Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Om Sakthi Parasakthi

#81
อภิเษก มาจากคำว่า ambishekum

คือการอาบน้ำเทวรูปใช่หรอคะ

แล้วหม้อที่เป้นหม้อบริวาร คือหม้อพระประจำทิศรึป่าวคะ
#82
คะ เป็นการบูชากองกูณที่ดูขลังมากเลยคะ

ไม่ทราบว่ามีการอภิเษกพระด้วยรึป่าวคะ

และบูชาพระอะไรเป็นประธานคะ

และดิฉันอยากทราบว่าท่านสวาฮา ท่านพำนักในเมืองไทยรึป่าวคะ จะได้ขออนุญาติคุณ ไปเฝ้าท่านอะคะ เพื่อขอความรู้ที่สงสัยอะคะ
#84
ไม่คะ เท่าที่ทราบมา จะปิดพระเนตรขององค์พระแม่กาลี ตลอดเวลาเลยคะ ถ้าบูชาในบ้าน เพื่อลดความรุนแรงของพระนาง

ดิฉันจึงอยากทราบว่า กระแสความเป็นมานั้นเป็นอย่างไรคะ
#85
ดิฉันเคยได้ยินเพื่อนเล่ามาอะคะ เรื่องการปิดตาพระแม่กาลี เพื่อลดความรุนแรงของพระนางอะคะ

รบกวนท่านผู้รู้ด้วยนะคะ
#86
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 25, 2010, 22:16:26
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 25, 2010, 19:27:40
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 25, 2010, 13:59:24
เคยไปสอบถามราคา แม่มารีอัมมาที่วัดแขกอ่ะครับ สุดยอดแห่งราคาเลยครับ แพงมากกกเคอะ  องค์ขนาด3นิ้วมี 2ราคา มี4999 บาท กับ 5999บาท แต่ก็สวยครับ องค์เป็นสีทองๆออกส้มๆ ไม่ใช้ทองเหลืองครับ เห็นคุณป้าผู้ดูแลร้านในวัดบอกว่า เป็นเนื้อโลหะทั้ง5 เหมือนในโบสถ์

ถ้าแพงก็ไม่ต้องเช่าสิคะ อิอิคะ ขำขำคะ

ดิฉันว่า ถ้าเราถูกใจเราก็เช่าคะ เพราะรายได้ ตรงนี้จะได้นำมาบูรณะวัดคะ

แพงไม่แพง ไม่สำคัญคะ ขึ้นอยู่กับเราเอง ทั้งหมด แพงก็ไว้ก่อน ถ้ามีกำลัง พอก็เช่าเถอะคะ

พูดถึงการบรูณะวัด เบนยังไม่ได้ไปทำบุญค่าบรูณะวัดเลย เห็นเขาเขียนป้ายว่ามีรอยร้าวในโบสถ์นี่ครับ

ถ้ามีรอยร้าวเค้าก้ต้องบูรณะสิคะ เค้าจะรอให้หลังคารั่วหรอไง
#87
Oh My Goddess !

สวยมากคะคุณพี่

เป็นภาพที่ สวยงามมากคะ มูลติงดงามมากมายย
#88
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 25, 2010, 11:41:03
อยากอารตีแบบโบราณจัง  แต่กลัวมือพอง เห็นภาพแล้วไฟเยอะมาก

ดิฉันเคยเห้นที่วัดแขกทั่วไป เค้านิยมเอาผ้ามาพันที่ด้ามจับคะ ลองดูนะคะคุณเบน

มันมีวิธีพลิกแพลงคะ
#89
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 25, 2010, 13:59:24
เคยไปสอบถามราคา แม่มารีอัมมาที่วัดแขกอ่ะครับ สุดยอดแห่งราคาเลยครับ แพงมากกกเคอะ  องค์ขนาด3นิ้วมี 2ราคา มี4999 บาท กับ 5999บาท แต่ก็สวยครับ องค์เป็นสีทองๆออกส้มๆ ไม่ใช้ทองเหลืองครับ เห็นคุณป้าผู้ดูแลร้านในวัดบอกว่า เป็นเนื้อโลหะทั้ง5 เหมือนในโบสถ์

ถ้าแพงก็ไม่ต้องเช่าสิคะ อิอิคะ ขำขำคะ

ดิฉันว่า ถ้าเราถูกใจเราก็เช่าคะ เพราะรายได้ ตรงนี้จะได้นำมาบูรณะวัดคะ

แพงไม่แพง ไม่สำคัญคะ ขึ้นอยู่กับเราเอง ทั้งหมด แพงก็ไว้ก่อน ถ้ามีกำลัง พอก็เช่าเถอะคะ
#90
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on December 05, 2009, 13:16:24
ตอนนี้ที่วัดแขกสีลม ก็เบิกให้นะครับ แต่ต้องไปตอนเปิดวัดประมาณ 9 โมงคนไม่เยอะ เตรียมดอกไม้ เครื่องสักการะไปด้วย

วันนี้ผมไปมา ยังเห็นเอารูปไปเจิมตั้งหลายคน แล้วมีองค์พระแม่มาให้บูชาใหม่หลายองค์แต่สุดยอดแห่งราคาที่แพง องค์ขนาดนิ้วนึงก็ 1000แล้ว

วันนี้มีพิธีบูชาไฟโหมกูณฑ์ขอพรองค์เทพถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยล่ะ กะจะอยู่ให้จบพิธีแต่ไม่ไหว ไฟร้อนมากอ่ะ

