Messages

ผมเชื่อที่บอกว่าพระเจ้าในใจมนุษย์มีองค์เดียวพระคริสต์ พระพุทธเจ้า พระศิวะ คือองค์เดียวกัน(แต่ในแนวปรัชญามากกว่านะครับ) ความเป็นจริงพระแม่อุมาคือพระแม่กวนอิม มันคนละเรื่องเลย ความจริงไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก(ใครที่บอกว่ารู้คือคนหลงนิมิต เพี้ยนไปกินยาระงับได้แล้ว) แล้วเราก้ไม่เห็นต้องไปสนใจที่จะรู้เรื่องแบบนี้เลย นี่เราจะนับถืออะไรกันแน่ครับ เทพเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโพธิสัตย์ หรือเราจะนับถือ จูเรนเจอร์ดีแปลงได้หลายร่าง เงิบบบบบบบบบบบบบบ

ขอบพระคุณทุกท่านที่มอบความกระจ่างให้ครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1132.0  <<< สืบเนื่องจากบอร์ดนี้หรือเปล่าครับ

วันนี้ ที่ 13 ส.ค.ผมได้นำขนมโมทกะซึ่งทำเองทุกทีจะนำไปถวายที่วัดเทพมณเฑียรเชียงใหม่เป็นประจำ วันนี้ได้มีโอกาสนำไปถวายที่วัดเทพมณเฑียรอุมาเทวีที่จังหวัดเชียงราย ปรากฏว่าพราหมณ์ไม่รับของเนื่องจากโมทกะที่ผมทำเป็นสีขาว พราหมณ์บอกจะรับแต่สีเหลืองเท่านั้นให้ไปซื้อกับเพื่อนแกที่เป็นคนอินเดียสีจะถูกต้อง เอ๊ะ ยังไง รบกวนผู้รู้ช่วยตอบคำถามหน่อยครับเพราะผมทำขายเป็นกิจการเล็กๆที่เชียงราย มา 2 ปีแล้วเพิ่งเคยเจอเคสแบบนี้ เป็นพราหมณ์จากสมาคมฮินดูสมาชด้วย อยากรู้ว่าโมทกะของผมทำเข้าใจผิดสีมา 2 ปีแล้วหรือเปล่าจะได้นำมาแก้ไข พราหมณ์เลือกรับของแบบนี้ผมเสียความรู้สึกมาก ถ้าผมเข้าใจผิดจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปครับ  ไม่ได้ตั้งใจแสดงเนื้อหาโฆษณาขนมนะครับเพราะผมไม่ได้ทำเป็นกิจการใหญ่ๆแต่อย่างใด แต่เกิดข้อสงสัยในจุดนี้จริงๆ

เข้านิโรธสมาบัติ หรือนิโรธกรรม หลักการจริงๆเป็นของนักบวชโยคีฮินดูของนิกายสางขยะ ไม่ใช่หลักการของพุทธ แต่พระสงฆ์ทางเหนือจะเข้าบ่อยให้เกิดสมาธิฝึกจิตประมาณนี้นะครับ รอผู้รู้อีกทีละกันนะ

สำหรับผมเองนะเมื่อก่อนเคยทำบ่อยๆตอนออกบวช(บวชเป็นสมณะไม่ใช่พระสงฆ์)คือเข้านิโรธกรรม ปิดวาจา ไม่ทานอาหาร สวดมนต์ นั่งสมาธิ ควบคุมสติทุกกริยา นั่งนอน ทานอาหาร วันที่ออกนิโรธก็มอบบุญกุศลนี้ที่ได้ทำมอบให้พระคเณศ และพระศิวะ นิโรธกรรมจะเข้ากัน 3-5-7 วัน ไม่แน่ใจว่าแบบเดียวกันไหม นั่งรอผู็รู้มาตอบละกันนะครับ 

