Loader

เทวสถานของพระสุรัสวดี

Started by atm, December 18, 2009, 19:58:51

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

อยากได้รูปเทวสถานของพระสุรัสวดีครับ ไครมีก็เอามาให้ดูด้วยนะรับ

เทวาลัยของพระสรัสวดีแห่งนี้  ตั้งอยู่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตครับ  ทางศูนย์ประชุม ฯ สร้างถวาย  เพราะทรงเป็นเทพผู้อุปถัมภ์โดยตรงกับกิจการดังกล่าว   หากมีโอกาสก็แวะไปสักการะพระองค์ก็ได้นะครับ  เพียงแต่อาจต้องเตรียมของบูชาไปเอง  เพราะผมไม่แน่ใจว่ามีคนขายของสำหรับบูชาแถวนั้นหรือเปล่า ( แต่ผม คิดว่าไม่น่าจะมี )  .....

ไม่ทราบว่าเทวสถานของพระแม่อยู่ตรงไหนของศูนย์ประชุมหรอครับ
ไปมาหลายครั้งไม่เคยทราบเลยครับ
ตาถั่วจิง ๆ เลยเรา

อธิบายไม่ถูกอ่ะครับ  - - ' ....เอาเป็นว่า  คุณเจ้าของกระทู้  ลองถามเจ้าหน้าที่  หรือคุณ รปภ. ของศูนย์ประชุมดูก็ได้ครับ



รูป : บริเวณเทวาลัยพระสรัสวดี  ในศูนย์ประชุมฯ

เสริมจากคุณ naga นิดนึงครับ สำหรับเทวาลัยแห่งนี้ครับ

เมื่อตอนที่การก่อสร้างศุนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ใกล้จะแล้วเสร็จ
กระทรวงการคลังประสงค์จะสร้างเทพารักษ์ประจำสถานที่
เพื่อเป็นขวัญและมงคลแก่โครงการตามความนิยมแบบพราหมณ์ จักได้ครบถ้วนสมบูรณ์สมกับเป็นสถาปัตยกรรมสถานแห่งรัชกาลที่ 9 จึงมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบไปเรียนปรึกษาท่านพระครูวามเทพมุนี แห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์

ท่านพระครูได้กรุณามาสำรวจสถานที่ และเห็นชอบว่าทำเลที่ตั้งริมบึงด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่เหมาะสม
แต่การสร้างเพียงศาลเทพารักษ์นั้น เห็นจะต่ำศักดิ์เกินสมควร
ด้วยศูนย์การประชุมฯ เป็นสถานที่สูงศักดิ์ ได้รับพระราชทานพระนาม และสมเด็จพระเทพพระรัตนฯยังเป็นองค์ประธานทรงประจุหินพระฤกษ์

ท่านแนะนำให้สร้างอาคารที่สูงค่ายิ่งขึ้น และได้พิจารณาอย่างแยบคายด้วยว่า อาศัยกิจกรรมอันจักบังเกิดในสถานที่แห่งนี้ภายใต้พระนามอันเป็นมหามงคล
เทพผู้คุ้มครองสมควรเป็นเทวี ทรงพระนามสรัสวดี (สราสวาตี) พระชายาแห่งพรหมเทพ และเป็น วาจเทวี (vajadevi) เทวีแห่งวาจาและการสื่อสารทั้งมวล รวมทั้งเป็นมารดาแห่งสติปัญญาแก่มวลมนุษย์

กระทรวงการคลังมีมติอนุมัติตามคำแนะนำของท่านพระครู และกราบเรียนเชิญท่านเป็นที่ปรึกษา พร้อมทั้งมอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาดำเนินการออกแบบ จัดหาศิลปินผู้สร้าง และผู้รับเหมา
ท่านพระครูได้กรุณาวางฤกษ์สำคัญให้กับการจัดสร้าง 4 ฤกษ์ คือฤกษ์ที่หนึ่งเมื่อวางศิลาหลัก ฤกษ์ที่สองเมื่อเททอง ฤกษ์ที่สามเมื่อเชิญรูปเข้าสู่แท่นประดิษฐาน และฤกษ์สุดท้ายเมื่อเปิดเทวาลัย

