Messages

และล่าสุดกับวิจิตรศิลป์แห่งยุคสมัย



พระพุทธมหาปารมีนุภาพพิสุทธิ์อนุตรสังคามวิชัย

งดงามเกินบรรยาย

วันนี้ไม่ใช่วันเกิดดิฉันหรอกค่ะคุณอักษรชนนี แต่วันพรุ่งนี้ใช่ค่ะ (ฟังงงๆนะคะ)
ขอพรด้วยเลยค่ะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว

ภาพอาจจะเบลอเล็กน้อย เพราะเครื่องสแกนดิฉันงอแงขึ้นมา ภาพพระพายนี้ คล้ายกับภาพซึ่งเชื่อว่าทุกท่านคงเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว แต่มีบางสิ่งเปลี่ยนไป

ปัจจุบันภาพนี้อยู่ในความครอบครองของคุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ เจ้าของศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ เมื่อคุณเสริมคุณได้รับความกรุณาจากอาจารย์ให้ครอบครองภาพนี้ เขาได้ขอร้องให้อาจารย์เปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อยในภาพ นั่นคือ

1. แต่เดิม อาจารย์จักรพันธุ์วาดพระพายเกล้าพระเกศาเป็นพระเมาฬีไว้กลางพระเศียร ต่อมาได้แก้ใหม่ โดยให้ทรงปล่อยพระเกศาระพระพักตร์พลิ้วสะบัดไปตามสายลม สมกับที่ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งลม

2. แต่เดิม ภาพชุดเทพเจ้าทั้งหมด อาจารย์จักรพันธุ์วาดให้ทอดพระเนตรไปทางด้านข้างของรูปภาพ พระพายก็เช่นกัน แต่ต่อมาได้แก้ให้ทอดพระเนตรตรงมายังผู้ชม

3.อาจารย์จักรพันธุ์เพิ่มพื้นที่น้ำบนฉากหลังให้มาก แต่ฉากหลังมีความชัดเจนน้อยลงขึ้นเพื่อสื่อถึงความร่มเย็น และทำให้พระพายดูโดดเด่นมากขึ้น

4. อาจารย์จักรพันธุ์เพิ่มสีในส่วนของพระพักตร์และพระเศียรเพื่อสื่อถึงรัศมีที่ฉายออกมา ตอกย้ำฐานะของเทพเจ้าให้ชัดเจนขึ้น

หวังว่าทุกท่านคงยินดีกับของขวัญชิ้นนี้

ขอทวยเทพทรงรักษาทุกท่าน

และด้วยวาระพิเศษอันเดียวกันนี้ ตามที่ดิฉันถือปฏิบัติมาตั้งแต่เด็กๆ มักจะมอบของเล็กๆน้อยๆแก่บุคคลซึ่งเกื้อกูลดิฉันอย่างดีมาตลอดปี
ในการนี้ดิฉันจึงของมอบของเล็กๆอันพิเศษสุดแด่บุคคลต่อไปนี้ค่ะ

แด่ คุณอักษรชนนี ที่กรุณาตอบคำถามบ้าบอจากดิฉันโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ทั้งยังกรุณาไปค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังโดยไม่รังเกียจ แสงสว่างที่คุณส่องให้ดิฉันเกิดปัญญา ดิฉันเชื่อว่าแสงในปัญญาของคุณจะสว่างไสวยิ่งขึ้นกว่าดิฉันหลายเท่า ขอมอบของนี้เพื่อคุณและหวังว่าของขวัญนี้น่าจะถูกใจคุณนะคะ ในฐานะที่เราต่างก็ชื่นชมผลงานของอาจารย์จักรพันธุ์เช่นเดียวกัน

แด่คุณเทวาเหนือเกล้า พี่สาวที่ดูแลดิฉันมาตั้งแต่แรกเกิดในบอร์ดนี้ เราต่างบูชาพระลักษมีเทวีเหมือนกัน ดุจพี่น้องร่วมมารดากัน ยังไงฝากดิฉันไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