ไม่ทราบว่าคุณเบนเอาข้อมูลมาจากไหนคะที่ว่าวัดแขกสีลม รับเบิกเนตรพระ

ดิฉันไปเค้ายังเขียนไว้เลยคะ ว่าไม่รับเบิกเนตรพระนอกเทวสถาน

รบกวนด้วยคะ เพราะสับสนเหมือนกัน
#91
พระแม่ ๕ ภาค คือพระองค์ใดหรอคะ หรือจะเป็นพระแม่กายตรี
#92
ขอโทษนะคะ ภาษาไทยผิดเยอะมาก เด๋วจะมาแก้ไขให้นะคะ
#93
นมัสเต พี่น้องชาว HM ทุกท่านคะ

วันนี้พิมมี่อยากจะนำเสนอหลักการบูชาพระเป็นเจ้า ในสไตล์ที่พิมมี่ทำอยู่ บอกตรงๆนะคะ ว่าพิมมี่ยังเป็นนักศึกษาอยู่คะ ไม่ใช่พราหมณ์หรือคุรุที่รู้เรื่องมากแต่ประการใด แต่ศรัทธาของพิมมี่เกินวัยวุฒิแน่นอนคะ อิอิ

การบูชาในแบบฉบับพิมมี่นั้น จะเน้นการบูชาแบบปุถุชนคนธรรมดาคะ ข้อเน้นคะว่าปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้บูชาอิงตามลัทธิเทวะมาบอก หรือ
นิมิตต่างๆ รวมไปถึงการบูชาแบบพราหมณ์คะ พิมมี่ว่าคนไทยสมัยนี้นะคะ มักจะบูชาเทพเจ้าเกินรูปแบบฐานะและสถานภาพของตนคะ (ขอโทษนะคะที่แรงไปแต่ตามความรู้สึกจริงๆคะ ผิดยังไงก็ขออภัยมาด้วยนะคะ)


การบูชาแบบพิมมี่ ก็มีดังนี้คะ
๑ พิมมี่จะไม่ทำพิธีหรือบูชาอะไรเกินจากสถานภาพความเป็นปุถุชนธรรมดาคะ แค่ร้องเพลงสรรเสริญ อารตรี รวมไปถึงการถวายอาหารต่างต่อองค์เทวะ
๒ พิมมี่จะไม่ทำโฮมัม หรือการก่อกองกูณท์ในบ้านคะ เพราะพิมมี่เชื่อว่า บ้านคือบ้านคะ วัดคือวัด
๓ ในสถานะตอนนี้พิมมี่เองยังเป็นนักศึกษาที่กำเรียนหนังสืออยู่ ยังต้องขอตังค์จากคุณพ่อคุณแม่ พิมมี่จะบูชาท่านด้วยสิ่งของที่หาได้ง่ายมากคะ ซึ่งในการบูชาแต่ละครั้งของพิมมี่ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยคะ หากพิมมี่พอมีกำลัง และไม่เดือดร้อนตัวเองรวมถึงบุคคลรอบข้าง พิมมี่ถึงจะจัดหาซื้อดอกไม้ที่สวยงามและดูแล้วพิเศษกว่าดอกไม้ที่พิมมี่บูชาในเวลาปกติคะ เช่น พิมมี่เองจะปลูกดอกไม้ และนำดอกไม้นั้นมาบูชาคะ ส่วนตัวพิมมี่เอง ก็บูชาพระแม่ดุรกาคะ ก็จะปลูกสะเดาไว้ในบ้าน และจะนำใบของสะเดามาทำเป็นมาลัยถวายพระแม่เทวีของพิมมี่คะ ส่วนผลไม้ พิมมี่ปลูกกล้วยไว้ในบ้านคะ เพราะหลังบ้านเป็นสวน ก็เลยตัดลงมาบูชาบ่อยๆ
๔ พิมมี่ไม่เชื่อเด็ดขาดว่า ผลไม้มงคลต่างๆไหว้ขึ้นมาแล้วจะทำให้ชีวิตของคนเรานั้นดีขึ้นได้คะ แต่พิมมี่เชื่อว่า ถ้าเราบูชาด้วยจิตใจที่เป็นมงคล ไม่คิดอกุศล และดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท รวมถึงคิดดีประพฤติดี ปฎิบัติดี พิมมี่เชื่อว่าชีวิตของเราจะเป็นมงคลยิ่งกว่าชื่อผลไม่ที่เราบูชาอีกคะ
๕ พิมมี่ไม่เชื่อคะว่าการพกผ้ายันต์ ของขลังต่างๆรวมไปถึง วัตถุมงคลอะไรก็แล้วแต่จะสามารถกันสิ่งชั่วร้ายหรือความหายนะได้คะ พิมมี่เชื่อว่า
หากเรามีสติ กระทำแต่ความดี และไม่คิดร้ายกับใคร อานิสงค์แห่งความดีนี้จะเป็นเกาะปกป้องเราคะ ไม่จำเป็นต้องไปหาสิ่งของเหล่านั้นมาครอบครองไว้ให้เมื่อยแลเกะกะ แต่ถ้ามีไหว้เป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และ เพื่อความเป็นมงคล พิมมี่ถือว่าเป็นสิ่งดีคะ สรุปนะคะ ถ้าคุณทำดี คิดดี ความเลวร้ายก็มาครอบงำคุณไม่ได้หรอกคะ
๖ พิมมี่ไม่ต้องไปแสวงหาหรือไปวัดหรือสำนักต่างๆคะ อาจจะไปบ้าง เพื่อสักการะ แต่จะไม่ไปในรูปแบบของการหวังผลจากเทพเจ้าคะ จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาเทวะจากไหนเลยนคะ แค่เราทำดี คิดดี หัวใจเราเนี่ยแหละ ก็คือวัดที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งพระเป็นเจ้าแล้วคะ
ดวงประทีปของพระองค์ก็จะถูกจุดขึ้นมาตลอดเวลาคะ 
๗ พิมมี่เคยอ่านข้อความของผู้ที่ศรัทธา ในศาสนาฮินดูท่านนึงคะ ว่า ก้อนหินก็คือพระคเณศ และ ต้นหญ้าก็คือพระแม่ศักติ ทำให้พิมมี่ทราบว่าพระเป็นเจ้าสถิตกับเราทุกที่คะ ไม่จำเป็นต้องไปหาเทวรูปแพงๆมาบูชา แค่มีศรัทธา ก็งามยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกใบนี้แล้วหละคะ
๘ ในบางครั้งที่พิมมี่ขาดทรัพย์ในการบูชาพระเป็นเจ้า พิมมี่ จะแค่ยกมือไหว้ และสวดพระนามของพระแม่อย่างตั้งใจคะ พิมมี่เชื่อว่า พระองค์คงไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากความรักของลูกที่มีต่อแม่หรอกคะ
๙พิมมี่จะไม่ขอผลตอบแทนจากเทวะ คะ พรที่พิมมี่ของทุกครั้งคือ สติ ปัญญา อุเบกขา และความสัมเร็จคะ ถ้าเรามีสี่อย่างนี้บวกกับการทำมาหากินอย่างสุจริต เราจะมีชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องไปขอพรแบบหวังผลประโยชน์เลยคะ