ในการออกแบบนั้น บริษัทที่ปรึกษาได้เริ่มใช้โปรแกรมช่วยในการออกแบบแล้ว และน่าจะเป็นครั้งแรกที่มีการใช้โปรแกรมนี้ในการออกแบบโครงการสถาปัตยกรรมแบบประเพณีไทย
โดยผู้ออกแบบไม่ยอมลดทอนรายละเอียดทางคตินิยมลงเพื่อแลกกับการทำงานที่ง่ายขึ้น แต่เลือกเอาการทำงานเต็มตลอดเกือบวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง เพี่อให้งานแล้วเสร็จตามสัญญา

แผนผังของอาคาร ปรุงขึ้นจากผังอาคารแบบทวารวดีที่พบที่พงตึกและราชบุรี บัวประดับอาคารเลือกใช้เป็นบัวลูกฟัก มีเสาคั่นท้องไม้ และใช้แผนผังย่อมุมแบบย่อมุมจตุรัสใหญ่ เพื่อพยายามใช้เลขสี่ให้กลายเป็นมาตราหลักของกระสวนแบบ
ทางขึ้นวางอัฒจรรย์ปีกกา หรือที่เรียกกัน หินวงพระจันทร์ (moon stone) สองระดับคือที่พื้นโลก และที่พื้นเทวาลัย

สิ่งพิเศษในการสร้างคือ ตามคำแนะนำของท่านพระครู ควรใช้วัสดุศักดิ์สูงในการก่อสร้าง ไม้ถูกละทิ้งในทันที เพราะศักดิ์ต่ำ ผู้ออกแบบเลือกใช้หินอ่อนดำตรงส่วนฐานอาคาร เครื่องประกอบทั้งหมด งดเว้นการปั้นปูนซึ่งถือว่าเป็นวัสดุสามัญ
การจำหลักหินเป็นทางเลือกหนึ่งที่ถูกพิจารณา แม้ว่าในเชิงเทคนิคจะสามารถควบคุมเวลาได้ เพราะสามารถแยกชิ้นงานออกสู่หลายช่างฝีมือ แต่การควบคุมฝีมือช่างเป็นสิ่งที่ยากลำบาก
ในที่สุดก็ตกลงใช้เทคนิคที่ยุ่งยากมากที่สุด คือการหล่อโลหะขึ้นทั้งองค์ นับว่าเป็นเทวาลัยกลางแจ้งองค์แรกที่เลือกสร้างด้วยวิธีเช่นนี้ ตอนบรรจบขององค์เทวาลัยกับฐานหินอ่อนนั้น จงใจใช้ลายบัวรวน เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ขาดออกจากกัน เสมือนองค์สถาปัตยกรรมลอยอยู่เหนือฐาน

ที่มา : http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1834.0
ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

ขอบพระคุณ web master กาลิทัส สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
แต่ถ้าเพื่อน ๆ พี่ ๆ ชาว HM ท่านไหนจะกรุณา
บอกทีได้ไหมคะว่าต้องเข้าจากทางไหนอ่าาาา...

แล้วองค์พระเทวรูปหละคัฟ
มีความเป็นมาวิธีสร้างองค์พระยังงัยอะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

สมัยก่อนมีกรมสุรัสวดี ทำงานเกี่ยวกับหนังสือ เรียกกำลังพล แต่ส่วนใหญ่ทำเกี่ยวกับทหารครับ

แล้วกรมสุรัสวดี เพี้ยนมาเป็น สัสดี และสัสดี ขึ้นตรงกับทหารบก เหล่าทหารสารบรรณ ทหารสารบรรณ มีโลโก้เป็นรูปหนังสือ ขนนก และกระบี่ไขว้กันครับ

ขอบคุณคุณกาลิทัสสำหรับเนื้อหาและข้อมูลดีๆที่มีมาให้พวกเราโดยตลอดครับ

ไปสืบค้นข้อมูลน่ารู้อีกนิดหน่อยเกี่ยวกับเทวาลัยพระสรัสวดี  ศูนย์ประชุมฯ  มาให้อ่านกันครับ.....

