Messages

ขอบคุณพี่กาลิทัสค่ะ ที่ได้นำกระทู้เก่า ๆ ออกมาให้ชมกันค่ะ

ต่อ นะคะ อวตารภาคเป็นปลา



และอวตารส่วนของ นรสิงห์ พี่กาลิทัส ก็ได้เคยนำมาให้ชมกันไปแล้วนะคะ กับกระทู้เก่า
ส่วนตรงนี้เป็นอวตารที่ชาวอินเดียมีความเชื่อว่าองค์มหาเทพวิษณุจะอวตารมาอีกครั้งในช่วงใกล้สิ้นกลียุค กัลกยาวตาร Kaki Bhakawan Avatar เป็นบุรุษขี่ม้าขาวถือพระแสงขรรค์มาปราบทุกข์เข็ญและความชั่วร้ายต่าง ๆ


ส่วนอวตารมาในส่วนของพระกฤษณาวตาร นั่นก็เคยได้ชมกันอยู่แล้วนะคะ และส่วนของพระรามอวตาร ก็คงจะเคยเห็นภาพกันอยู่แล้ว และส่วนของปางอวตารมาเป็นพระพุทธเจ้าก็คงเคยเห็นแล้วเช่นกันส่วนของปางวราหะอวตารก็คงได้ชมแล้วจากกระทู้ก่อนๆ




โอม เจ นารายา นะมะฮา
ฝากไว้เท่านี้ค่ะ ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

นำภาพมาให้นะคะ












แถมด้วยภาพ กูรมาวตาร


อวตาร เป็นพราหมณ์เตี้ย

ขอบคุณพี่ชายแสนดี พี่ลองภูมิค่ะ ที่ได้นำภาพสวยๆ ศิลปไทยคุณค่าเหลือประมาณมาให้ชมกันค่ะ

ขอบคุณท่านกษิติค่ะ

ความเชื่อละมั๊งคะคุณกษิติ ตรงนี้คงมีผู้รู้มาเพิ่มเติมอีกน่ะค่ะ รอดูกันดีกว่านะคะ

ขอบคุณค่ะ ที่ได้นำภาพมาแบ่งปันให้ชมกัน

[[HIGHLIGHT=#ffffff]ตำนานแห่งเมล็ดพืชมงคลรุทรักษะ [/HIGHLIGHT]]

รุทรักษะหรือ เมล็ดรุทรากษ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับมะกอกบ้านเรา เป็นเมล็ดพืชมงคลตามความเชื่อของชาวฮินดู ซึ่งต้นรุทรักษะนี้ว่ากันว่าขึ้นเฉพาะบน เทือกเขาหิมาลัยเท่านั้นแต่ในอินโดนีเซียก็มีบ้างเช่นกันนะคะ

คำว่า รุทรักษะ เป็นคำสันสกฤต ‘Rudraksha’ ที่เกิดจากคำสองคำมาต่อกันคือ ‘Rudra’ และ ‘Aksha’

    ‘Rudra’ หรือ พระรุทร เป็นอีกพระนามหนึ่งของพระศิวะ และ ‘aksha’ แปลว่าหยดน้ำตา ตำนานเล่าว่า ต้นรุทรักษะเกิดจากน้ำตาพระศิวะ ตามคัมภีร์โบราณ เช่น ‘Shiva Purana’, ‘Padma Purana’ และ ‘Srimad Bhagavad’ ได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ และอำนาจอันวิเศษของรุทรักษะไว้มาหลายพันปี

[HIGHLIGHT=#ffffff]ตำนานแห่งเมล็ดพืชมงคลรุทรักษะ [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff] ในครั้งหนึ่ง องค์มหาอุมาเทวีเจ้า ได้ ทูลถาม องค์พระสดามหาศิวะเจ้า ถึงความสำคัญของเมล็ดรุทรักษะ ซึ่งองค์พระสดามหาศิวะเจ้า และ เหล่า คณะปติ, คณะบริวาร ขององค์พระสดามหาศิวะเจ้า ได้ใช้ประดับสวมใส่อยู่ และได้รับทราบถึงคำตอบว่า ในครั้งหนึ่งของการทำสมาธิอันยิ่งใหญ่ในการเปิดโลกทัศนะ ญาณขององค์พระสดามหาศิวะเจ้า