นี่คือหลักการบางส่วนของพิมมี่ในการบูชาเทพเจ้า แบบนักศึกษา แต่ศรัทธายิ่งใหญ่ และยังต้องใช้เงินพ่อแม่อยู่ ยังไงก็ลองนำหลักการไปใช้หรือประยุกต์ดูนะคะ อีกอย่างพิมมี่ขอสนับสนุน ข้อความของคุณพี่เกียร์ไนท์คะ บ้านคือบ้าน วัดคือวัด บ้านจะแต่งยังไงจะให้เป็นเหมือนวัดก็คงไม่ได้หรอกคะ

อยากให้ทุกท่านช่วยแนะนำแนวทางของพิมมี่ เพื่อที่พิมมี่จะได้ปรับปรุงและแก้ไขในข้อบกพร่องนะคะ ขอบพระคุณคะ
#94
Quote from: สวายัมภู on February 21, 2010, 01:26:11
ส่วนเรื่องจะถวายเครื่องบวงสรวงบูชาอย่างไรนั้น ผมว่าไม่ใช่สาระที่สำคัญเท่าไหร่นัก  หากไม่ได้ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน รวมถึงไม่ได้ขัดกับจารีตธรรมเนียมที่ดีของศาสนา คุณมีศรัทธาจะถวายสิ่งใดให้กับพระเป็นเจ้าที่เคารพเทิดทูนก็ถวายไปเถิด เพราะสิ่งต่างๆที่บอกว่าต้องถวายนั่นนี่นั้น ก็เป็นสิ่งที่คนเรากำหนดกฏเกณฑ์ขึ้นมากันทั้งนั้น แต่หากจะเชื่อถือตามก็มิผิดอะไร ตราบใดที่ไม่ก้าวล่วงไปจากความเหมาะสม และพอดี...


เห็นด้วยกับคณสวายัมภูคะ แต่พิมมี่ขอเสริมนิดนึงนะคะ ไม่ว่าจะเป็นพระแม่ดุรกา พระแม่กาลี หรือพระแม่เทวีองค์อื่นพระนามใดก็ตาม
ขอท่านจงพึงไว้ว่าท่านคือแม่คนที่สองของเราคะ ส่วนแม่คนแรกในบ้าน คุณดูแลท่านดีเท่ากับแม่คนที่สองหรือแม่แห่งจักรวาลรึยังคะ
#95
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 20, 2010, 20:35:23
สำหรับของถวายพระแม่กาลีเน้นสีแดงๆจะดีมากๆเลยครับ การจัดเตรียมของถวายก็มีดังนี้  กล้วยน้ำว้า 1 หวี หรือ ผลไม้ที่มีสีแดงเช่น แอปเปิ้ล ชมพู่  นมจืดกี่กล่องก็ได้  มะพร้าวอ่อน1ลูก น้ำแดง  ขนมที่มีสีแดงเช่น ขนมชั้น  ขนมน้ำเชื่อมกุหลาบ(มีขายที่พาหุรัด)  ดอกไม้ก็ดอกกุหลาบหรือดอกชบาแดง มะนาวกี่ลูกก็ได้

ห้ามนำเลือดหรือเนื้อดิบถวายนะครับ ห้ามเอาเลือดป้ายพระโอสพระแม่ด้วย ผิดมากๆ

ประทานโทษนะคะ ไม่ทราบว่าทำไมต้องเป้นขนมชั้นกับมะพร้าวอ่อนคะ พิมมี่ไม่เข้าใจคะ
แล้วพิมมี่เองก็เพิ่งศึกษาใหม่อยากทราบความหมายของสิ่งของที่คุณเบญ ให้ไว้ข้างต้นด้วยคะ

อยากจะทราบว่าความหมายของเครื่องบูชานี้ตรงกับของดิฉันและหลักสากลรึป่าวเพื่อเป็นวิทยาทานในการศึกษาศาสนาอย่างท่องแท้คะ