แด่คุณตรีศังกุ ที่ชวนดิฉันคุยโน่นคุยนี่โดยตลอด คุณเป็นครอบครัว HM คนแรกที่เข้ามาตอบกระทู้ดิฉัน จะไม่ลืมเลย

และขอมอบเป็นพิเศษแด่ทุกท่านที่เกื้อกูลดิฉันด้วยการตอบกระทู้ (ปัญญาอ่อน) ที่ดิฉันสรรหามารบกวนซะเหลือเกิน ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งที่ไม่เบื่อและหวังว่าจะเอ็นดูดิฉันเช่นนี้ตลอดไป

ของชิ้นนั้นคือ

สวัสดีและยินดีต้อนรับคุณนอ ผาโด้ค่ะ

ขอบพระคุณสำหรับความเห็นด้วยนะคะ

ขอพระผู้เป็นเจ้าคุ้มครอง

ภาพฝีมืออาจารย์จักรพันธุ์นี้ ดูเท่าไรก็ไม่เบื่อค่ะ

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดพิเศษของดิฉัน ขอมอบภาพพระกามเทพฝีมืออาจารย์แก่ครอบครัวฮินดู มีทติ้งทุกท่านนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะถูกใจกัน



ความรักและความศรัทธาจะพาเราก้าวไปสู่สังคมที่ร่มเย็นค่ะ

อ้อ เข้าใจแล้วค่ะ

ขอบพระคุณคุณตรีศังกุที่ให้ความกระจ่างค่ะ

เท่าที่ทราบ กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยังใช้พระพระสุรัสวดีอยู่นะคะ



http://www.sadsadee.com/index1.htm

อย่างนี้ เราสามารถชมประติมากรรมหรือเทวรูปเก่าๆที่พูดถึงเพศที่สามที่ไหนได้บ้างคะ มีใครมีรูปบ้างเอ่ย

รวมถึงตำนานการกลับเพศ อย่างเรื่อง อิฑา มีประติมากรรมหรือรูปสลักไหมคะ

ขอบพระคุณคุณกาลปุตรา คุณจิ้งจอกพันหน้าและคุณโหราน้อยเป็นอย่างสูงเลยค่ะ
เป็นเรื่องน่าสนใจมาก เมื่อนานมาแล้วเห็นเทวรูปพระแม่อุมาตากีให้บูชาอยู่ที่วัดราชนัดดา
แต่ไม่ได้บูชามา ตอนนี้หายไปแล้ว

แต่ก็ได้ยินมา (อีกแล้ว) ว่า hijra มีชีวิตที่ยากลำบากมาก เพราะคนไม่ยอมรับเข้าทำงาน ด้วยถือว่าเป็นผู้ได้รับพรให้ร้องรำทำเพลงกล่อมโลก (และเหตุผลอื่นๆอีกมากแน่ๆ) คนเหล่านี้จึงต้องทำหน้าที่ของตนต่อไป แต่ว่ากันว่ามีระบบอุปถัมภ์กันเองที่เข้มแข็งมาก นับญาติกันเลยเชียว คงคล้ายๆบ้านเราชอบเรียกเจ๊ คุณแม่ และอื่นๆ

ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ อ่านสนุกจัง

ปล. ตกลงกะทยสามารถจับต้องเทวรูปได้ใช่ไหมคะ เอ่อ ที่ถามนี่ไม่ได้อยากจับนะคะ เพราะไม่รู้ว่าจะบังอาจไปจับท่านทำไม (นอกจากองค์ที่บ้านของตัวเอง ซึ่งถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ค่อยจับ) แต่แค่อยากรู้ค่ะ

รับทราบด้วยความโสมนัสยิ่งค่ะ

ชอบงานของอาจารย์จักรพันธุ์ที่สุด คิดว่าคุณอักษรชนนีก็เช่นเดียวกัน
เลยรีบโพสไปหน่อย โดนกับคุณอักษรชนนีพอดี เลยรู้สึกว่าดิฉันเสียมารยาทจริงๆ
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