เวลานับประคำต้องถือประคำให้สูงและใกล้หัวใจ ทำความสะอาดทั้งภายนอก(กาย)และภายในก่อนจะจับลูกประคำ(จิตใจ) การสวดก็จับนับวนไปเรื่อยถ้าสวดเกิน 108 จบ.....ห้าม นับข้ามยอดพระเมรุของลูกประคำให้วนกลับทางเดิม บางคนก็มีความเชื่อเรื่องการหันทิศทางในการสวดเช่นหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทิศเหนือ
การสวดมนต์ถือว่าเป็นการปฏิบัติสมาธิแบบโยคีคือมุ่งเน้นเรื่องสมาธิเป็นหลักตามแบบ สมถะกรรมฐานของพระพุทธศาสนา ทีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยได้เรียนรู้กับอาจารย์ อาฬารดาบส อุทกดาบส รู้สึกอาจารย์สองท่านนี้จะเป็นโยคีนิกายสางขยะ ( พระนามและนิกายหากพลาดเขียนผิดไปขออภัยด้วยนะครับ )
ดังนั้น การสวดมนต์หากจะจับที่เสียงสวด เสียงสวดต้องกังวานขึ้นศรีษะเราขึ้นไป และใช้สติจับที่เสียงและตัวหนังสือ หากจะใช้การจับสติไปที่เทวรูปก็ไม่ผิด จะใช้สติจับที่ลูกประคำก็ได้ แต่ในการปฏิบัติ 1 ครั้งให้เลือกใช้สติจับที่ใดที่หนึ่งเท่านั้นอย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สมาธิมันจะฟุ้ง ถ้าเกิดเบื่ออาจจะหยุดสวดและใช้สติคิดวิปัสนากรรมฐานเข้าช่วยคือคิดถึงอนิจจังความไม่เที่ยงความเบื่อไม่เที่ยงมาแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ดับไปแบบนี้เป็นอุบายก็ได้ แต่หลักของสมถะกรรมฐานส่วนมากจะไม่ใช้วิปัสนาเลย คือ จะสวด จะใช้สติจับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบ อดทน ไปเลยจะใช้การฝืนเป็นหลัก ก็เลือกเอาแล้วแต่น้องจะทำแบบไหนให้ถูกจริตตัวเอง การสวดมนต์คือการฝึกสมาธิได้สมาธิบุญก็ได้แล้ว

เทวรูปที่แตกหักเสียหายทำให้ชีวิตไม่ดีงั้นผมคงตายไปนานแล้วครับเพราะเทวรูปพระคเณศองค์แรกผมได้มาจากวัดดอนจั่นเชียงใหม่เป็นเทวรูปที่เขานำมาทิ้งที่หน้าวัดพอดีวันนั้นพระท่านทำความสะอาดพระท่านบอกว่าชอบองค์ไหนก็นำไปบูชาได้เลยผมเลยอุ้มมา องค์ที่สองได้มาจากตำรวจเขาไปทอดแหที่ดอยสะเก็ดแล้วติดแหขึ้นมา เทวรูปพระศิวะของผมมีเด็กเกเรไปเอามาจากบ้านร้างตรีศุลหักสกปรกไปหมดเด็กมันเอามาขาย พระศิวะปูนและรูปปั้นวัวอีกองค์ได้จากมีคนปั้นทิ้งไว้ที่สวนลำไยเพราะร้านเค้าเจ๊งเลยพระศิวะงูคอหัก วัวเขาหักข้างขวา ทุกวันนี้เทวรูปที่ผมบูชาไม่เคยได้ซื้อและไม่มีองค์ไหนไม่ชำรุดเลย สำหรับผมนะครับเทวรูปคือสิ่งที่นำมาเป็นตัวแทนเพื่อระลึกถึงมหาเทพหรือสิ่งที่เราบูชาแต่สิ่งที่ สำคัญมากกว่าเทวรูปนั้นคือหลักคำสอนต่างๆคนบอกนับถือพระสมณโคดม พระศิวะ พระนารายณ์ แต่ไม่เคยเรียนรู้คำสอนเลย ผมชาวพุทธ หนูชาวพุทธพูดไปแต่ยังไม่รู้เลยว่ามรรคมีองค์8คือไร อริยสัจ4 คือไร ไหว้ขอนู้นขอนี่ที่เต็มไปด้วยกิเลส กามารมณ์ ของตัวเองพอเทวรูปเสียหายก็เกิดตกใจ ตื่นตระหนกขาดสติเพราะใจตัวเองไปยึดติดกับรูปกายกิเลสที่จับต้องได้ ในพิพิธภัณฑ์เราจะเห็นเทวรูปเก่าๆพระกรหัก บางองค์เหลือแต่เศียรเค้าก็ยังเก็บไว้เป็นสมบัติล้ำค่าให้คนกราบไหว้ บางคนมาถามผมว่าเทวรูปแตกหักทำไงนำไปทิ้งที่ไหนตามความเชื่อของผมเองก็แนะนำไปว่านำไปฝากให้พระแม่คงคาหรือฝากพระอัคคี นำท่านกลับไปสู่สรรค์ดีกว่า ดีกว่าจะเอาไปวางไว้ที่ต้นไม้เพื่อไร คิดยังไงนำไปวางที่ต้นไม้คิดว่าจะเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้หรือไง 555+  ถึงจะรวยล้นฟ้ามีเทวรูปประดับประดาด้วยเพชรราคาเป็นล้าน หรือจะจนแสนจนมีแต่ก้อนหินที่สมมุติเป็นองค์มหาเทพ ก็ไม่สามารถวัดค่าความเชื่อ ความศรัทธา การปฎิบัติและการเข้าถึงของแต่ละคนได้