ขอบคุณคะ
#96
ของที่บูชาพระแม่กาลี นะคะส่วนใหญ่ที่สำคัญ นะคะ

สิ่งที่ต้องบูชามีดังนี้คะ

๑.ศรัทธาที่ประเมินค่าไม่ได้
๒.ความรักที่ลูกพึงมีต่อมารดา
๓.การบูชาแบบไม่ได้หวังผลคะ
ส่วนเรื่องของสิ่งของ จะเป็นผลไม้หรืออะไรก็ได้คะ แต่จำเป็นมากนะคะว่าของเหล่านั้นที่คุณถวาย จะต้องไม่เป็นทุกข์สำหรับคุณ เช่น หากคุณมีตังค์แค่
สองร้อยบาท คุณซื้อขนมต่างๆดอกไม้หลากสี  หรือของที่พระแม่ทรงโปรดมา แต่คุณเองก็ทุกข์เพราะไม่มีตังค์พอ ดิฉันคิดว่า คุณใช่ความบริสุทธิ์คือศรัทธาของคุณเถอะคะ หากคุณมีกำลัง ก็สามารถทำได้คะ เพราะดิฉันเห็นคนสมัยนี้ เมื่อเป็นทุกข์ก็รู้จักพระเจ้าคะ แต่พอมีความสุข ก็เห็นพระองค์เป็นแค่หินก้อนนึง อีกอย่างถ้าคุณคิดที่หวังผลตอบแทนหรือกำไรมหาศาลจากเทพเจ้าด้วยการถวายของบวงสรวงเหล่านี้ ดิฉันคิดว่าอย่าทำเลยดีกว่าคะ
เพราะเหมือนเป็นการให้ใต้โต๊ะเจ้า ถ้าสำเร็จก็ดีไป แต่ถ้าไม่สำเร็จ เทพองค์นั้นก็จะถุกลดบทบาททันที  หรือถ้าคิดจะถวายของเพื่อต้องการโอ้อวดศักยภาพของตัวเอง ดิฉันก็คืดว่าอย่าทำคะ ทำแล้วคงไม่เกิดผลในทางที่ดีเท่าไหร่ นี่คือสิ่งที่พิมมี่อึดอั้นตั้นใจมานานแล้วคะ ยังไงก็ถือว่า
เอาภูเขาหิมาลัยออกจากอกละกันนะคะ อิอิ
#97
Quote from: chalit on February 19, 2010, 08:02:45
แต่ผมเคยเห็นข้างๆ บ้านเค้าทำพิธีบูชาไฟทุกๆ วันศุกร์อะคับ(วันเทพศักติ) มีเตาไฟในการบูชาไฟ  มีของไหว้เยะมากๆ แถมคนที่เข้าร่วมก็มากด้วยก็ทุกวันศุกร์จะมีการประกอบพิธี

คะ เค้าอาจจะเป็นพรหามร์ก็ได้คะ  ไม่ลบหลู่นะคะ ของไหว้เยอะ ก็ไม่ได้หมายความว้าพิธีบูชาจะถูกต้องตามหลักพระเวทย์
เพราะในการทำพิธีจะต้องมีการเชิญพระเวทย์ลงสู่กองกูณท์คะ ดิฉันเห็นสมัยนี้ คนเค้าฮิตทำกันจังเลยคะ อิอิ

ขออัมมันคุ้มครองนะคะ
#98
ข้อกำหนดในการบูชาพระเป็นเจ้าทางกองกูณ ที่มีชื่อเรียกกันว่า โฮมัม ซัวฮา ฮาวัน หรืออะไรอีกหลายๆชื่อนั้น

คุณเองต้องเป็นคนที่มีความรู้และชำนาญในเรื่องของมนตกำกับมากมาย คะ ต้องรู้รายละเอียดทุกขั้นตอน ทุกอย่างต้องเป๊ะ

เคสนี้ ศรัทธาก็ส่วนศรัทธาคะ ทุกอย่างควรจะเป๊ะตามหลักพระเวท และอุปกรณ์วัสดุที่ใช้ก็ค่อนข้างที่จะต้องใส่ใจ และรายละเอียดในทุกขั้นตอนคะ

แม้แต่ฟืนที่จะมาก่อก็ต้องถูกคัดสรรมาอย่างดี รวมไปถึง เครื่องบูชาที่จะถวายผ่านพระอัคนีนั้น ต้องพิถีพิถันพอสมควรคะ เพราะพระเจ้าไม่ใช่เพื่อนเล่น

เลยต้องพิถีพถันกันหน่อย ไม่ใช่สักแต่ว่าหาอะไรใกล้ตัวได้ก็ใส่ๆ หรือมนต์ไม่รู้อะไรก็สักแต่ท่องๆ อันนี้ความคิดดิฉันนะคะ

ถ้าคุณไม่ถูกให้ฝึกมาเป็นพรหามณ์ และอีกอย่างไม่มีความรู้ที่ถูกต้องโดยะเฉพาะ ดิฉันว่าเราบูชาในฐานะศาสนิกชนที่ดีคนนึงก็พอแล้วคะ


บูชาแบบธรรมดา ไม่ต้องเดือดร้อนใคร

แล้วศรัทธาของคุณจะเต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าและสิ่งที่ดีๆมากมาย 

#99
โห จะนุ่งให้เหมือนกับพระแม่เทวีเลยหรอคะ

ไม่เบานะคะเนี่ย อิอิ
#100
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 08, 2010, 16:50:42
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 07, 2010, 16:09:21

3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ


ขอพูดนิดนึงนะครับ

สำหรับข้อ3 พระเป็นเจ้าสามารถสื่อกับมนุษย์ได้ครับ มนุษย์ก็เช่นกัน อยู่ที่ว่าเรามีจิตศัทธามากแค่ไหน ถึงเราไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้แต่ก็รู้ไว้เถิดว่าเราสามารถสื่อถึงท่านได้ทุกที่ทุกเวลา  ทั้งในเวลาสวดมนต์ เวลาทำพิธีบูชา  เวลาขอพร หรือ เวลาเราคิดถึงท่าน  ท่านก็รับทราบแล้วครับ