พระนารายณ์ทรงสุบรรณ พระพรหมและพระอาทิตย์แบบที่ใช้ปักบนม่านโรงละครศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยค่ะ

เอามาฝากค่ะ

พระพิราพ

ขอบพระคุณคุณอักษรชนนีนะคะ (ดูเหมือนจะมีแค่เราในกระทู้นี้จริงๆ กลายเป็นจดหมายวิชาการโต้ตอบกันไปซะงั้น แต่ดิฉันก็ชอบมากค่ะ)

รูปพระสรัสวดีของอักษรฯนี่งามตรึงใจจริงๆ

หวังว่าชื่อกระทู้คงไม่ล่อแหลม

และหมายใจว่ากระทู้นี้คงไม่ล่อเป้านะคะ เพราะเกิดขึ้นเพราะความอยากรู้และต้องการทราบมุมมองจากทุกๆท่านค่ะ หากไม่เหมาะสม หรือน่ารำคาญประการใด รบกวนผู้เกี่ยวข้องทำความสะอาดได้เลยนะคะ

เคยอ่านคู่สร้างคู่สมเมื่อไม่นานมานี้ มีบทความเล่าถึงตำนานเมื่อครั้งพระรามจะเสด็จเดินดง ผู้คนในเมืองออกไปส่งเสด็จ ท่านรับสั่งให้ชายหญิงทั้งหลายกลับไป ปรากฎว่าคนทั้งหลายกลับเข้าเมือง ยกเว้นคนกลุ่มหนึ่งเดินตามไปส่งเสด็จต่อ เมื่อทรงสงสัยแล้วตรัสถาม คนเหล่านั้นตอบว่า รับสั่งให้ 'ชายหญิง' กลับเข้าเมือง พวกเขาไม่ใช่ทั้งสองอย่างจึงมาส่งด้วยความภักดี

พระรามพระราชทานพรให้คนกลุ่มนี้สร้างความสุขให้โลก ยังชีพด้วยการเต้นรำ คนพวกนี้คือ Hijra หรือกะเทย

อาจเป็นเพราะชาติพันธุ์เดียวกัน ทำให้ดิฉันสนใจประเด็นนี้มาก เคยได้ยินได้ฟังมาก็มาก แต่อยากได้ทัศนะจากท่านทั้งหลายในบอร์ด ซึ่งเต็มไปด้วยนักปราชญ์และผู้รู้ในด้านนี้ รบกวนดังนี้ค่ะ

1. ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู คิดอย่างไรกับเพศที่สาม โดยเฉพาะกะเทย
2. เคยได้ยินว่าเทวสถานบางแห่งมีกะเทยเป็นนางระบำและมีกะเทยบูชาโดยเฉพาะ มีจริงไหม ที่ไหน และทำไมเป็นเช่นนั้นคะ
3. คนอินเดียโดยทั่วไป มีทัศนคติอย่างไรต่อคนกลุ่มนี้
4. เหมือนจะเคยทราบว่ามีเทวรูปพระเทวีองค์หนึ่ง ประทับบนไก่ ได้รับการบูชาจากกะเทยมาก ใช่หรือไม่และถ้าใช่ ท่านคือใครและเพราะอะไร
5. อันนี้ส่วนตัวนะคะ เมื่องานแห่พระแม่ที่สีลมครั้งล่าสุด ดิฉันเข้าไปช่วยชักรถทรงพระกฤษณะแล้วกำลังจะยื่นมือไปแตะรถ เจ้าหน้าทีร้องห้ามบอก  ห้ามผู้หญิงจับ เอ่อ...ดิฉันควรจับไหมคะ เพราะดิฉันก็เป็นผู้ชาย (ที่นุ่งห่มอาภรณ์สตรี) แต่วันนั้นไม่ได้จับเพราะเห็นว่าเราสวมอาภรณ์สตรีอยู่ (ข้อนี้ค่อนข้างปัญญาอ่อน)
6. ในเทวตำนานมีเรื่องของกะเทยบ้างไหมคะ นอกจากท้าวอิลา

