คือ พระวิษณุ  :  มะ คือ พระศิวะ

ผู้ที่บูชาพระพิฆเนศทุกคนทราบดีว่า ในระหว่างการบูชาพระพิฆเนศนั้นควรจะบูชาด้วยใบทุรวา 21 ใบ แต่น้อยคนนักที่จะทราบตำนานและความหมายว่าทำไมถึงต้องบูชาพระพิฆเนศด้วยใบทุรวา???



ตำนานแรก

ครั้งหนึ่งมีนางอัปสรผู้หนึ่ง ชื่อว่า ติโลตฺตมา นางทำการเต้นรำกับพระยม ซึ่งการเต้นรำด้วยความสนุกนานขาดสตินี้ทำให้เกิดสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย และสิ่งอัปมงคลทั้งหลายเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็นอสูรที่ดุร้าย นามว่า อนลสูร ซึ่งตาของอสูรตนนี้สามารถสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ได้ ทุกขณะที่มันพูด เสียงของมันกึกก้องกัมปนาทไปทั่วทุกโสตประสาทที่ได้ยิน ทุกครั้งที่มันก้าวเดิน พื้นดินก็สั่นไหวราวกับจะแยกออกจากกัน ใครก็ตามที่ไปขัดขวาง หรือขวางทางมันก็จะกลืนกินผู้นั้นไปเสียสิ้น เหล่าเทวดาทั้งหลายต่างหวาดกลัว จึงได้รวมตัวกันเข้าเฝ้าพระวิษณุ เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้พระองค์กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งกับอสูรตนนี้ พระวิษณุจึงกล่าวว่า " พวกท่านจะเกรงกลัวกันไปใย อีกไม่ช้านานนี้ พระพิฆเนศก็จะมาทำลายอสูรตนนี้ให้สิ้นอยู่แล้ว " พระพิฆเนศเมื่อได้ยินพรของพระวิษณุ จึงได้แปลงพระวรกายเป็นเด็กหนุ่ม

ในขณะนั้นเอง ที่พระพิฆเนศประทับยืนอยู่นั้น อสูรก็มาถึง ในทุกย่างก้าวที่มันเดิน ดวงตาอันลุกโชนด้วยความร้อนนั้นทำให้มหาสมุทรเหือดแห้ง ฝีท้าวนั้นทำให้เกิดแผ่นดินไหว เหล่าเทวดาและฤาษีทั้งหลาย ต่างวิ่งหนีลนลานหาที่หลบซ่อนด้วยความกลัว ไม่กล้าที่จะไปยืนขวางบริเวณที่อสูรตนนั้นจะเกิดผ่าน มีแต่พระพิฆเนศในร่างเด็กหนุ่มเท่านั้นที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงและปราศจากความกลัวใดๆ เมื่ออสูรมาถึงพระพิฆเนศจึงแปลงพระวรกายให้ใหญ่ ในพริบตาเดียวพระองค์ก็กลืนอสูรตนนั้นไปเสียสิ้น

ถึงแม้นั่นจะเป็นจุดจบของอสูร แต่ก็กำลังเกิดความผิดปกติในร่างกายของพระพิฆเนศ คือ ความร้อนจากลูกไฟของอสูรยังคงแผดเผาร่างกายพระองค์ เหล่าเทวดาทั้งหลายพยายามอยู่หลายวิธีให้ร่างกายของพระองค์เย็นลง พระอินทร์ทรงรดน้ำอมฤตและวางพระจันทร์ลงบนเศียร, พระวิษณุถวายดอกบัว, พระวรุณสรงน้ำเพื่อให้พระวรกายเย็น พระศิวะวางงูพันตัวทั่วร่างกาย แต่ไม่มีวิธีใดเลยที่จะดับร้อนนั้น

ขณะนั้นเอง เมื่อฤาษี 88,000 ตนมาถึง แต่ละตนถือใบทุรวา สีเขียวสดไว้ในมือตนละ 21 ใบ และวางใบทุรวาเปล่านั้นลงบนเศียรของพระพิฆเนศ เพียงไม่กี่นาทีความร้อนเหล่านั้นก็ดับสิ้นลง พระพิฆเนศจึงตรัสว่า " ตั้งแต่ตัวข้าพเจ้าร้อนเหมือนไฟ ไมีมีอันใดเลยที่จะดับไฟร้อนนั้นได้เหมือนกับใบทุรวา นับตั้งแต่วันนี้ไป ใบทุรวาคือที่รักของข้าพเจ้า ผู้ใดก็ตามที่บูชาใบทุรวาแก่เราจงเชื่อได้เลยว่าผู้นั้นจะพ้นจากบาปทั้งปวง และสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะกลายเป็นบุญเป็นกุศลเป็นมงคลแก่ผู้นั้น