     เมื่อองค์พระสดามหาศิวะ ผู้เป็นเจ้าท่านได้ทรงเห็นความทุกข์ ยาก ลำบากใน การดำรงชีวิตของเหล่ามนุษย์บนโลก ด้วยความเวทนา ในชะตากรรม น้ำพระอัสสุชล(น้ำตา) ขององค์พระสดามหาศิวะเจ้า จึงได้หยดลงมาบนพื้นโลก และเมื่อน้ำพระอัสสุชล(น้ำตา) ขององค์พระสดามหาศิวะเจ้าหยดถึงพื้นดินนั้นก็ได้บังเกิดเป็นต้นไม้ขึ้น

    องค์พระสดามหาศิวะเจ้า จึงได้อำนวยพรให้กับต้นไม้ที่กำเนิดนั้นโดยให้ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลและตั้งชื่อให้ว่าต้นรุทรักษะและอำนวยพรให้แก่มนุษย์ที่ได้นำเมล็ดรุทรักษะไป ประดับหรือสวมใส่ด้วยความเคารพ,รักดังนี้

    ผู้ที่สวมใส่รุทรักษะที่ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง จะไม่มีไสยเวทย์ ภูตผี วิญญาณร้าย มารบกวน หรือรังควาญ

    ผู้ที่สวมใส่รุทรักษะที่ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง เมื่อเสียชีวิตลงในขณะที่สวมใส่รุทรักษะจะไม่ต้องได้รับการคร่ากุม หรือจับกุมโดยยมทูต เพื่อไปรับโทษในนรก

   ผู้ที่สวมใส่รุทรักษะที่ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง จะทำให้มีเรื่องเสียใจหรือเศร้าหมองน้อยลงเสียน้ำตาน้อยลงและหากเมล็ดรุทรักษะยิ่งมีขนาดเล็กลงเท่าใด ก็จะยิ่งจะทำให้ เสียน้ำตาน้อยลงเท่านั้น

   ผู้ที่สวมใส่รุทรักษะที่ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง จะสามารถรักษาสุขภาพ ให้ดีและแข็งแรงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรค ที่ ทางการแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุพบ หรือ ผู้ที่เป็น โรคร้ายแรงไม่สามารถรักษาให้หายได้

[HIGHLIGHT=#8064a2]สรรพคุณในการบำบัด และชีวรักษาของรุทรักษา
[/HIGHLIGHT]
   ตามระบบการแพทย์อายุรเวช การสวมใส่รุทรักษะ สามารถส่งผลดีต่อหัวใจ และเส้นประสาท และช่วยคลายเครียด กังวล ซึมเศร้าอาการหัวใจสั่น และขาดสมาธิได้ เชื่อกันด้วย ว่า มันมีผลในการต้านความชรา และมีสรรพคุณทางแม่เหล็กไฟฟ้า และการชักนำพลังงาน เป็นที่พบอีกว่าคนที่มีความดันโลหิตสูงได้ประโยชน์จาก การใช้เมล็ดรุทรักษะ

   ตามความเชื่อของชาวฮินดู จะนิยมเครื่องลางแก้ความร้ายของดวงดาวในชะตามาก [/HIGHLIGHT]

แต่อีกตำนานที่ได้ยินมาเนี่ย รู้สึกว่า

เมล็ดรุทรักษาหากอยู่บนต้นจะไม่มีผู้ใดสามารถเก็บเองได้ จะต้องรอให้ร่วงหล่นลงมาเองเท่านั้นค่ะ

ภาพของเมล็ด รุทรักษา



ก่อนใส่รุทรักษะครั้งแรก ควรปลุกเสกก่อน เพื่อความเป็นมงคลและทำให้รุทรักษะมีพลังให้คุณ ซึ่งส่วนใหญ่ของที่ให้เช่ากันมักจะปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ายังไม่ผ่านพิธี คุณก็สามารถนำไปปลุกเสกตามวัดพราหมณ์ หรือจะปลุกเสกได้ด้วยตนเองก็ได้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ เลือกวันมงคล วันจันทร์เป็นวันของพระศิวะ และเป็นวันที่สามารถจะเลือกได้

ล้างรุทรักษาในนมที่ยังไม่ผ่านการต้ม และน้ำ
ทาน้ำมันจันทน์ ถวายธูปและเทียนหอม
สวดมนต์ โอม นะมะ ศิวะยะ "Om Namah Shivaya" 108 จบ
แล้วสวดมนต์เฉพาะของรุทรักษะแต่ละหน้าอย่างน้อย 9 จบ