หวังว่าคงไม่ใช่กระทู้ที่ไปกวนโทสะใคร ดิฉันใคร่จะทราบจริงๆค่ะ รบกวนทุกท่านด้วย

ปล.ดิฉันตั้งด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องกระทู้นี้และตัวดิฉันด้วย

ยินดีด้วยนะคะ
เห็นแล้วชื่นใจจัง

ส่วนพระสรัสวดีของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นพระเทวีซึ่งเรารู้จักพระองค์กันดี และคณะอักษรฯก็ให้ความสำคัญกับพระองค์ท่านในฐานะ วาจเทวี ในพระเวทค่อนข้างมากค่ะ

หารูปไม่เจออ่ะ ใครมีบ้างไหมคะ

["กรมสุรัสวดี]

อันดับต่อไปคือ กรมสัสดีค่ะ

ใช้ตราพระสรัสวดีเป็นเครื่องหมาย

กรมพระสุรัสวดี " หรือ " กรมสุรัสวดี " จัดตั้งขึ้นรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่๒ พ.ศ.๒๐๓๔-๒๐๓๕ กรมพระสุรัสวดีมีหน้าที่ จัดส่งเจ้าหน้าที่สัสดีไปประจำ ณ หัวเมืองต่าง ๆ เพื่อจ่ายเลข (สักตัวเลขที่ท้องแขนชายไทย) ขึ้นทะเบียบคนเป็น "ไพร่" ดังนั้น "กรมสุรัสวดี" จึงเป็นกรมใหญ่ ซึ่งมีฐานะคล้ายกระทรวง ควบคุมบัญชีไพร่พลทั่วประเทศ มีผู้บังคับบัญชากรมคือ " พระสุรัสวดี " ขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์ กำกับเจ้าขุนมูลนายทุกกรมกอง ทั้งฝ่ายกลาโหมและฝ่ายมหาดไทย ให้ต้องส่งบัญชียอดจำนวน " ไพร่ " ในสังกัดพร้อมเลขทะเบียน ประจำตัวไพร่ให้ " กรมสุรัสวดี " ควบคุมในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบเกณฑ์ไพร่พลเพื่อจัดกองทัพ เมื่อต้องการกำลังพลเข้าทำศึกสงคราม[/COLOR][/FONT]

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ ๕) ได้ปรับปรุงกิจการทหารเป็นแบบอย่างยุโรป ได้จัดตั้งกระทรวงกลาโหม และกระทรวง มหาดไทยขึ้น พร้อมได้ยกกรมสุรัสวดี ไปขึ้นกับกระทรวงกลาโหม เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๙ และต่อมา พ.ศ.๒๔๔๑ ได้เปลี่ยนชื่อจาก "กรมสุรัสวดี"  เป็นกรมสัสดี[/FONT](จาก[sassadee.ruksadindan.com]




พระสุรัสวดี เป็นรูปเทวดานั่งบนฐานสูง มีผ้าทิพย์ห้อยหน้า พระหัตถ์ซ้ายถือพระขรรค์ พระหัตถ์ขวาถือสารบัญชีไพร่พล มีพระนามว่า "พระสุรัสวดี" ปัจจุบันรูปประติมากรรมของ " พระสุรัสวดี " แกะสลักจากไม้ไม้โดยช่างหลวงสมัยกรุงธนบุรี ยังคงเก็บรักษาไว้ที่พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

]ความน่าสนใจก็คือ พระสรัสวดีตามคตินี้ ไม่ใช่เทวีนะคะ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากอีกเรื่องหนึ่ง