พระบูวาเนศวารี เป็นหนึ่งในสิบของพระแม่ทศมหาวิทยาครับ



ค่อนข้างเข้าใจยากหน่อยนะครับ

พระบูวาเนศวารีนั้น เทวลักษณะดั้งเดิม พระองค์ คือจะมีผิวพระวรกายเป็นสีชาด และมีดวงพระเนตรสามดวง และมีเีสี้ยวจันทร์ประดับอยู่ อีกทั้งมงกุฎที่สวมยังประดับไปด้วยอัญมณีมากมาย พระพักต์เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม พระหัตถ์ทั้งสองนั้น พระหัตถ์หนึ่งจะถือดอกบัวสีแดง อีกพระหัตถ์จะถือชามที่เต็มไปด้วยอัญมณี พระบาทขวาจะห้อยลง และประทับนั่งบนดอกบัว

จริงๆ แล้ว พระบูวาเนศวารีนั้นถ้าตามประวัติจะมักเกี่ยวข้องกับพระศิวะ จนทำให้หลายคนเข้าใจว่าพระองค์เป็นหนึ่งอวตานของพระปารวตี (อุมา), ตรีปุณสุนดรี แต่บางตำราเชื่อว่า นี่คือรูปแบบเก่าแก่ที่สุดของศักติครับ

เชื่อว่ารูปแบบของพระบูวาเนศวารีนั้น เกิดขึ้นขณะที่พระอาทิตย์กับพระจันทร์ สร้างโลกทั้งสามครับ พระนางจึงได้ชื่อว่าเป็นราชินีของโลกครับ

คุณ Nnot

ผมขออนุญาติปรับแก้ข้อความบางส่วน เพื่อไม่ให้พาดพิงถึงบุคคลที่สามนะครับ (ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ครับ)

คุณ haangendazs (เจ้าของกระทู้)

ผมขอเรียนแบ่งเป็นสองประเด็นนะครับ

ประเด็นแรก - พระแม่ที่บูชาอยู่บนหิ้งนั้น ผมไม่แน่ใจว่าเทวาภิเษกมาเป็นพระเจ้าพระองค์ใด แต่ถ้าเทวาภิเษกมาเป็นพระซันโตชี ก็ตามที่คุณ Knot กล่าวครับ ธรรมเนียมปฎิบัติของพระซันโตชี คือ จะไม่ถวายของที่มีรสเปรี้ยวครับ

ประเด็นที่สอง - ถ้าเทวาภิเษกมาเป็นพระอุมาเทวี ก็สามารถถวายของเปรี้ยวได้ไม่ผิดครับ แต่ขออนุญาติแนะนำว่าก่อนไปบูชาเทวรูปใดๆ ให้ศึกษาเทวปกรณ์ให้ดีครับ จะได้บูชาอย่างถูกต้อง และถูกเทวลักษณะครับ

สุดท้าย หิ้งสะอาด สวยงามครับ

คำแปล บทสวดสดุดีพระคเณศ (ஸ்ரீ மஹா கணபதி ஸ்துதி : ศรี มหา คณะปติ สดุดี)

อาจไม่สละสลวยนักแต่เนื้อหาครบถ้วนบริบูรณ์แน่นอนครับ

พระพิฆเนศวรผู้ทรงสวมอาภรณ์ด้วยสีขาว,
พระผู้รัศมีเจิดจ้าสุขสว่างดั่งดวงจันทร์, พระผู้ซึ่งมีสี่พระกร
พระพิฆเนศวรผู้ทรงมีพระพักต์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
พระผู้ขจัดอุปสรรคทั้งมวล

พระพิฆเนศวร ผู้มีงวงที่โค้งได้รูปสวยงาม ผู้มีพระวรกายยิ่งใหญ่
และมีสติปัญญาฉลาดปราดเปรื่องดั่งแสงสุริยะ
ขอพระองค์ท่านขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