บทสดของแต่ละหน้ามีดังนี้เวลาบูชาว่าตามนี้เลย
หนึ่งหน้า โอม นะมะ ศิวะยะ, โอม หรีม นะมะ "Om Namah Shivaya, Om Hreem Namah".
สองหน้า ศรี กอริ ชานการะยะ นะมะ , โอม นะมะ "Shree Gauri Shankaraya Namah", 'Om Namah'.
สามหน้า โอ คลีม นะมะ, โอม นะมะ ศิวะยะ "O Kleem Namah, Om Namah Shivaya".
สี่หน้า โอม ฮะรีม นะมะ "Om Hreem Namah".
ห้าหน้า โอม นะมะ ศิวะยะ, โอม หรีม นะมะ Om Namah Shivaya","Om Hreem Namah".
หกหน้า สวามี การติเกยะ นะมะ โอม หรีม ฮุม นะมะ "Swami Kaartikeya Namah","Om Hreem Hum Namah".
เจ็ดหน้า โอม มหาลักษมี นะมะ, โอม ฮุม นะมะ "Om MahaLaxmi Namah","Om Hum Namah".
แปดหน้า โอม ฮุม นะมะ, โอม คเนศายะ นะมะ "Om Hum Namah, Om Ganeshaya Namah".
เก้าหน้า นาฟ ทุรกายี นะมะ, โอม หรีม ฮุม นะมะ "Nav Durgayi Namah","Om Hreem Hum Namah".
สิบ หน้า ชรี นารายนายะ นะมะ, ชรี วิชนไวย นะมา โอม ฮรีม นะมาหะ "Shree Narayanaaye Namah"," Shree Vishnavai Namah","Om Hreem Namaha".
สิบเอ็ดหน้า โอม ศรี รุทรายะ นะมะ, โอม หรีม ฮุม นะมะ "Om Shree Rudraya Namah","Om Hreem Hum Namah".
สิบสองหน้า ศรี สุเว นะมะ , โอม คราว คโรน ราว นะมะ "Shree Suryay Namah" "Om Krown Kshown Rown Namah".
สิบสามหน้า โอม หรีม นะมะ "Om Hreem Namah".
สิบสี่หน้า โอม นะมะ ศิวะยะ "Om Namah Shivaye".

หลัง ทำเสร็จแล้ว ขณะใส่รุทรักษะให้สวดมนต์ว่า "โอม นะมะ ศิวะยะ" เท่านี้รุทรักษะก็จะศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังคุ้มครองผู้สวมใส่ และให้ผลด้านสุขภาพ ความร่ำรวย และความสำเร็จ ถ้าต้องการเสริมพลังของรุทรักษะที่มีอยู่ ก็ควรสวดมนต์เฉพาะสำหรับรุทรักษะแต่ละหน้า (ตามคาถาข้างบน) โดยสวดซ้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ตามวันเวลาที่เลือก คาถา "โอม นะมะ ศิวะยะ" หรือ "นะมะ ศิวะยะ" เป็นคาถาที่ให้พลังเมล็ดรุทรักษะ เมื่อสวดร่วมไปด้วย เก็บรุทรักษะไว้ใกล้ผิวหนังให้มากที่สุด และไม่ควรให้คนอื่นเห็นหรือสัมผัสรุทรักษะของคุณ อีกที่ที่สามารถเก็บได้คือ เก็บในห้องบูชา และควรสวดมนต์ให้ เพื่อให้ประโยชน์แก่คนทั้งครอบครัว<!-- google_ad_section_end -->

ที่มา  www.palungjit.com / www.Horoscope.com

ถูกผิดอย่างไร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

คุณน้อง พี่ไม่มีปัญหากับผักฉุน ผักเหม็น ผักไม่เหม็นค่ะ  คุณน้องขา

ขอบคุณนะคะน้องnai 3

ไม่อยากบอกเลย ว่า สงสัยเราจะมีเพื่อนคนเดียวกันนะคะ

เท่าที่เคยได้ยินมาจากผู้ใหญ่ท่านพูดให้ฟังนะคะ  ศุกร์ปากหวาน อังคาร รับเอา 

วันที่เป็นคู่มิตรกันของอังคารคือวันศุกร์ค่ะ เช่นเดียวกับ อาทิตย์ คู่มิตรกับ พฤหัสค่ะ