อุ๊ยตาย ลืมโพสรูป



ดาราตราพระยมทรงสิงห์ ประจำตำแหน่งพระยายมราช เสนาบดีกรมพระนครบาล
จัดแสดง ณ ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญกษาปณ์ พระบรมมหาราชวัง

ขอเชิญทุกท่านเข้าชมศาลาฯแห่งนี้นะคะ ตั้งอยู่ ณ พระคลังมหาสมบัติ บริเวณทางเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก่อนถึงประตูพิมานไชยศรี
เต็มไปด้วยทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน อาทิ เครื่องประกอบพระราชอิสริยยศเจ้านาย พระชฎากลับ พระแสงสำคัญ เครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (ชุดเดิม) ข้าวของเครื่องใช้ในพระราชพิธีบรมราชภิเษกฯ
รับรองไม่ผิดหวัง และได้รับความรู้มากมาย

ปล. ไปพร้อมกันเยอะๆขอมัคคุเทศน์ได้ด้วยนะคะ

เย้ ขอบพระคุณคุณอักษรชนนีค่ะ  นอกจากความรู้เรื่องเทพจะน้อยแล้ว ความรู้เรื่องอัพโหลดยังน้อยตาม 55555555

พระยมอินเดียทรงกระบือใช่แล้วค่ะ แต่เดาว่าเมื่อถูกนำมาใช้เป็นตราหน่วยงานและเครื่องประดับเกียรติ จะมีรูปควายอยู่ด้วยเห็นจะไม่งาม

ดิฉันสันนิษฐานเองว่าตราพระยมทรงสิงห์ของกรมราชทัณฑ์คงจะนำมาจากตราประจำตัวของเจ้าพระยายมราช ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์สำหรับเสนาบดีกรมพระนครบาล ซึ่งด้านหนึ่งต้องทำหน้าที่ตัดสินคดีความด้วย การตัดสินคดีนี้จำเป็นอยู่เองที่ต้องมีความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง พระยมนั้นทรงได้รับการยกย่องว่าทรงยุติธรรมเที่ยงตรง น้อยคนจะขัดขืนกฎที่ทรงวางไว้ และไม่ทรงโอนเอียงเข้าข้างใคร ดังนั้นจึงมีการตั้งตำแหน่ง เจ้าพระยายมราช ขึ้น ตามมลคลนามนั้น

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดฯให้สร้างดาราตราพระยมทรงสิงห์ขึ้นเพื่อพระราชทานเจ้าพระยายมราช (แก้ว สิงหเสนี)ทำด้วยทองคำเป็นรูปกลมกลีบบัว เป็นรูปพระยมทรงสิงห์อยู่ในวงกรอบเพชร 
สำหรับประดับยศ กลัดบนอกเสื้อ และปรากฎพระราชทานให้เสนาบดีตำแหน่งนี้อีกหลายคน จนพ้นสมัยบรรดาศักดิ์

ตราพระยมทรงสิงห์จึงกลายเป็นตราประจำกรมราชทัณฑ์ไป

ถ้าดิฉันจำไม่ผิด บนหน้าบันพระระเบียงรอบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม มีตราพระยมทรงสิงห์ประจำกรมพระนครบาลอยู่ด้วย รวมกับตราประจำกรมกอง ประทรวงต่างๆในสมัยรัชกาลที่ 5 ค่ะ

สำหรับดาราดวงนี้ ปัจจุบันยังมีจัดแสดงอยู่ ณ ศาลาเครื่องราชอิสริยยศเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียบกษาปณ์ พระบรมมหาราชวัง

เกร็ดที่น่าสนใจเมือถึงตรงนี้ก็คือ พระยมทางอินเดียทรงกระบือ แต่เพื่อให้เหมาะสมไทยเราจึงสร้างให้ท่านทรงสิงห์ค่ะ