สำหรับขอ4 อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาอุปกรณ์ของศาสนาหนึ่งไปรวมบูชากับอีกศาสนา เพราะผมก็ไม่เคยเห็นใครเอาอิมเข่งไปใช้บูชาในศาสนาฮินดูแล้วก็ไม่เคยเห็นใครเอาตะเกียงอารตีไปวนบูชาพระในศาสนาพุทธ  ขนาดหิ้งเราต้องยังแยกเลยครับ


ข้อสี่ มีคะ ตะเกียงที่นำไปวนหน้าพระพุทธ ที่อินเดียคะ ตามสังเวชนียต่างๆ มีคนพุทธปนๆฮินดู ก็เอาตะเกียงห้าแฉกมาอารตรีคะ

พร้อมกับโปรยผงชาตและผงสีต่างบนพระพุทธรูป แล้วก็บูชาพระพุทธรูปด้วยอาหารและดอกไม้ที่พวกเค้าจะเตรียมกันมาคะ

แต่ไม่มีการสั่นกระดิ่ง หรือเป่าสังข์แต่อย่างใดคะ เพราะคนที่นู่นเชื่อกันว่า คืออวตารของพระนารายณ์และพระกฤษณะคะ
#101
พี่เกียร์ไนท์คะ พิมมี่ว่าโต๊ะพี่เกียร์ไนท์ก็บึ๊มไม่เบาหละคะ

อิอิ เห็นว่าปีนี้คอนเซ็ปป ยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวง เลยชมะ อิอิ

สู้ๆทุกคนคะ

我爱HM
#102
เศียรของพระแม่ในรูปแบบของ เนื้อดินที่บูชาในนวราตรีคงไม่มีหรอกคะ ถ้าเป็นของอินเดียต้นฉบับบแบบแท้ๆ

เพราะในอินเดีย ไม่มีใครบูชาเป็นเศียรพระหรอกคะ เค้าจะบูชาเป็นมูลติองค์เต็ม หรือไม่ก็เป็นแบบหน้ากากอย่างที่พี่น้อง ของเราหลายๆท่านได้กล่าวไว้

ยกเว้นแต่ที่เห็นชัด ก็คือ มารีอัมมันคะ แต่มารีอัมมัน ส่วนใหญ่จะมียาวมาถึงคอคะ หรือไม่ก็แค่หน้าอก เอาใจช่วยให้หาได้และถูกต้องตามเทวปกรณ์นะคะ
#103
พิมมี่เองก็อยากจะแชร์ประสบการณ์คะ

พิมมี่เองได้มีโอกาสได้อาบน้ำชำระร่างกายในแม่น้ำคงคา ที่เมืองพาราณสีมาแล้วคะ

พิมมี่ได้นั่งเรือข้ามมาอาบฝั่งตรงข้าม กับฝั่งสวรรค์ หรือที่เราเรียกกันว่า ฝั่งนรก

ขณะที่พิมมี่ลงไปอาบอยู่นั้น ปรากฏก็ได้มี ศพลอยมา เป็นศพเด้กคะ อายุประมาณสิบขวบกว่าๆ สภาพอืดแล้วคะ

แต่พิมมี่เองก็ไม่ไดกลัวอะไร แถมยังได้ดื่มน้ำในแม่น้ำคงคา อีกตะหาก  หลายคนอาจจะมองว่า พิมมี่ ทานอะไรลงไปที่เจือปนมากับน้ำรึป่าว

พิมมี่ไม่ทราบหรอกคะ ว่าจะมีอะไรปนมาด้วยหรือไม่ แต่สิ่งที่พิมมี่ทราบคือว่า รสชาติของน้ำในแม่น้ำคงคานี้ ก็เหมือนน้ำเปล่าจืดๆคะ

ไม่มีรสชาติ หรือเหม็นซากศพเลยคะ อีกอย่าง มันทำให้พิมมี่ปลงคะ แม้แต่เด็ก คนแก่ ชรา หนุ่มสาว ก็หนีไม่พ้น ความตายคะ

แต่ที่พิมมี่กล้าอาบ กล้าดื่ม เพราะพิมมี่เชื่อว่าเป็นน้ำอันศักดิ์สิทธิ์คะ บวกกับตอนนั้นศรัทธาแรงกล้าด้วยจริงๆ อิอิ

พิมมี่ยังได้ตักน้ำจากแม่น้ำคงคามาเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อไว้ทำบูชาต่างๆ แล้วก็เก็บก้อนดินจากม่น้คงคามาเป็นที่ระลึกคะ

พิมมี่เชื่อคะว่าดินหรือน้ำเหล่านี้ อาจจะต้องสัมผัส ศพหรืออะไรหลายๆอย่างมาแล้วคะ แต่พิมมี่เชื่อว่า เราบูชาพระเป็นเจ้า พลังของพระเป็นเจ้า

จะชำระสิ่งที่ไม่ดีเองคะ  และพิมมี่เอง และทุกท่านเอง อีกหน่อย ก็ต้องเป็นเหมือนพวกเค้าทั้งหลาย เราจะต้องกลัวทำไมคะ ในเมื่อความตายเป็นเพื่อน

ของเรา อยู่กับเราทุกเมื่อ ชะนั้น จงอย่างรังเกลียดหรือกลัวความตายคะ แต่จงกลัว่า วันนี่คุณทำดีน้อยเกินไปรึป่าว พิมมี่เองก็เห็นด้วยกับพี่กาลิทัสคะ