แต่ที่ว่าทำไมให้คนวันอังคารเชิญ และคนวันเสาร์ เป็นผู้รับ

น่าจะเป็นด้วยว่า ทั้งสองวันนี้ ถือเป็นวันแข็ง ในทางโหราศาสตร์ค่ะ

ซึ่งตำราโหราศาสตร์ ก็มีมากมายหลายแขนง หลายทางเหลือเกิน

อาจจะไม่ตรงกันบ้างก็เป็นได้เช่นกันค่ะ


หากผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

แง๊วววว  ตรอกแขกจะอยู่ซอยที่ติดกับ อินเดีย เอ็มโพเรียมค่ะ เดินเข้าไปเลยค่ะ น้องโด่ง แต่แนะนำว่าให้เดินเช็คราคาก่อนก็ดีนะคะ

อย่าว่าตัวเองสิคะ คุณน้อง  ไม่มีใครฉลาดจากในท้องหรอกค่ะ แต่พี่ว่าน้องโด่งเก่งนะ เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับโบราณคดี เยอะดีค่ะ พี่ชอบ

ยังไงก็ลองไปดูนะคะ

อิอิ ท่านโหราน้อย ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้เข้าใจมากขึ้น และสาธุสำหรับสิ่งที่ท่านปฏิบัติเช่นกันค่ะ

(ของแนทถ้าหาไรกินไม่ได้ ก็จะสั่งผัดกระเพราเห็ดกับไข่เจียวค่ะ อิอิ)

ไม่รำคาญหรอกค่ะ น้องโด่ง สังข์รดน้ำ ก็ซื้อจากแถบตรอกแขกเช่นกันค่ะ ราคาที่ซื้อมา 650 ค่ะ ก็เป็นตัวสังข์ปกติอ่ะค่ะ แต่เขาเพ้นท์สีทองลงที่ขอบของสังข์ค่ะ ของพี่แนทวนซ้ายค่ะ เอ แต่ที่พี่แนทซื้อมาก็ไม่ได้เป็น กระเบื้องนะคะน้องโด่ง แต่ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นหมื่นเนี่ยไม่แน่ใจว่าเพราะขนาดกับเรื่องวัสดุตกแต่งเพิ่มเติมหรือเปล่านะคะและอีกส่วนคือวนซ้ายหรือวนขวาด้วยค่ะ แต่มีอยู่ร้านหนึ่งในตรอกแขกที่เห็น ที่บอกราคามา 8200 เนี่ยอ่ะค่ะ ตัวใหญ่มากกก แล้วก็ประดับที่ผิวของสังข์เป็นหินเทอร์ควอยซ์ค่ะ ก็ไม่แปลกใจเลยค่ะ ที่มันแพงขนาดนั้น น้องโด่งลองไปตรอกแขกหรือยังเอ่ย ลองเดินให้ครบทุกร้านดูนะคะ เพื่อจะเจอชิ้นที่ถูกใจค่ะ  ส่วนเรื่องจะขัดสังข์ให้ขาวหรืออย่างไร ขอไม่ตอบเพราะไม่มีความรู้ด้านนั้นค่ะ  คงต้องรอผู้รู้ให้มาตอบค่ะ

โอ้ ท่านโหราน้อย อย่างนี้แนทก็ผิดสิคะหรือเปล่าเอ่ย เพราะว่าละเว้นเนื้อสัตว์แต่ก็ยังทานไข่ ทานนมอยู่ ยังไงรบกวนท่านโหราน้อยแจ้ง

ให้เข้าใจด้วยเถอะค่ะ  สับสนแล้วตอนนี้  เพราะเพื่อน ๆ ทั้งกลุ่ม เป็นมังสวิรัติ กันหมด ไม่ทานเนื้อสัตว์แต่ทานไข่กัน นมก็ทานกันด้วย

จุดประสงค์ที่เราทานแบบนี้กัน เพราะเรามีความรู้สึกกันว่า เราไม่อยากทำร้ายสัตว์กันค่ะ เพียงเท่านั้นเองค่ะ 

[ขออนุญาตเอาภาพมาช่วย ท่านโหราน้อยค่ะ]