ดังนี้นี่เองดิฉันจึงเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสนุกด้วยการนำเสนอและจำกัดความดวงตรา ชื่อตำแหน่งต่างๆที่ใช้กันอยู่ อันมีที่มาจากพระเป็นเจ้า เพราะเป็นเรื่องน่ารู้ น่าสนใจ ประเทืองปัญญาและเป็ฯเกร็ดอันสนุก แต่ ณ เวลานี้ผู้คนลืมเลือน กลายเป็นตราที่น้อยคนจะแปลความหมายออก หรือแปลความหมายผิด นั่นเอง

ขอบพระคุณ คุณ phorn456  เลยค่ะ กรุณานำภาพสวยๆมาฝากกัน

ขอทดแทนพระคุณนั้นด้วยภาพชุด พุทธจริต ฝีมืออาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤตนะคะ

















หวังว่าทุกท่านจะถูกใจค่ะ

งี้ ถ้าสมมุตนะคะสมมุต

สมมุตเรามีสององค์ แล้วได้เพิ่มมาอีกองค์
เราเชิญท่านไว้ในกล่องก่อน แล้วหามาเพิ่มให้เป็นสี่หรือห้าแล้วถึงนำขึ้นหิ้งได้ไหมคะ

อารมณ์ว่าเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
ไรงี้

น้อ คุณ เฟิร์ส—♀คิต} น้อ

(ออกแนวหาเพื่อน ยังไงไม่รู้)

เห็นด้วยค่ะ แต่จะยินดีมากถ้าได้ฟังการถกเถียงต่อไปถึงแนวคิดแต่ละท่านค่ะ

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ คิดว่าลืมกระทู้ดิฉันไปแล้ว เห็นยังมีคนสนใจ ดีใจจริงๆค่ะ
สวัสดีคุณ RATHA C ค่ะ เชื่อว่าเทวรูปของคุณก็งดงามเช่นกัน

เคยคิดถึงอัปสราวตารนะคะ แต่อย่างที่บอกว่าท่านมีอักษะมาลาและพระเวทในพระหัตถ์ แทบพระบาทก็มีหงส์หมอบอยู่ เลยคิดว่าไม่ใช่

แม้จะยังสรุปไม่ได้ในทางวิชาการ แต่สำหรับใจของผู้บูชา ฟันธงว่าเป็นพระสรัสวดีไปซะแล้วนี่ซิคะ

แต่ยังยินดีฟังความเห็นจากทุกท่านเช่นเดิม ด้วยใจที่ซาบซึ้งและตื้นตัน

ขอพระเป็นเจ้าทรงคุ้มครองค่ะ

กรมราชทัณฑ์ เป็นรูปเทวดาทรงสิงห์
เข้าใจว่าเป็นพระยมนะคะ

แอ๊ รุปไม่ขึ้นอ่ะ

โอ คุณอักษรชนนีมาแล้ว สวัสดีและขอบพระคุณสำหรับข้อมูลค่ะ เครื่องราชฯมิตราภรณืนี้ เราก้ไม่ค่อยได้เห็นอีกเช่นกันนะคะ เพราะเป็นของที่ใช้เฉพาะพระมหากษัตริย์และพระราชทานประมุขของประเทศบางประเทศเท่านั้น

อะไรเช่นนั้นน่ะค่ะ

ยกตัวอย่าง กรมประชาสัมพันธ์ ใช้รูปพระอันทร์บันลือสังข์ สวยมากค่ะ

ดิฉันชื่นชมคุณเสือร้องไห้มานานแล้วค่ะ เห็นผลงานคุณทีไรซาบซึ้งในความศรัทธาที่คุณมีต่อพระผู้เป็นเจ้า
เป็นวิธีการแสดงออกซึ่งศรัทธาที่ดิฉัน (และอีกหลายคน) ไม่สามารถทำตามอย่างได้

ทำได้เพียงชื่นชมและอนุโมทนา

ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองคุณ และประทานแรงใจดุจไฟไม่มอดดับให้คุณ