ถ้าท่านไหนประสงค์ที่จะทิ้งมูลติอันมีค่าที่ทำมาจากดินในแม่น้ำคงคาหละก็ พิมมี่ยินดีขอรับมาบูชาต่อคะ ขอบคุณคะ

#104
ขอบคุณพี่น้องสายเลือดฮินดูมิตติ้งคะ ทุกท่านเปรียบเสมือนคุรุของพิมมี่

ขอบพระคุณน้ำใจของทุกท่านที่อุตส่าห์เสียสละเวลาอันมีค่ามาตอบกระทู้นี้ ขอบคุณคะ

หวังว่าคำตอบนี้จะเป็นวิทยาทานให้คนที่ไม่รู้ ไม่ทราบ หรือยังไม่แจ่มแจ้งในหลักของศาสนาที่แท้จริงได้แจ่มแจ้งซักที

#105
คะ  หวังว่าเราจะได้ไป ยาตราด้วยกันนะคะพี่กระต่าย พิมมี่ก็อยากเจอพี่กระต่ายเหมือนกันคะ
เห็นคุณพี่เกียร์ไนท์ ท่านได้เล่าให้ฟังว่า พี่กระต่ายเก่งในด้านการบูชาเทพเจ้า และ คุยสนุก
พิมมี่ชักอยากเจอแล้วคะ  หวังว่าเราคงมีโอกาสได้ไปด้วยกันนะคะ
#106
ขอบคุณคะ สำหรับทุกคำตอบที่ตอบมา จะเป็นแนวทางให้พิมมี่ศึกษาศาสนาให้ถ่องแท้ขึ้นอย่างมีเหตุผลทุกคำตอบที่พวกพี่ๆท่านให้มา ล้วนเป็นวิทยาทานขั้นสูง คะ พิมมี่เองก็ไม่ได้เก่ง มาจากไหนหรอกคะ อาศัยว่าพยายามศึกษาเอาคะ รบกวนพวกพี่ๆทุกท่านจิงเลยคะแต่ยังงไงก็ขอบคุณจากใจจริงสำหรับทุกคำตอบนะคะ มัน

...

เรียนคุณ โอมมหาบารมีเทวาคะ ดิฉันได้ไปพบพราหมณ์แล้วคะ ท่านสอนอะไรไรดิฉันหลายๆอย่าง ตอบตรงๆว่าดิฉันเป็นพุทธ แต่ดิฉันศรัทธาในพระเป็นเจ้าของศาสนาฮินดูคะ ท่านสอนให้ฉันศรัทธาพระเป็นเจ้าอย่างไม่งมงายคะ ท่านกล่าวกับฉันว่า  แม้แต่ทุ่งหญ้า พื้นดิน  ก็คือพระพิฆคเณศ

สายน้ำก็คือพระคเณศ เอาง่ายๆคะ ธรรมชาติทั้งหลายล้วนคือพระเป็นเจ้าคะ ทำให้พิมมี่ทราบว่า พระเป็นเจ้าทรงอยู่กับเราในทุกรูปแบบคะ ไม่จำได้

จำกัดว่าจะต้องอยู่ในรูปหนึ่งรูปใด ตายตัว ไม่จำเป็นต้องสรรหา สิ่งที่เป็นวัตถุขึ้นมาแล้วจำกัดความว่า นี่คือพระเจ้าคะ ท่านไม่เคยสอนว่ากราบเทวะองค์

นั้นองค์นี้ หรือต้องถวายเครื่องบูชาองค์นู้นองคนี้จะช่วยให้พรของเรานี้สำเร็จคะ

แต่ท่านสอนกับเราว่าวันนี้เราให้อะไรดีๆกับพ่อแม่ของเราที่เป็นมนุษย์ที่ให้กำเนิดเรา และ บิดาและมารดาแห่งจักรวาล ก็คือพระเป็นเจ้า รึยังคะ  ท่าน

สอนให้ดิฉันเชื่อว่า การบูชาพระเป็นเจ้า เป็นการขัดเกลาจิตใจ มีที่พึ่ง และรักสงบ มีจิตใจที่ใสสะอาด  ท่านสอนทิ้งท้ายไว้ให้ดิฉันอีกว่า หากเรานี้บูชา

พระเป็นเจ้าด้วยสิ่งของอันประเสริฐ หรือจะแพงมหาศาลขนาดไหน แต่ตัวเรานี้ ไม่ได้ทำหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ให้ประเสริฐตาม ไม่ว่าเทพเจ้าองค์

ไหนก็ไม่สามรถ ช่วยเราได้หรอก แล้วก็อีกอย่างที่ท่านพูดแล้วพิมมี่ รู้สึกโป๊ะเช๊ะ คะ คือ หากวันนี้คุณได้พรของพระเป็นเจ้า เช่นโชคดี หรืออะไรต่างๆ

จงอย่าดีใจ และตื่นตระหนกและหลงในพรเหล่านั้นคะ แต่จงใช้พรนั้นให้คุ้มค่าในการดำเนินชีวิตประจำวันให้ดีที่สุด และ ไม่ประมาทในชีวิต เพราะถ้าเกิด

คำว่าประมาทขึ้นมาแล้ว  ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถ ช่วยเราได้คะ

( ดิฉันได้พบกับบัณฑิต ท่านนี้ เมื่อครั้นที่ดิฉัน ไปเมืองหฤตวาร ประเทศอินเดีย ริมแม่น้ำคงคาคะ  ท่านได้มาร่วม

ประกอบพิธี คงคาอารตรี และท่านก็พูดภาษาอังกฤษได้ชัดมาก จึงทำให้พิมมี่ได้รับข้อคิดดี่ๆคะ เพราะเมื่อก่อนท่านเป็นคริสตชนคะ และก็ได้ย้ายเข้ามา

ศึกษาศาสนาฮินดูอย่างถ่องแท้ ก็เหมือนพิมมี่เอง ที่นับถือพุทธ แต่ได้มาศึกษา และศรัทธา ในพระเป็นเจ้าทางพราหมณ์ ฮินดูคะ )

...