ขออนุญาตเอาภาพมาช่วย ท่านโหราน้อยค่ะ 



















ขออนุญาตทุกท่านแถมท้ายส่ง เป็นพระหนุมานนะคะ



ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 

สาธุค่ะ  น้องน็อต เวไนยฯสว่างในพุทธิปัญญานี่เห็นด้วยค่ะ (แต่ท่าจะยาก)

ขอบคุณค่ะ คุณจิ้งจอกพันหน้า อยากไปเหมือนกันค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ

ขอบคุณพี่หริทาสมาก ๆ เลยค่ะร้านที่เช่ามาเป็นร้านที่ขายสังฆภัณฑ์ทั่วไป ๆ ค่ะพี่ แต่พอดีเห็นเรารู้สึกดีจังก็เลยบูชามาค่ะ

ขอบคุณพี่ยีนส์ค่ะ สำหรับความรู้และภาพสวยๆ และขอบคุณพี่เกียร์ค่ะที่ได้ดันกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อให้ได้ศึกษาค่ะ

ขอบคุณคำถามดี ๆ และท่านผู้มีความรู้ที่ได้มาตอบในทราบกันค่ะ
ว่าแต่เอ่อ แล้วพญานาคในตำนานคติของทางฮินดูนี่มีที่มาอย่างไรคะ

อยากทราบจริง ๆ ค่ะ

รบกวนถามพี่หริทาสสักนิดค่ะ คือว่าพระคเณศที่แนทได้เช่ามาบูชาเนี่ย

องค์แรกจะเป็นสีขาวออกงาช้าง เครื่องประดับต่าง ๆ เป็นสีทองมี สองกรค่ะ

เป็นคล้ายปางจะเรียกว่าไงดี ท่านนอนแบบเอน ๆ น่ะค่ะพี่ไม่ได้ถืออาวุธใด

กรหนึ่งประทานพร อีกกรถือขนม  ส่วนองค์เล็กที่ได้บูชามามาทีหลังเนี่ย

จะมีสี่กร กรหนึ่งถือ บ่วง อีกกรถือ วัชร อีกกร ประทานพร อีกกร เป็นขนมค่ะ

กายจะเป็นสีหยกเลยค่ะ แบบนี้ถือว่าผิดเทวลักษณะหรือเปล่าคะ

ขอบคุณพี่หริทาส ที่ได้นำความรู้ มาฝากกันค่ะ 

ความศรัทธาหรือการได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อพระเป็นเจ้าที่เคารพนับถือนั้น

โดยทีตัวเองไม่ได้เดือดร้อน ก็ไม่น่าห้าม คนเราทุกคนมีสติ สามารถคิดได้ระลึกได้นะคะ

อย่ามองว่าคนอื่นมีศรัทธา แต่ไร้ปัญญานะคะ

หา น้องเอก แล้วใครจะดูรถล่ะเนี่ย อิอิ

คุณ ตรีศังกุ บางครั้ง อย่างบัณเฑาะที่ดิฉันซื้อมาไม่ได้ซื้อมาใช้เองนะคะ

ซื้อมาเพื่อถวายองค์มหาเทพศิวะ ดิฉันเข้าใจว่าคุณหวังดี ต้องการให้รู้ว่าอันไหนควร อันไหนไม่ควร

แต่ก็น่าจะดูก่อนว่าที่คิดซื้อมาเพื่ออะไร

ขอบคุณท่าน Monster_Ice ค่ะ

ขอบคุณน้องโด่งค่ะ ที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ

[บุษบก]

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
	บุษบก บุษบก ความหมาย [บุดสะบก] น. มณฑปขนาดเล็กแต่ด้านข้างโปร่ง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธี หรือประดิษฐานปูชนียวัตถุเช่นพระพุทธรูปเป็นต้น.

<A href="http://<A">

	<A href="<A"> พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร

[/td][/tr][/table][/td][/tr][/table]

บุษบก คำแปล [บุด-สะ-บก] น. เรือนขนาดเล็ก มียอด เคลื่อนที่ได้.

[/table]

เทวาลัย

เทวาลัย, เทวาวาส ความหมาย ดู เทว- ๑. เทวาลัย, เทวาวาส ความหมาย น. ที่ซึ่งสมมุติว่าเป็นที่อยู่ของเทวดา. (ส.).

มณฑป

มณฑป ความหมาย [มนดบ] น. เรือนยอดขนาดใหญ่มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือเป็นรูปตัด มุม หรือย่อไม้แปด ย่อไม้สิบสอง ยอดหลังคาเป็นทรงจอมแห, ใช้ว่า มรฑป ก็มี.