เคยเห็นที่อินเดียเค้าลอยกะลาที่อารตี เวลาบูชาพระแม่คงคา คนไทยลอยกระทง รอผู้รู้มาตอบที

น่าทานมากครับ ระวังเรื่องทองคำเปลวหน่อยนะครับ ทองคำเปลวบางคนบอกถ้าแท้สามารถกินได้ ถ้าเป้นทองเค อันตรายจากที่ผมเคยถามผู้รู้มาทองเปลวแท้กินได้แต่ก็มีสารโลหะหนัก ทำให้เกิดอันตรายได้เมื่อรับประทานปริมาณมาก ทองคำเปลวที่ดีที่สุดคือทองคำเปลวที่ผลิตมาเพื่อรับประทานโดยเฉพาะราคาสูงไปนิดแต่ปลอดภัย ไม่มีโลหะหนักจากน้ำยากัดทอง ครับ แจ๋วเลย

ขอบพระคุณมากๆครับบบบบบ

ที่ผมใช้คือน้ำตาลอ้อยนะครับหาซื้อได้ห้างทั่วไปเป็นสีน้ำตาลเขียนข้างถุงว่าน้ำตาลอ้อยมีหลายยี่ห้อ ไม่รู้ว่าใช่อันเดียวกับน้ำตาลทรายแดงป่าวนะแต่มันจะละเอียดกว่าน้ำตาลทรายแดง

คนละอย่างกันครับ โมทกะ(modaka)เป็นขนมนึ่งใส่ไส้ ลาดู(ladu)เป็นขนมปั้นจากแป้งถั่ว

ผมซ่อมประจำแบบง่ายๆเลยครับใช้ ปูนปาสเตอร์ ใน ร้าน b2s ราคาถุงละ 19 บาทผสมน้ำนิดหน่อยใส่กาวลาเท็กนิดนึง ปั้นแล้วรีบอุดนี่ก็แล้วแต่ฝีมือนะครับรอสักครู่จะแข็งเป๊กพ่นสีใหม่ หรือซื้อสีอะครีลิค ผมซื้อที่ b2s กล่อง12สี130บาท(ใช้ได้หลายครั้งคุ้มๆ) เสร็จแล้วถ้าอยากให้เงามากๆก็พ่นแล๊คเกอร์ครับ แบบนี้จะง่ายๆ

28 มกราคม วันวสันต์ปัญจมี วันแห่งการจุดประกายทางปัญญา วันบูชาพระแม่ สรัสวตี แน่นอนครับ

เยี่ยมเลยครับ ขออนุโมทนาบุญกับคุณภาสกร และขอแสดงความยินดีกับคุณชัยเดชด้วยครับ

น่าจะเป็นพระแม่มารีอัมมันครับ เพราะดูแล้วใกล้เคียงมากที่สุด สำหรับผมคิดว่าคล้ายพระแม่มารีอัมมัน มากที่สุด ^^

เจ๋งครับ

ภาพของคุณ มหาศักติ ไม่ใช่พระพรหม นะครับท่านนี้คือ พระวิษนุกรรม ครับ

ไม่ทราบว่าบูชาจากที่ใหน ราคาเท่าไรครับ

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทาง ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็น เพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลก ดิน ฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ
ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่อยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราช โพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา (พระพุทธเจ้าทรงประกาศไว้ว่าพุทธศาสานามีอายุ 5,000ปี)

ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล

1.ถ้าหากละวางไม่ได้ จะเกิดอาการ ?ตายก่อนตาย? (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆ หรือการตายทั้งเป็น)
2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวก เกิดความอิ่มเอิบ
4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้
1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม



ประมาณนี้ป่าวครับแต่ในหนังสือมันยาวมากเลย

ผมว่าไม่ควรวางซ้อนกันเพราะจะแสดงถึงความไม่ปราณีต นะครับ

คำทำนายกึ่งพุทธกาลใช่มั๊ยครับ

การที่เราเว้นการสวดมนต์ไปก็ใช่ว่าเราจะเป็นคนไม่ดีนะครับมหาเทพ หรือพระพุทธเจ้าก็ยังคงปกป้องคุ้มครองคนดีที่ศรัทธาท่านอยู่เสมอ คุณน้องต้องปล่อยวางบ้างอารมณ์คนเราเป็นสิ่งไม่ยั่ง การละอายต่อบาป ละอายน้อยไปก็ทำแต่บาป ละอายมากไปก็เป็นทุกข์ ปล่่อยวางอารมณ์ให้เบา เบา ไว้บ้าง

ผมว่าน่าจะอันเดียวกันครับผมเคยฟังมาจากคนเล่นพระมากลุ่มหนึ่งที่เค้าเล่น ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ กันเค้าบอกว่า ปลัดขิกกับศิวลึงค์ เหมือนกันแต่ปลัดขิกเข้ามาตามหราหม์ของทาาง ขอม  ยังไงรอคนมาอธิบายอีกทีนะครับ

ผมว่าเอาการศรัทธาเป็นตัวตั้งจะดีกว่านะครับ การนับถือศาสนาพุทธพระศาสดาก็คือพระพุทธเจ้า ผมนับถือพุทธและฮินดู ศาสนาฮินดูผมก็นับถือพระศิวะดังนั้นหิ้งเทพของผมก็มีแต่พระศาสดาของผม แต่บางคนนับถือกุมารมากกว่าก็คงไม่ว่ากัน เมื่อก่อนผมนับถือพระศิวะแต่ไม่เคยมีเทวรูป พอดีมีเด็กติดยาไปเอามาจากบ้านร้างมาถามขายเห็นท่านสกปรกมากก็เลยบูชาไว้ อีกองค์ใหญ่กับวัวก็มีร้านปูนปั้นทิ้งไว้รกมากเลยไปถามบูชา พระพิฆเนศแม่ไปทำธุรกิจเค้าก็ให้มา ที่ตัวเองูชามาเองมีแต่พระศิวะ นาฏ ราช เท่านั้นคือมีองค์โลหะองค์เดียว  ดังนั้น เราควรบูชาสิ่งที่เรา นับถือ ศรัทธา จิงๆไม่ใช่มีอะไรก็เอาขึ้นหิ้งแต่ดูแลไม่ทั่วถึงผมเห็นบ่อยมากที่ชอบมาโชว์ว่าบ้านบูชาเยอะมีทุกอย่าง แต่ไม่รู้พระนามสักองค์ หิ้งมีแต่ฝุ่นจับ อย่างนั้นไม่สมควรเลยครับ ส่วนตัวผม ถ้ามีกุมารแล้วที่จำกัดจะตั้งไว้ให้ต่ำกว่าองค์มหาเทพนะครับ แต่ก็แล้วแต่ความศรัทธาของแต่ละบุคคลครับ
Thanks: เกมส์ทําอาหารเกมส์ต่อสู้เกมส์ปลูกผักเกมส์มันๆของขวัญ

ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ รู้สึกองค์กลางจะเป็นพระ อิศาน รึป่าวครับ 1 ในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 8 ทิศมีรูปลักษณ์เหมือนพระศิวะ รอคนมาอธิบายอยู่ครับเพราะว่าไม่รู้หนังสือเขียนถูกใหม แต่รูปในหนังสือคล้ายแบบนี้เลยครับ

พอกตัว
สวดมนต์ บางทีก็เอาพอกองค์พระศิวะองค์ใหญ่ที่บ้านอะครับ