.......เทวาลัยพระสรัสวดี  สร้างพร้อมศูนย์ประชุมแห่งชาติ ฯ  เมื่อปี  พ.ศ. 2534  เทวาลัยตั้งอยู่ริมทางเข้าด้านหน้า  มีสระน้ำเป็นฉากหลัง  ถัดไปเป็นอุทยานเบญจกิตติ

สำหรับเทวลักษณะของเทวรูปพระสรัสวดี  ศูนย์ประชุมฯ นั้น อยู่ในท่าประทับยืนเอียงสะโพกเล็กน้อย  มี 4 พระกร  ทรงพิณแบบเทวดาไทย คัมภีร์  และสร้อยลูกปัด  ฉลองพระองค์แบบอย่างมาจากศิลปะอินเดียใต้  หรือทมิฬ  แต่ปรับให้มีความชดช้อยอย่างไทย   จึงดูอ่อนเบานุ่มนวล ไม่แสดงพลังชัดเจนอย่างศิลปะทมิฬ   

แม้จะลดความแข็งกร้าวของศิลปะทมิฬลงแล้ว  แต่พระพักตร์ และท่าทางกลับคล้ายเทวรูปในศิลปะจีนมาก ถ้าไม่พิจารณา  ฉลองพระองค์ว่ามีต้นแบบมาจากศิลปะทมิฬ หรือสัดส่วนของเทวรูปทีมีความชดช้อยแบบไทยแล้ว  ก็อาจเข้าใจว่า เอาแบบอย่างมาจากพระโพธิ์สัตวกวนอิม หรือเทวรูปเทพของมหายานองค์ใดองค์หนึ่งมาก็เป็นได้.....

(ที่มา: กิตติ วัฒนะมหาตม์.เทวาลัย.สำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊ค.2550)

ขอบคุณคุณNaga สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ

เเถวบ้านเลยคราบสงสัยต้องหาเวลาไปถ่ายภาพ
เอามาให้เพื่อนๆ ได้ชมซะละคราบ
ผมก้อผึ่งรู้ว่ามี ขนาดไปวิ่งที่บ่อย ๆยังไม่รู้เลยอะ อิอิออิ จุดใต้ตำต่อจิง ๆ อะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]บ้านคนจะเเต่งหิ้งพระสวยยังไงก้อยังเป็นบ้านคน จะให้บ้านคนเป็นวัดคงเป็นไปไม่ได้[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff]จงอยู่ในความพอดี ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป กลาง ๆ พอดี ๆ อะ เเล้วจะมีความสุขกะสิ่งที่ทำ[/HIGHLIGHT]

December 24, 2009, 12:29:43 #12 Last Edit: December 24, 2009, 12:37:49 by สิรวีย์
คุณตรีศังกุเล่าถึงกรมพระสรัสวดีน่าสนใจมากค่ะ เพิ่งนึกได้ว่าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มีเทวรูปที่ได้รับมาจากกรมพระสรัสวดีเดิม เป็นรูปเทพผู้ชายประทับนั่งขนาดสมาธิบนฐานสูง ในพระหัตถ์ถือสมุดบัญชีค่ะ แปลกดีนะคะ ชื่อ กรมพระสรัสวดีแต่มีเทวรูปเป็นผู้ชาย วันหลังว่างๆจะไปถ่ายรูปมาให้ชมกันนะคะ

ป.ล.ว่าไปตามที่ได้เห็นและได้ยินได้ฟังมา อย่าดุดิฉันกันเลยนะคะ ได้โปรด

และ ป.ล.(อีกครั้ง) ได้รับเทวรูปศิลปะทมิฬมาองค์หนึ่งค่ะ เป็นผู้หญิงสองกรพระกรขวาทรงถือห่วงกลมๆ พระกรซ้ายถือของยาวๆแบนๆ ท่านยกพระบาทขวาขึ้นหงาย ฝ่าพระบาทเป็นลายดอกไม้ ส่วนขาซ้ายย่อเล็กน้อย ที่ใกล้พระบาทซ้ายมีศัตว์ปีกชนิดหนึ่ง ปากยาว ตอนได้มาทั้งคนให้คนรับงงว่าเป็นใคร
จะเป็ฯไปได้ไหมคะว่าท่านคือพระสรัสวดี ห่วงกลมๆคืออัษมาลา และของยาวๆแบนๆคือพระเวท ส่วนสัตว์นั้นคือหงส์ เคยมีนักวิชาการบอกว่าเป็ฯพระสรัสวดีขณะร่ายรำ อย่างงี้ผิดธรรมเนียมไหมคะ ทุกวันนี้บูชาท่านในฐานะพระสรัสวดีค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)