เทวสถาน
คำแปล

[n.] shrine
ตัวอย่างประโยค

วัดนี้เป็นวัดโบราณเดิมเป็นเทวสถานสมัยขอมซึ่งยังปรากฏหลักฐานปรางค์ขอมก่อด้วยศิลาแลงที่ลวดลายงดงาม
หมายเหตุ

สถานที่ซึ่งถือว่าเป็นที่ประทับหรือสิงสถิตของเทพเจ้าหรือเทวดา, ที่ประดิษฐานเทวรูป

พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร

เทวสถาน คำแปล น. ที่อยู่ของเทวดา, ที่ประดิษฐานเทวรูป เช่น โบสถ์พราหมณ์. ลักษณนาม หลัง; แห่ง

เอาเป็นว่า มาจากสนุกดอทคอมค่ะ  ลองพิจารณาดูดี ๆ นะคะ  เอามาช่วยท่านโหราน้อยค่ะ[/table]

สังข์ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 500 จนถึงราคาหลายพันบาท บัณเฑาะ เริ่มตั้งแต่ 300 ไปจนถึง พันกว่าบาทค่ะ

สถานที่ซื้อ ตรอกแขก พาหุรัดค่ะ พยายามเดินหลาย ๆ ร้านก่อนนะคะ ก่อนจะตัดสินใจ

ส่วนศิวลึงค์ก็ตามที่ท่านโหราน้อยแจ้งค่ะ แต่ที่เคยได้มาจะมาจากพาหุรัดค่ะ

อ่าค่ะ คุณน้องโด่ง 

ง่ะ คุณน้องโด่งขา พี่แนทมิได้ให้หมายความเช่นนั้นค่ะ คุณน้อง ก็พี่ไม่รู้จาหาที่ไหนนี่คะ เพราะเท่าที่พี่เคยไป ไม่เคยเจอนี่นา

อย่าว่ากันเลยนะคะ  (ทำหน้าจ๋อยๆๆ เล็กน้อย)

เสียดายเทวรูปที่ถูกขโมยไป รวมไปถึงเศียรพระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปเช่นกัน เห็นแก่ตัวซะจนหูตามืดบอด

ไม่รู้ถึง บาป บุญ คุณ โทษ  จับได้น่าจะลงโทษให้หนัก แต่ว่าก็ว่านะคะ โทษทางกาย บางครั้งคนบางคนก็

สำนึกไม่ได้ แต่หากได้รับบทเรียนที่กระทบกระเทือนใจสักครั้ง หรือไม่ก็เกี่ยวกับชีวิตหรือครอบครัวตัวเอง

บางทีอาจจะสำนึกขึ้นได้บ้าง ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปแล้วนั้น มันเลวร้ายแค่ไหน  เห้อ  เศร้า

++++ความเห็นส่วนตัวค่ะ+++

เหวอ  หายากนะคะนี่น้องโด่ง ไม่ลองหาไฟล์ภาพแล้วเอาให้ร้านอัดรูปทำให้เสร็จก็ใส่กรอบเลยดูเหรอคะ ไม่เคยเจอจากร้านอินเดียสักกะที่เลย