อย่าหยุดสร้าบงสรรค์ เพื่อศรัทธาของคุณนะคะ

สวัสดีคุณโหราน้อยค่ะ ดิฉันว่าน่าสนุกนะคะ บ้านเราเต็มไปด้วยเครื่องหมายอันเป็ฯมงคลมากมาย ที่ถูกผูกขึ้นด้วยความหมายอันลึกซึ้ง น่าเสียดายที่ความหมายและเรื่องราวเหล่านั้นมีคนสนใจน้อยลงทุกที

ในทางภาษาศาสตร์ พระนามของเหล่าเทพก็ถูกนำมาผูกเป็นราชทินนาม อิศริยยศ บรรดาศักดิ์ มากมาย

ถ้าได้รวบรวมและทำความเข้าใจ

ดิฉันคิดไปเองว่าน่าจะเป็นเรื่องประเทืองปัญญา น่าสนุกดีนะคะ

แต่อาจจะสนุกอยู่คนเดียว
55555555

เราไม่ค่อยได้เห็นเครื่องราชฯตระกูลนี้เท่าไรค่ะ นอกจากในงานเต็มยศของทหาร ที่เห็นประจำทุกปีคืองานสวนสยามถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารมหาดเล็กราชวัลลภ 2 ธันวาคมของทุกปี

เครื่องราชอิสริยาภรณือันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นอัศวิน

นึกขึ้นได้ว่า มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลหนึ่ง ปรากฎรูปพระผู้เป็นเจ้าอยู่ด้วย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์ รามาธิบดี The honourable order of Rama

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2461 เพื่อพระราชทานเป็นบำเหน็จในราชการทหาร แบ่งเป็น 6 ชั้น
ตามลำดับคือ

เหรียญรามมาลา
เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร
อัศวิน
โยธิน
มหาโยธิน
เสนางคบดี  เป็นอันดับสูงที่สุด

ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองมีการงดพระราชทานไปช่วงหนึ่ง จนมีการพระราชทานอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยมีประเพณีว่าผู้ได้รับพระราชทานทั้งเก่าและใหม่ ต้องร่วมในพระราชพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาด้วยค่ะ

เครื่องราชฯ ตระกูลนี้มีตราเป็นรูปพระปรศูรามาวตารปราบพระยาการตวิรยะ ดิฉันเดาว่าสมเด็จฯกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงออกแบบตามพระราชดำริของพระผู้ทรงสถาปนา

ทรงเลือกปรศุรามาวตารเพราะเป็นอวตารปางที่ 6 ตรงกับลำดับรัชกาลของพระองค์ และทรงเห็นว่านารยณ์อวตารลำดับนี้ทรงเก่งกาจแบบทหารหาญ

จึงอยากชวนทุกท่านมาช่วยกันนึกว่า นอกจากรูปครุฑแล้ว มีเครื่องหมายอะไรในศาสนาพรามหณ์อีกบ้างคะ ที่ปรากฎในสยามประเทศ

ขอบพระคุณคุณเสือร้องไห้มากค่ะ อุตส่าห์จำเรื่องที่ดิฉันถามได้ เมื่อมีข้อมูลก็กรุณาบอกต่อ
ขอพระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองนะคะ

ขอบพระคุณทุกท่านจริงๆค่ะ
ดีใจจัง

เอ่อ มีหญิงค่อมในมหาภารตะ ในรามายณะ แล้วมีที่ไหนอีกไหมคะ

มีประติมากรรมของหญิงค่อมเหล่านี้บ้างหรือไม่

แค่อยากรู้ค่ะ

พี่แนท และทุกท่านขา

(ยกมืออายๆ แล้วทำหน้าจ๋อยๆ)