พระพิฆเนศวรผู้มีเศียรเป็นช้าง มีบริวารมากมาย
พระองค์ทรงเสวยผลมะขวิดและลูกหว้า
พระผู้ซึ่งเป็นบุตรแห่งพระแม่อุมา และเป็นผู้ดับความทุกข์ทั้งปวง
ข้าพเจ้าขอกราบพระพิฆเนศวรผู้มีพระบาทเหมือนดั่งดอกบัว

รัศมีจากพระพักต์แห่งพระแม่ปารวตี
จะอยู่กับพระพิฆเนศวรอันเป็นที่รักของพระองค์อยู่เสมอ
เฉกเช่นเดียวกันความสง่างามของพระพิฆเนศวรจะอยู่กับผู้ที่บูชาพระองค์อยู่เสมอ
ข้าพเจ้าขอบูชาพระองค์ผู้มีงาเดียวด้วยความจงรักภักดี

พระพิฆเนศวรผู้มีพระมุษิกะเป็นพาหนะ
พระผู้ถือโมทะกะ (ขนมหวาน) ไว้ในพระหัตถ์
พระผู้มีพระกรรณใหญ่ดั่งพัดโบก
พระผู้ซึ่งคล้องสายยัญโยปวีต
พระผู้ซึ่งมีพระวรกายเตี้ยได้สัดส่วน และเป็นบุตรแห่งพระศิวะ
ข้าพเจ้าขอกราบพระบาทแห่งองค์พระพิฆเนศวรผู้ขจัดอุปสรรคทั้งปวง

[s_untan_o]

บทสวดสดุดีพระคเณศ (ஸ்ரீ மஹா கணபதி ஸ்துதி : ศรี มหา คณะปติ สดุดี)

சு'க்லாம்பரதரம் விஷ்ணும்
ச'சி'வர்ணம் சதுர்புஜம் /
பர்ஸன்ன வதனம் த்யாயேத்
ஸர்வவிக்னோபசா'நதயே //1//

ศุกลาม พรธรัม วิษณุม
ศศิวรณัม จตุรปปุจัม /
ปรสัณณ วตณัม ธยาเยต
สรวิฆโน ปศานตเย //1//

வக்ரதுண்ட மஹாகாய்
ஸுர்யகோடி ஸம்பரப /
அவிக்னம் குருமே தேவ
ஸர்வ கார்யேஷு ஸர்வதா //2//

วักรตุณฑ มหากาย
สุรยโกฏิ สัมปรป /
อวิกณัม คุรุเม เทว
สัรว กาเยษุ สัรวตา //2//

கஜானனம் பூதகணாதி ஸேவிதம்
கபித்த ஜம்பூபல ஸார பக்ஷிதம் /
உமாஸுதம் சோக விநாச காரணம்
நமாமி விக்னேச்வர பாத பங்கஜம் //3//

กชาณณัม ภูตคณาธิ เสวิตัม
กปิตต ชัมภูผล สารภักษิตัม /
อุมาศุตัม โศกวินาศ การณัม
นมามิ วิฆเนศวร ปาท ปังกะชัม //3//

அகஜானன பத்மார்ககம்
கஜானன மஹர்நிசம் /
அநேகதம் தம் பக்தானாம்
ஏகதந்தம் உமாஸ்மஹே //4//

อคชาณณ ปัทมารกกัม
คชาณณ มหัรนิศัม
อเนกตัม ตัม ภักตานาม
เอกทันตัม อุมาสมเห //4//

மூஷிக வாஹன மோதக ஹஸ்த
சாமர கர்ண விலம்பித ஸூத்ர /
வாமன ரூப மஹேச்வர புத்ர
விக்ன விநாயக பாத நமஸ்தே//5//

มุษิก วาหน โมทก หัสต
สามร กัรณ วิลัมปิต สูตร /
วามณ รูป มเหศวร ปุตร
วิฆณ วินายก ปาต นมัสเต //5//

..จบบริบูรณ์..

คัดลอกมาจาก http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=109.0 โพสไว้โดย s_untan_o
เนื่องมาจากผมจะนำคำแปลลง แต่เนื่องจากกระทู้ไม่ได้ตอบมานานแล้ว ทำให้ผมตอบกระทู้ไม่ได้ จึงนำมาคัดลอกใหม่ไว้แทนครับ