นำภาพของพระแม่มาเพิ่มเติมให้ชมกันค่ะ

พระแม่ ซันโตชิ บุตรีแห่งมหาเทวา พิฆเณศ

โอม เจ เจ ซันโตชิมา


พระแม่ซันโตชิ หรือ ซันโตซี่ มีเทวลักษณะไม่เด่นชัดเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับเทพองค์อื่น ๆ แต่สิ่ง
ที่แตกต่างในรูปสักการะของพระแม่ที่ทำให้เห็นได้เด่นชัดนั้นจะประกอบไปด้วย รูปองค์เจ้าแม่ มี 4
พระกร พระหัตถ์ซ้าย ทรง อาวุธดาบ และอีกพระหัตถ์อยู่ในท่าประทานพร ส่วนพระหัตถ์ขวาจะทรงอาวุธ ตรี และทรงถือถาดข้าวอยู่ในพระหัตถ์ซ้ายอีกด้วย และจะมีสาวกสองท่านคือ บียู (ชาย) และ สัตวตี (หญิง) ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้พระนามเป็นที่บูชา ในรูปของพระองค์ส่วนใหญ่ที่พบเห็นจะเป็นการบูชาและการทำทาน ซึ่งจะเล่าในความเป็นมาดังนี้เดิมทีนั้น พระพิณเณศนั้นไม่มีบุตรีเลย แต่ในพิธีผูก รัคชิต (คล้ายพิธีผูกข้อมือ มงคล ที่ต้องผูกด้วยน้องสาวเท่านั้น) นั้น กุมารทั้งสองของพระองค์ไม่มีน้องสาวจึงได้ทูลขอน้องสาวจากพระองค์ แต่พระองค์คเณศทำท่าว่าจะไม่ให้ พระมหามุนีฤษีเทพ นารัทมุนี จึงบอกกับพระองค์ในทำนองต่อว่าพระองค์ พระคเณศจึงได้ทรงดึงดวงจิตของพระชายาทั้งสองของพระองค์ออกมาแล้วบันดาลให้เกิดเป็นเด็กสาวที่น่ารัก นามว่า ซันโตชิ เป็นผู้ดูแลแม่น้ำซันโตชิให้ไหลรินอยู่เสมอไป  แต่เรื่องที่เป็นการที่ทำให้พระแม่ทรงมีชื่อเสียงขึ้นมานั้น คือเรื่องของ สัตวตี สาวกผู้บูชาพระแม่เหนือผู้ใด เรื่องคือสัตวตีนั้นนางเป็นลูกกำพร้า แม่อยู่กับพ่อมานานแล้ว แต่วันหนึ่งได้มีชายรูปงามนามว่า บียู ได้เดินทางมาที่หมู่บ้าน ซอระปุณ เพื่อร้องเพลง
สรรเสริญพระแม่ซันโตชิ  สัตวตีเมื่อได้พบกับเขาก็ตกหลุมรัก บียูทันที เมื่อกาลเวลาผ่านไปไม่นานนัก สัตวตีก็ได้พบกับเขาอีกครั้งในงานบูชาพระแม่ซันโตชิ สัตวตีนั้นได้รับการช่วยเหลือจากเขาให้พ้นจากมือคนชั่วผู้มีนามว่า ปาเก ที่หมายจะย่ำยีนางจนได้รับบาดเจ็บ นางจึงได้พาบียู ไปรักษาตัวที่บ้าน ทำให้บียู ได้รู้จักกับบิดาของนางและทราบว่าเขานั้นอยู่ที่หมู่บ้าน ณีปุณ กับพี่ชาย 6 คนพี่สะใภ้หกคนซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันไม่นานนัก พ่อของสัตวตีก็ได้ไปสู่ขอ บียู ให้กับสัตวตี (ธรรมเนียมอินเดีย ผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายสู่ขอผู้ชาย และให้สินสอดทองหมั้นตามแต่ฝ่ายชายจะเรียกร้อง) แต่พี่สะใภ้ของ บียู ไม่ชอบ บียูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องด้วยบียูเป็นน้องคนสุดท้องจึงไม่ต้องแบกรับภาระอะไรมากมายนักจึงหาทางกลั่นแกล้งในงานแต่งงานของนาง วันหนึ่งขณะที่พระแม่เจ้าทั้งสาม คือ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวตี ได้รับการแจ้งจากมหามุนีฤษีเทพนารัทมุนีว่าจะมีเทวีอีกองค์ที่จะเทียบเท่าเหล่าพระนาง และมหาเทพทั้งสามองค์ยังได้ลงไปขอบริจาคทานจากบ้านของ สัตวตี ทำให้พระนางทั้งสามนั้นโมโหโกรธาเหลือกำลัง จึงได้เข้าไปหาสัตวตีในความฝัน เพื่อบอกให้เธอนั้นเลิกบูชาพระแม่ ซันโตชิ แล้วมาบูชาทั้งสามองค์แทน แต่ด้วยเหตุที่ว่า สัตวตีไม่ยอมจะเปลี่ยนใจ พระนางทั้งสามจึงได้กลั่นแกล้งให้ บียู มีเหตุอันต้องถูกไล่ออกจากบ้านไปเพราะพี่สะใภ้และพี่ชายอีกห้าคนได้ดูถูกดูหมิ่นเขาว่าเกาะพี่ ๆ กินเขาเลยออกจากบ้านไปผจญชะตากรรมและมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความดีที่เขาได้ร้องเพลงสรรเสริญบูชาพระแม่เสมอทำให้พระแม่
คอยดูแลเขาตลอดเวลา เขาได้ช่วยชีวิตของเศรษฐีผู้หนึ่งไว้และได้ไปทำงานอยู่กับเศรษฐี แต่ก็ได้โดนมนตราของพระแม่ทั้งสามทำให้เขาหลงรักลูกสาวของเศรษฐี สัตวตี เองก็รอคอยการกลับมาของบียู อยู่เป็นนานแต่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะกลับมาทั้งยังถูกพี่สะใภ้ทรมานต่าง ๆ นานาจนกระทั่งนางคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่พระมหามุนีฤษีเทพนารัทมุนี ได้เข้ามาห้ามไว้และแนะนำให้นางถือบวช ทุกวันศุกร์จนครบ 16 ครั้งแล้วสามีจะกลับมา แต่ในวันสุดท้ายนั้น นางไม่มีอาหารหรือสิ่งใดเลยที่จะไปบูชาพระแม่ได้ นางเลยร้องไห้หาพระแม่ พระแม่ซันโตชิก็ได้เดินทางมาช่วยเหลือนางในการบูชา
โดยมอบอาหาร และนำทางฝ่าอุปสรรคที่พระแม่เจ้าทั้งสามได้สร้างขึ้นเพื่อขัดขวางนางในการบูชา และเมื่อนางได้บูชาพระแม่ได้ดังใจหมายแล้วบียูจึงได้พ้นจากมนต์แห่งพระแม่ทั้งสาม และเดินทางกลับมาด้วยสมบัติมากมายแต่ต้องพบกับสภาพของสัตวตีที่เหมือนกับขอทานก็ไม่ปานเขาจึงได้
ออกจากบ้านไปและไปสร้างที่อยู่ใหม่และได้จัดงานบูชาพระแม่ซันโตชิขึ้น แต่ในงานนั้นพี่สะใภ้ก็ได้ใส่ยาลงไปในอาหารทำให้พระแม่ต้องมาแสดงปาฏิหารย์เพื่อช่วยเหลือสัตวตี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้จึงได้ทำให้พระแม่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