ดิฉันเป้ฯอีกคนที่หลงไหลการคล้องมาลัยที่เทวรูปมาเลยค่ะ ชอบเป็นชีวิตจิตใจ (เฉพาะเทวรูปของตัวเองนะคะ) ของวัดหรือของคนอื่นจะวางไว้ในที่อันสมควรหรือมอบให้ผู้ดูแลไปจัดการ แต่แต่งเทวรูปด้วยผ้า ทำไม่เป็นค่ะ เลยไม่ได้ทำ 555555 ฝีมือแบบหนู

เอ่อ เคยได้ยินเรื่องสารพิษทำลายเนื้อเทวรูปค่ะ แต่เรื่องพลังเนี่ยเพิ่งเคยได้ยินค่ะ น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย

ใช่ค่ะ

โอ หรือคะเนี่ย เข้าใจผิดมาโดยตลอด

นี่เป็นเหตุให้ถามเลยค่ะ เพราะทราบว่านักบวชหญิงนี้มักปรากฎในเรื่องเกี่ยวกับพระศิวะ

ขอบพระคุณคุณกาลิทัสมากเลยนะคะ ที่ชี้ทางสว้างให้

เขาไปทีไร เขาคลุมผ้าไว้ทุกที เลยเข้าใจผิด (มาหลายปี)

ในที่สุดก็ฉลาดกับเขาขึ้นมาบ้าง

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

ประติมากรรมหญิงค่อมที่วางอยู่แทบพระบาทเทวรูปพระกฤษณะ ที่วัดเทพมณเฑียร คือใครคะ

คนเดียวหรือคนละคนกับนักบวชหญืงชื่อ กาไลกาลัมเมยาร์ คะ

ขอบพระคุณค่ะ

อิอิ ขอบพระคุณสำหรับคำตอบค่ะ

แต่อยากเห็นภาพง่า

ที่ทำงานเก่ามีสมุดไทยอย่างว่าเพียบเลยค่ะ แต่แค่อยากเห็นหน้าตาของพระเวท เป็ฯมงคล

ไม่สะเทือนใจเลยค่ะ ครั้งแรกที่เห็นก็คิดว่าอาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้ เพื่อนๆที่ชอบเม้าท์กันก็บอกว่าเป็นนางฟ้าเฉยๆหรือเปล่า

แต่ต่อมาเกิดอยากให้ท่านเป็นพระสรัสวดีตามที่ท่านผู้มอบให้มาตั้งใจไว้ เลยตัดสินใจให้ท่านเป็น'องค์แทน' ของพระสรัสวดีค่ะ

เพราะเห็นว่าท่านถือของที่มีความหมายคล้องกัน
  คือ อักษมาลา และพระเวท ประกอบกับเคยเห็ฯตำราประติมาณวิทยาของ ศ.ชอง บวซเซลิเย อธิบายว่าพระสรัสวดี บางครั้งพบรูปที่ไม่มีวีณาถืออยู่ และมีอย่างน้อยสองรูปที่ทำท่าร่ายรำ ปัจจุบันหนึ่งในสองรูปอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ศ.ท่านนี้ยังให้ความเห็นส่วนตัวว่าวีณาอาจเป็นเครื่องหมายใหม่ล่าสุดของท่านที่เราใช้ไป เมื่อหลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว แต่ในยุคแรก ในฐานะมารดาแห่งพระเวทและความรู้ ประติมากรอาจจะให้ความสำคัญกับพระเวทและอักษมาลา มากกว่า

อย่างไรก็ตามความเห็นนี้อาจจะถูกล้มล้างหรือมีผู้ไม่เห็นด้วย แต่ดิฉันฟังแล้วสนใจมากค่ะ และเห็นตามท่าน อาจเพราะเรามีของอยู่แล้ว เลยเอนเข้ามาทางของเรา

ได้แนวคิดมาจากที่คนไทยชอบเอาเทวรูปโบราณที่ขุดพบไปเป็นรูปเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ไรงี้
เพียงแต่ของเราหมายให้ท่านเป็นสื่อแทนพระสรัสวดี

หวังว่าคงไม่เป็นการมิบังควรนะคะ