นี่คือความคิดเห็นของพิมมี่คะ อาจจะกระทบท่านใดไปบ้าง ก็ขออภัย อย่างสูงสุดเลยคะ หากมีคำพูดใดไม่เหมาะสม พิมเองก็ขอโทดจากใจเลยคะ

รักทุกคนคะ

#107
เยี่ยมคะ พี่เสือ พิมมี่เองก็ไม่ได้อะไรหรอกคะ

แค่อยากให้ แยกศรัทธา ศาสนา ความเชื่อ นิมิต และ จิตอุปทานให้แยกออกจากกันคะ
#108
ไม่ขั้นสูงหรอกคะ แต่พิมมี่เองที่ยังไม่ค่อยจะรู้อะไรมาก เพิ่งศึกษาอะคะ แต่การศึกษาของพิมต้องใช้หลักของเหตุผลด้วยคะ

รบกวนท่านผู้รู้ด้วยนะคะ อยากได้คพำตอบที่แท้จริงๆ ขอบคุณคะ
#109
พิมมี่อยากจะให้ทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามที่พิมมี่สงสัยคะ
1. ศาสนาที่แท้จริงคืออะไรคะ
2  ความเชื่อแบบการมองเห็นด้วยตัวเอง(Sense) กับหลักการทางศาสนา สามารถนำมาผนวกกันได้จิงหรือ
3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ

( รบกวนด้วยนะคะ พิมมี่อยากให้ทุกท่านช่วยชี้แนะในสิ่งที่พิมมี่สงสัย และเป็นวิทยาทานคะ หากคำถามใดไม่เหมาะสม ขออภัย ด้วยนะคะ )
#110
เห็นด้วยกับคุณพี่มีนคะ

แต่พิมมี่คิดว่า เรื่องของศาสตร์ การเขียนยันตรานี้เป็นสิ่งที่สูงสุด

และทางศาสนาเอง ก็ไม่ได้เอาความเชื่อของการนิมิตรขึ้นมาเป็นตัวหลักในการทำยันต์

หากคุณเชื่อว่าเป็นศิลป์ แต่บางส่วนอาจจะไม่ถูกต้องตามลักษณะอันพึงประสงค์ของศาสนา ดิฉันคิดว่า มันดูแปลกๆแทม่งดีคะ

ดิฉันไม่ได้ลบหลู่พระแม่ของคุณนะคะที่คุณสื่อได้ แต่ดิฉันคิดว่า การที่คุณมาพูดทำนองนี้ อาจจะทำให้คนทั้งหลายดูศาสนาฮินดู เสื่อมเสียนิดๆนะคะ

เพราะในอินเดีย ไม่มีใครเค้าทำแบบนี้เลยคะ หรือมีก็อาจจะไม่แพร่หลาย ดิฉันอยากให้คุณช่วยตีค่าของศาสนา กับ ความเชื่อให้ออกจากกันนะคะ

( คำแนะนำของดิฉันเกิดมาจาก จิตใต้สำนึก ไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายใครคะ )
#111
เท่าที่พิมพ์ทราบว่านะคะ  เป็นวันที่เค้าแห่ มูลติของพระกฤษณะ และองค์อะไรอีกสององค์ ไม่ทราบอะคะ (ไม่สันทัดจิงๆคะ รบกวนผู้รู้)

แห่ผ่านถนนตามที่พี่เกียร์ไนท์บอกอะคะ แต่งานนี้บอกได้ว่า ไม่ได้มีการตั้งโต๊ะแบบวัดแขกนะคะ งานนี้รุ่นพี่ที่อยู่ในรูปที่เล่นกีตาร์ พี่เค้าบอกว่า

ไม่ต้องเตรียมของไหว้อะไรมาเลยคะ เตรียมมาแต่ตัว หัวใจ และก็ศรัทธาที่ไม่ได้หวังอะไรแอบแฝง มาก็เท่านั้นคะ ไปถึง ก็ร้อง ฮเรๆกฤษณะ ฮเรรามา

ส่วนตัวพิมมี่เอง คิดว่าจะไปคะ พิมมี่จำได้ว่า เคยชวนพี่ต่ายกับพี่เกียร์ไนท์ไปแล้วสงสัยพี่ทั้งสองคงลืมแล้วมั้งคะ อิอิ
#112
พิมมี่ก้รู้สึกดีคะที่มีท่านผู้รู้มาช่วยตอบเรื่องที่พิมมี่สงสัยเรื่องยันต์

พิมมี่อยากจะบอกว่า ในศาสนาฮินดู พิมมี่ไม่เคยทราบว่ามียันตรานี้ เพราะยันต์ส่วนใหญ่ จะมาจากรูปเลขาคณิตซะส่วนใหญ่

แล้วยันต์ถ้าคิดจะเอาอาวุธของเทพเจ้ามาช่วยนะคะ พิมมี่ว่าอย่าเลยคะ คนดีเค้าคงไม่กลัวผีหรอก เว้นซะแต่คนทุศีล เอาเทวมาอ้าง หรือละเมิศศีล