ถาดบูชาของพระแม่

น้ำตาลปึก ดอกไม้หลากสี  ขนมกุลจันนา

นมสด เครื่องหอม และตะเกียงน้ำมันเนยจุดไฟ

ผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล



ที่มา ตำนานมหาเทพ  (ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)

น้องโด่งจ๊ะ พี่แนทเห็นด้วยกับคุณNagaนะคะคุณน้อง เทวลักษณะ พี่ว่าสำคัญที่สุด
ยังไงใช้ใจของเราเลือกแน่นอนที่สุดค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ได้ในสิ่งที่สมประสงค์  เราศรัทธาเราจึงอยากจะสร้างสิ่งที่ดีที่สุด ขอให้ตั้งใจนะคะ คนไม่ศรัทธาคนไม่เชื่อถือ
คงไม่มีวันเข้าใจ ได้แต่ศึกษา ว่าเช่นนั้น อย่างนี้ เพราะตัวเองไม่เชื่อ ก็เลยมองศรัทธาของคนอื่นว่างมงาย อย่าหวั่นไหวนะคะ แล้วพระแม่
ท่านจะช่วยคุณค่ะ  อย่าลืมอธิษฐานขอการนำทางจากท่านนะคะ  รอชมความสำเร็จของคุณค่ะ 

ขอบคุณคุณป้า และคุณ Neosiris ค่ะ

ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ท่านโหราน้อย เนื่องจากว่า แนท ตอนนี้ ไม่ทานเนื้อสัตว์อ่ะค่ะ จะทานก็แค่ไข่ แล้วก็ข้าวและ ผักอ่ะค่ะ

ก็ไม่ได้เป็นมังสวิรัติที่เคร่งครัดค่ะ ยอมรับ  เพียงแต่ว่า ขอละเนื้อสัตว์ค่ะ อ่านบทความนี้กะเลยรู้สึกผิดนิด ๆ น่ะค่ะ

ส่วนถ้าจะให้ทานเจเลยคงจะหา ทานยากมากเลยค่ะ ในแถบที่อยู่ปัจจุบัน หาร้านเจ ไม่มีเลย ลำบากค่ะ

เลยทำเท่าที่จะทำได้นะค่ะ