ทำผิด ทำไม่ดี จะต้องกลัวคะ พิมมี่ไม่อยากให้ทุกคนนมองว่า การมียันต์ที่ถูกต้องตามหลักศาสนา หรือยันต์ที่ท่านได้จัดทำขึ้นมาเองเพื่อการใดก็ตาม

มีไว้ขึ้นมาเพื่อกันผี ดิฉันคิดว่า ยันต์เหล่านี้ สร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดแต่ความเป็นสิริมงคลคะ หรือไม่ก็อาจจะป้องกันสิ่งไม่เป็นมงคล แต่เอามกันผีเนี่ย พิมว่า

แปลกๆคะ จึงงอยากจะฝากน้องกุมารเวทนะคะ ว่าอย่ามองว่าเทวะเป็นเครื่องราง หรือของขลัง ชนิดหนึ่ง ที่คุณจะขออะไรก็ได้ แต่อยากให้คุณมองจาก

หัวใจว่า  ท่านคือพระเป็นเจ้า คือสิ่งที่ควรยกย่องไว้เหนือหัว พระเป็นเจ้าคือพระเป็นเจ้า ไม่ใช่เราเป็นพระเป็นเจ้า คะ


(ขอโทดนะคะพี่กาลิทัสและทุกคน ถ้ามันจะดูแรงๆนิดเนิงคะ ขอบคุณคะ)
#113
พิมมี่เองก็รู้สึกแปลกใจคะ

ว่ามียันต์แบบนี้ด้วยหรอ

รู้สึกแย่ๆนะคะ ที่มีการนำเทวมาใช้ในการใบ้หวย ดูลายมือ พยากรณ์ต่างๆ

รู้สึกเหมือนเอาเทวะมาเป็นเครื่องมือเสริมอะคะ รู้สึกแย่จิงๆ

ดิฉันเองก็เห็นอีกกระทูนึง ว่าเป็นพระแม่เทวีมาบอก

ดิฉันอยากทราบว่า คุณสื่อได้ยังไงคะ รบกวนช่วยมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานนะคะ
#114
เห็นด้วยกับพี่กิ๊ฟซี่คะ

จะไปทำเศียรไว้ครอบครูหรอคะ



#115
พิมมี่ขอแสดงความคิดเห็นตั้งแต่ต้นกระทู้บ้างนะคะ

เอาเป็นความคิดของพิมมี่นะคะ

คำถาม : เราไหว้พระเป็นเจ้าเพราะอะไรคะ

คำตอบ : ถ้าเป็นพิมมี่ พิมมี่คิดว่าการที่เราไหว้พระเป็นเจ้า เพราะว่าพระองค์เป็นที่พึ่งของเราคะ ไม่ว่าพระองค์จะอยู่ในรูปใด พระองค์คือที่พึ่งของพิมมี่คะ
        ท่านเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองของพิมมี่คะ พิมมี่ไม่เคยหวังประโยชน์จากท่าน แต่พิมมี่หวังอย่างเดียวคะ คือการที่ทำให้ศรัทธาของพิมมี่
        มีคุณค่า มากกว่าความต้องการทางโลกคะ อิอิ

คำถาม : การที่คุณๆท่านๆทั้งหลายถูกหวย เพราะไหว้สักการะบวงสรวงบนบานสังเวยเครื่องเซ่นต่อพระเป็นเจ้า

คำตอบ : พิมมี่เชื่อว่า ความคิดเห็นของพี่กิ๊ฟคือคำตอบของพิมมี่คะ  อาจจะเป็นบุญเก่า หรือ บังเอิญรึป่าวคะ เพราะพิมมี่เชื่อว่า เทวะทั้งหลาย
        ก็คงไม่โปรดการพนันหรอกคะ

คำถาม : พิมมี่อยากทราบคะ ว่าทำไม เราบูชาพระฮินดู จึงต้องมีทวารบาลเป็นกุมารทองคะ

คำตอบ : รบกวนท่านผู้รู้จริงๆนะคะ ช่วยไขข้อสงสัยกับให้พิมมี่ด้วยคะ

หากคำถามนี้กระทบในแง่ลบยังงไงก็ขออภัยนะคะ เพราะนี่ความคิดของพิมมี่คะ ขอบคุณคะ
#116
คงเป็นยันต์แบบไทยๆรึป่าวคะ คุณnai3

พิมมี่เองก็ไม่ทราบเหมือนกันคะ

เพราะในศาสตร์ฮินดูคงไม่มีมั้งคะ เพราะไม่เคยเห็น หรือว่ามีคะ อิอิ

รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ อิอิ
#117
เป็นมูลติองค์เต็มของพระม่เทวีคะ

ส่วนใหญ่ จะเป็นศิลปะแบบอินเดียเหนือ ที่ดังที่สุดน่าจะเป็นที่เมืองกัลกัตตาคะ

#118
จิตอุปทานรึป่าวคะ ดิฉันไม่ได้ลบหลู่นะคะ แต่รู้สึกแปลกดีคะ
#119
เว็บห้ามจำหน่ายสินค้า มะใช่หรอคะ

ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยคะ
#120
ศิวลึงค์มีหลายเนื้อคะ

ไม่ว่าจะเป็นหิน แร่ธาตุปรอท หรือทองเหลือง

แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ หินคะ  เพราะเชื่อกันว่าหินมีพลังมากที่สุดคะ

ส่วนปรอทนั้นก็แบบที่วัดเทพมนณเทียรอะคะ

ศิวลึงค์พิมมี่ไม่ค่อยสันทัดคะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยมาให้ความรู้เพิ่มเติมอีกทีนะคะ

หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคะ