Loader

คำถามที่ต้องการคำตอบคะ

Started by Om Sakthi Parasakthi, February 07, 2010, 16:09:21

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

พิมมี่อยากจะให้ทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามที่พิมมี่สงสัยคะ
1. ศาสนาที่แท้จริงคืออะไรคะ
2  ความเชื่อแบบการมองเห็นด้วยตัวเอง(Sense) กับหลักการทางศาสนา สามารถนำมาผนวกกันได้จิงหรือ
3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ

( รบกวนด้วยนะคะ พิมมี่อยากให้ทุกท่านช่วยชี้แนะในสิ่งที่พิมมี่สงสัย และเป็นวิทยาทานคะ หากคำถามใดไม่เหมาะสม ขออภัย ด้วยนะคะ )
[HIGHLIGHT=#ffc000]หากมีศรัทธาแล้วไซร้ ก็ควรทำให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี  เพื่อศรัทธาที่มีนั้นจะได้มีค่า และหาข้อติเตียนไม่ได้[/HIGHLIGHT]

โหคำถามแต่ละคำถามนี่ขั้นสูงทั้งนั้นเลยคับ ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันคับ ช่วยตอบด้วยนะคับ (อยากตอบเหมือนกันแต่ไม่ค่อยมีความรู้เดี๋ยวมันจะผิด ฮิฮิ)

ไม่ขั้นสูงหรอกคะ แต่พิมมี่เองที่ยังไม่ค่อยจะรู้อะไรมาก เพิ่งศึกษาอะคะ แต่การศึกษาของพิมต้องใช้หลักของเหตุผลด้วยคะ

รบกวนท่านผู้รู้ด้วยนะคะ อยากได้คพำตอบที่แท้จริงๆ ขอบคุณคะ
[HIGHLIGHT=#ffc000]หากมีศรัทธาแล้วไซร้ ก็ควรทำให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี  เพื่อศรัทธาที่มีนั้นจะได้มีค่า และหาข้อติเตียนไม่ได้[/HIGHLIGHT]

งั้นผมก็ขอเสนอคำตอบบางข้อนะคับ (เพราะบางข้อไม่รู้จตอบยังไงคับ )
1 อันนี้ไม่รู้จตอบยังไงเลยคับ ผมก็สงสัยอยู่มากเลยครับ
2 ตามที่ผมลักจำตามเว็บต่างๆนะครับ ฮิฮิ รู้สึกว่าหลายๆศาสนาของโลกมักใช้วิธีนี้เป็นส่วนใหญ่อะคับ โดยเฉพาะศาสนาที่เกี่ยวกับการบูชาเทพเจ้า
3 อันนี้ไม่ค่อยทราบเลยคับ แต่ถ้าอ้างอิงจากข้อ 2 ก็น่าจะเป็นไปไดนี่คับ
4 อันนี้ผมว่าดูไม่เหมาะนะคับ เพราะสิ่งของบางอย่างสร้างขึ้นเพื่อใช้งานกับ ลัทธินั้นๆโดยเฉพาะ การที่จะใช้กับอย่างอื่นมันก็ยังไงอยู่นะคับ

ทั้งนี้ต้องให้ท่านที่ทราบจริงๆมาชี้แจงอีกทีคับ


สงสัยถ้าคุณพิมมี่อยากเข้าใจแจ่มแจ้งแบบสุดๆ ต้องไปพบพราหมณ์แล้วมั้งครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ  ไม่ทราบว่าถูกหรือผิด แต่เห็นกระทู้แล้วเลยอยากเเสดงความคิดเห็นค่ะ
1.คุณเจ้าของกระทู้นับถือศาสนาอะไรค่ะ ถ้าเป็นพุทธก็ต้องบอกว่าหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ อันนี้สำหรับเราทั่วๆไปที่เป็นชาวพุทธ แต่ถ้าเรารู้แก่นที่แท้จริงของคำสอนเราก็จะรู้ว่า พระศาสดาท่านอยากให้เราพ้นทุกข์โดยหลักอริยสัจ4 ซึ่งง่ายๆคือการพิจารณาจิตให้จิตเกิดกุศลและน้อมนำไปทางดีตลอด ให้พ้นจากรากกิเลส 3 ตัว คือโลภะ โทสะ โมหะ
2.sense กับหลักศาสนา เกี่ยวกันได้ไหม อันนี้เท่าที่ปฎิบัติและศึกษามา sense ว่าง่ายๆภาษาพระเรียกว่า อภิญญา 6 ( รู้จิตผู้อื่น , เห็นการณ์ล่วงหน้า , ทำนายอดีต , ระลุกชาติได้ ฯลฯ )คือฤทธิ์ขั้นต้น มีเกิดขึ้น เสื่อมได้ แต่ไม่ได้หลุดพ้น เป็นการสั่งสมบารมีให้ก้าวสู่ทางแห่งปัญญาได้พบนิพพาน  ดังนั้นต้องดูว่า  sense ที่หมายถึง เป็นแบบนี้หรือเปล่า
3.อันนี้เป็นเฉพาะบุคคล ขึ้นอยู่กับสัญญาเก่าที่มีมากับพระเจ้า และจะก้าวหน้าถ้าได้มาปฎิบัติต่อ ( อันนี้สืบเนื่องมาจาก อภิญญา 6 ได้ )ว่าง่ายๆคือถ้าสัมพันธ์กับพระเจ้า จิตว่าง ก็มีโอกาสได้พบพระเจ้าตามแต่มายาที่ท่านจะให้เราเห็น
4.อันนี้ดูที่เจตนาของผู้ใช้ และความเหมาะสม ของบางสิ่ง บางสถานที่ เราควรให้เความเคารพในศาสดา และสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น ไม่ให้ผู้อื่นมองว่าลบลู่หรือดูหมิ่นในความศรัทธาของสถานที่นั้น วัตถุเหล่านั้น
ตอบตามที่ได้ศึกษามา รบกวนผู้รู้ท่านอื่น ช่วยมาอธิบายเพิ่มเติมนะคะ  ขอบคุณค่ะ

ทรรศนะของผมนะ

1. ศาสนาที่แท้จริงคืออะไรค?
- คือ ความดี อันทำให้เรามีภาวะจิตที่เป็นสุข
2  ความเชื่อแบบการมองเห็นด้วยตัวเอง(Sense) กับหลักการทางศาสนา สามารถนำมาผนวกกันได้จิงหรือ?
- อันนี้ต้องถามกลับว่า คุณได้พิสูจน์หรือยัง เพราะสิ่งพวกนี้ตนเท่านั้นที่ตอบตนได้
3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ?
- พระเจ้าของคุณคืออะไร ถ้าทองว่าพระเจ้าทั้งมวลคือธรรมชาติ พระเจ้าก็สื่อสารกับคุณอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่จิตของคุณไม่ยอมรับฟังเท่านั้นเอง
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป็นสิ่งที่สมควรทำหรือ?
- จะใช้อะไรก็ได้ เรื่องนี้อยู่ที่เจตนาของผู้บูชา ไม่ได้อยู่ที่วัตถุภายนอก
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

คำถามนี้ขอคิดคำตอบด้วยตัวเองนะคะ

1. ศาสนาที่แท้จริงคืออะไรคะ

คุณธรรมที่ถูกสอนสืบทอด  โดยมีทั้งปัญญาเเละศรัทธา  ควบคู่กันไป  เป็นหลักปฏบัติเผื่อให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ต่อไปอย่างผาสุข

2  ความเชื่อแบบการมองเห็นด้วยตัวเอง(Sense) กับหลักการทางศาสนา สามารถนำมาผนวกกันได้จิงหรือ

ศาสนา  มีวิธีปฏิบัติ  ที่เเตกต่าง  โดยยึดสิ่งใดสิ่งนึงเป็นที่ตั้ง  คล้ายกับสมาธิ  ในโลกเรามีพลังงาน  คลื่นมากมาย  เเละพร้อมจะถ่ายทอดเเลกเปลี่ยน

พลังงานนั้นๆได้   sense   ถ้าเจ้าเของกระทู้หมายถึง  พลังจิต  หรือ  สัมผัสที่ 6  อันนี้เสือคิดว่า  จริง   
3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ

ถ้าว่าไปตามหลักวิทยาศาสตร์  การสื่อสารอาจคือ  จิตสำนึกในสิ่งที่ดีในตัวของเราเอง  ซึ่งถ้าเรายึดถือ  ความละอายเเละเกรงกลัวต่อการทำผิด 

อาจเป็นเสียง  ในโสตความคิดให้เราไม่ทำในสิ่งนั้นๆ  ความมหัสจรรย์อาจเกิดขึ้นจากความคิดดีดี  ฟลุ๊คๆ  หรือการยั้งคิดด้วยตัวเอง

ขอตอบว่า  การสื่อสารคือ  เสียงกระซิบจากจิตสำนึก
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ

ทุกศาสนาล้วนมีการสืบทอดโดย  มนุษย์  อุปกรณ์มนุษย์คิดประดิษฐ์ขึ้นมา  เเล้วนำไปใช้  อันนี้เเล้วเเต่ความเหมอะสม  เเต่เสือว่านะคะ

ทุกศาสนาสอนให้สรรพสิ่งดำเนินต่อไปอย่างผาสุข 


4  ข้อคำถามล้วนเป็นความ  คิดเห็น ของเสือคะ  อาจจะถูกบ้างผิดบ้าง  เเต่เสือก็เข้าใจเช่นนั้น

เสียหายไม่ว่า  แต่เสียหน้าไม่ได้

ขอบคุณคะ สำหรับทุกคำตอบที่ตอบมา จะเป็นแนวทางให้พิมมี่ศึกษาศาสนาให้ถ่องแท้ขึ้นอย่างมีเหตุผลทุกคำตอบที่พวกพี่ๆท่านให้มา ล้วนเป็นวิทยาทานขั้นสูง คะ พิมมี่เองก็ไม่ได้เก่ง มาจากไหนหรอกคะ อาศัยว่าพยายามศึกษาเอาคะ รบกวนพวกพี่ๆทุกท่านจิงเลยคะแต่ยังงไงก็ขอบคุณจากใจจริงสำหรับทุกคำตอบนะคะ มัน

...

เรียนคุณ โอมมหาบารมีเทวาคะ ดิฉันได้ไปพบพราหมณ์แล้วคะ ท่านสอนอะไรไรดิฉันหลายๆอย่าง ตอบตรงๆว่าดิฉันเป็นพุทธ แต่ดิฉันศรัทธาในพระเป็นเจ้าของศาสนาฮินดูคะ ท่านสอนให้ฉันศรัทธาพระเป็นเจ้าอย่างไม่งมงายคะ ท่านกล่าวกับฉันว่า  แม้แต่ทุ่งหญ้า พื้นดิน  ก็คือพระพิฆคเณศ

สายน้ำก็คือพระคเณศ เอาง่ายๆคะ ธรรมชาติทั้งหลายล้วนคือพระเป็นเจ้าคะ ทำให้พิมมี่ทราบว่า พระเป็นเจ้าทรงอยู่กับเราในทุกรูปแบบคะ ไม่จำได้

จำกัดว่าจะต้องอยู่ในรูปหนึ่งรูปใด ตายตัว ไม่จำเป็นต้องสรรหา สิ่งที่เป็นวัตถุขึ้นมาแล้วจำกัดความว่า นี่คือพระเจ้าคะ ท่านไม่เคยสอนว่ากราบเทวะองค์

นั้นองค์นี้ หรือต้องถวายเครื่องบูชาองค์นู้นองคนี้จะช่วยให้พรของเรานี้สำเร็จคะ

แต่ท่านสอนกับเราว่าวันนี้เราให้อะไรดีๆกับพ่อแม่ของเราที่เป็นมนุษย์ที่ให้กำเนิดเรา และ บิดาและมารดาแห่งจักรวาล ก็คือพระเป็นเจ้า รึยังคะ  ท่าน

สอนให้ดิฉันเชื่อว่า การบูชาพระเป็นเจ้า เป็นการขัดเกลาจิตใจ มีที่พึ่ง และรักสงบ มีจิตใจที่ใสสะอาด  ท่านสอนทิ้งท้ายไว้ให้ดิฉันอีกว่า หากเรานี้บูชา

พระเป็นเจ้าด้วยสิ่งของอันประเสริฐ หรือจะแพงมหาศาลขนาดไหน แต่ตัวเรานี้ ไม่ได้ทำหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ให้ประเสริฐตาม ไม่ว่าเทพเจ้าองค์

ไหนก็ไม่สามรถ ช่วยเราได้หรอก แล้วก็อีกอย่างที่ท่านพูดแล้วพิมมี่ รู้สึกโป๊ะเช๊ะ คะ คือ หากวันนี้คุณได้พรของพระเป็นเจ้า เช่นโชคดี หรืออะไรต่างๆ

จงอย่าดีใจ และตื่นตระหนกและหลงในพรเหล่านั้นคะ แต่จงใช้พรนั้นให้คุ้มค่าในการดำเนินชีวิตประจำวันให้ดีที่สุด และ ไม่ประมาทในชีวิต เพราะถ้าเกิด

คำว่าประมาทขึ้นมาแล้ว  ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถ ช่วยเราได้คะ

( ดิฉันได้พบกับบัณฑิต ท่านนี้ เมื่อครั้นที่ดิฉัน ไปเมืองหฤตวาร ประเทศอินเดีย ริมแม่น้ำคงคาคะ  ท่านได้มาร่วม

ประกอบพิธี คงคาอารตรี และท่านก็พูดภาษาอังกฤษได้ชัดมาก จึงทำให้พิมมี่ได้รับข้อคิดดี่ๆคะ เพราะเมื่อก่อนท่านเป็นคริสตชนคะ และก็ได้ย้ายเข้ามา

ศึกษาศาสนาฮินดูอย่างถ่องแท้ ก็เหมือนพิมมี่เอง ที่นับถือพุทธ แต่ได้มาศึกษา และศรัทธา ในพระเป็นเจ้าทางพราหมณ์ ฮินดูคะ )

...


นี่คือความคิดเห็นของพิมมี่คะ อาจจะกระทบท่านใดไปบ้าง ก็ขออภัย อย่างสูงสุดเลยคะ หากมีคำพูดใดไม่เหมาะสม พิมเองก็ขอโทดจากใจเลยคะ

รักทุกคนคะ

[HIGHLIGHT=#ffc000]หากมีศรัทธาแล้วไซร้ ก็ควรทำให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี  เพื่อศรัทธาที่มีนั้นจะได้มีค่า และหาข้อติเตียนไม่ได้[/HIGHLIGHT]

 

   ซึ้งที่คุณพิมมี่ตอบจัง  ดีใจด้วยนะค่ะ  ที่รู้จักเข้าหา  เข้าถึงพระเจ้าในแบบที่ถูกที่ต้อง

ดิชั้นว่าบางทีครูบาอาจารย์ก็เป็นสิ่งสำคัญหลักๆในชีวิตเลยละคะ

แต่ในบางกรณีเราก็ถือว่าช่วยแล้ว แต่ก็อาจจะเกินวิสัยเราจริง  คงไม่ต่างจากบัวที่อยู่ในโคลนตมแล้วเอาปูนลงไปฉาบทับอีกรอบ เฮ้ออออ



   อิชั้นเชื่อว่าสิ่งศักสิทธิ์ต้องเข้าใจในเจตนาที่บริสุทธิ์ของพวกเราคะ


เอาใจช่วยคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ให้ได้รับคำตอบที่กระจ่างที่สุด เพื่อเราจะได้เดินในทางที่ถูกต้องในการบูชาพระเจ้าแบบที่รู้จักพระองค์จริงๆไม่ได้ยึดติดกับมายาภายนอกของท่านเหมือนที่ผู้ศรัทธาบางกลุ่ม บางคน เข้าใจอย่างนั้นตามที่เราได้เห็นๆกันอยู่ ทั้งคำถามของคุรยังเป็นวิทยาทานให้เราได้ดำเนินไปในทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ไม่งมงาย  ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆๆแบบนี้นะคะ

ขอบคุณพี่น้องสมาชิกทุกคนที่ได้ตอบคำถามกันแบบพี่ให้ความรู้น้อง  ทำให้น้ำได้รับความรู้ไปด้วย
ขอบคุณนะคะ

[HIGHLIGHT=#ff0000]รักบ้านหลังนี้ค่ะ[/HIGHLIGHT]

อยากตอบมั่งได้รึเปล่าครับ เห็นแล้วรู้สึกดีกับคำถามแบบนี้ครับ (ผมขอตอบในทรรศนะของผม โดยยังไม่อ่านคำตอบของท่านอื่นนะครับ) 555+

ปล. แอบดีใจทุกครั้งจริงๆ เวลามีเพื่อนๆ ใช้คำว่า "รัก" บ้านหลังนี้ ขอบคุณครับ ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด



1. ศาสนาที่แท้จริงคืออะไรคะ

- ศาสนาในมุมมองของผม คือ ตัวอะไรก็ไม่รู้แต่ทำไปแล้วเราสุขใจสุขกาย และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน นั่นก็คือศาสนา คือ ธรรมครับ
ศาสนาในหัวใจผม ไม่มีคำว่า อริยสัจ 4 ไม่มีคำว่า ปรมาตมัน ไม่มีคำว่า นิพพาน ไม่มีคำว่า อรหันต์
ศาสนาในหัวใจผม มีง่ายๆ แค่สามข้อ แต่ผมเองก็ทำไม่ได้ซักที คือ " คิดดี ทำดี พูดดี" ครับ
อีกอย่างถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณลองสิ ว่างๆ ลองไปนั่งหน้าหิ้งพระนะครับ แม้ไม่ได้สวดมนต์ แม้ไม่ได้นั่งสมาธิ
แต่ใจกลับสบาย ไม่ฟุ้งซ่าน จิตสงบ ร่างกายผ่อนคลาย นี่แหละครับศาสนา และข้อดีแห่งศาสนาในมุมมองของผม
ช่างเป็นอะไรที่สงบ และ สุขจริงๆ จับต้องไม่ได้ด้วยมือ แต่จับต้องได้ด้วยใจ และกายอันกอร์ปไปด้วยความสุข
2  ความเชื่อแบบการมองเห็นด้วยตัวเอง(Sense) กับหลักการทางศาสนา สามารถนำมาผนวกกันได้จิงหรือ
- ผมอยากให้มองข้าม ประเด็นนี้ไปครับ เพราะอะไร Sense เป็นเรื่องเฉพาะตัว ใช้กับทุกคนไม่ได้ แต่ศาสนา แหละหลักศาสนา
นั้น เป็นพื้นฐานแม้จะไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ให้ยึดถือปฎิบัติ แต่เป็นสิ่งที่เป็นบรรทัดฐานว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี ที่รู้กันดีครับ
ผมอยากให้เพื่อนทุกคนในบอร์ด HM เป็นคนธรรมดา ที่ถือปฎิบัติธรรมะแบบคนธรรมดา ดีกว่าไปคิดเรื่อง Sense ครับ
เพราะจริงๆ แล้ว ถ้าคนมี Sense อยากให้มองแค่เป็นเครื่องประกอบ ให้เราเข้าถึงธรรมะได้เร็วขึ้นแค่นั้นเอง บางคนมี Sence กลับนำสิ่งนั้นมาแสวงหาแต่ลาภยศสรรเสิรญให้กับตนเองครับ
3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
- ถามตรงนี้ตอบไม่ได้ครับ ถือเป็นเรื่องเฉพาะตัวครับต้องปฎิบัติเองครับ และศึกษาด้วยตัวเองครับ ตัวเองเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ
- อยู่ที่ใจและเจตนาครับ ผมถามว่าตะเกียงอารตีไม่มี ใช้เทียนแทนได้หรือไม่ ตอบว่าได้ ถ้าไม่มีอีก จานกินข้าวได้หรือไม่ ก็ได้อีกแหละครับ

Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 07, 2010, 16:09:21

3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ


ขอพูดนิดนึงนะครับ

สำหรับข้อ3 พระเป็นเจ้าสามารถสื่อกับมนุษย์ได้ครับ มนุษย์ก็เช่นกัน อยู่ที่ว่าเรามีจิตศัทธามากแค่ไหน ถึงเราไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้แต่ก็รู้ไว้เถิดว่าเราสามารถสื่อถึงท่านได้ทุกที่ทุกเวลา  ทั้งในเวลาสวดมนต์ เวลาทำพิธีบูชา  เวลาขอพร หรือ เวลาเราคิดถึงท่าน  ท่านก็รับทราบแล้วครับ

สำหรับขอ4 อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาอุปกรณ์ของศาสนาหนึ่งไปรวมบูชากับอีกศาสนา เพราะผมก็ไม่เคยเห็นใครเอาอิมเข่งไปใช้บูชาในศาสนาฮินดูแล้วก็ไม่เคยเห็นใครเอาตะเกียงอารตีไปวนบูชาพระในศาสนาพุทธ  ขนาดหิ้งเราต้องยังแยกเลยครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ขอบคุณพี่น้องสายเลือดฮินดูมิตติ้งคะ ทุกท่านเปรียบเสมือนคุรุของพิมมี่

ขอบพระคุณน้ำใจของทุกท่านที่อุตส่าห์เสียสละเวลาอันมีค่ามาตอบกระทู้นี้ ขอบคุณคะ

หวังว่าคำตอบนี้จะเป็นวิทยาทานให้คนที่ไม่รู้ ไม่ทราบ หรือยังไม่แจ่มแจ้งในหลักของศาสนาที่แท้จริงได้แจ่มแจ้งซักที

[HIGHLIGHT=#ffc000]หากมีศรัทธาแล้วไซร้ ก็ควรทำให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี  เพื่อศรัทธาที่มีนั้นจะได้มีค่า และหาข้อติเตียนไม่ได้[/HIGHLIGHT]

 

   ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ  คุณพิมมี่และทุกๆท่าน  ตามที่อิชั้นได้ศึกษามา ท่านอื่นที่มีทรรศนะ

เห็นต่างไปอย่างไรก็ได้โปรดเพิ่มเติมด้วยคะ ......

....  ศาสนานี่จริงๆแล้วมาจากภาษาสันสกฤต  "ศาสน"  แปลว่าคำสอน หมายถึงหลัก

ธรรมคำสอนของศาสดา   ผู้ประกาศศาสนามีจุดมุ่งหมายเพื่อ  ความสำเร็จ สงบสุข

ตลอดจนสันติสุขของผู้ปฎิบัติ


เหมือนกับคำว่า  Religion  มาจากภาษาละติน  "Religio"  มีความหมายสามอย่าง

    - ความผูกพันกับพระเจ้า

    - การสวดมนต์ และการรำลึกถึงพระเจ้า

    - การหวนกลับไปหาพระเจ้า

   โดยสรุปน่าจะแปลได้ว่า  เครื่องนำพามนุษย์ไปสู่ความผูกพันกับพระเจ้า



สาธุ ... อ่านข้อความของแต่ละท่านแล้วประเทืองปัญญาขึ้นมากเลย

ทำให้บัวกำลังจะพ้นน้ำแล้ว ...สาธุ..สาธุ 

ขุมทรัพย์ แห่ง ความรู้

จริงๆ เรย บ้านเรา นิ่

อนุโมทนาบุญคร้าฟ

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ


กิมเองก้องง  ๆ อ่าค่ะ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 08, 2010, 16:50:42
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 07, 2010, 16:09:21

3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ


ขอพูดนิดนึงนะครับ

สำหรับข้อ3 พระเป็นเจ้าสามารถสื่อกับมนุษย์ได้ครับ มนุษย์ก็เช่นกัน อยู่ที่ว่าเรามีจิตศัทธามากแค่ไหน ถึงเราไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้แต่ก็รู้ไว้เถิดว่าเราสามารถสื่อถึงท่านได้ทุกที่ทุกเวลา  ทั้งในเวลาสวดมนต์ เวลาทำพิธีบูชา  เวลาขอพร หรือ เวลาเราคิดถึงท่าน  ท่านก็รับทราบแล้วครับ

สำหรับขอ4 อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาอุปกรณ์ของศาสนาหนึ่งไปรวมบูชากับอีกศาสนา เพราะผมก็ไม่เคยเห็นใครเอาอิมเข่งไปใช้บูชาในศาสนาฮินดูแล้วก็ไม่เคยเห็นใครเอาตะเกียงอารตีไปวนบูชาพระในศาสนาพุทธ  ขนาดหิ้งเราต้องยังแยกเลยครับ


ข้อสี่ มีคะ ตะเกียงที่นำไปวนหน้าพระพุทธ ที่อินเดียคะ ตามสังเวชนียต่างๆ มีคนพุทธปนๆฮินดู ก็เอาตะเกียงห้าแฉกมาอารตรีคะ

พร้อมกับโปรยผงชาตและผงสีต่างบนพระพุทธรูป แล้วก็บูชาพระพุทธรูปด้วยอาหารและดอกไม้ที่พวกเค้าจะเตรียมกันมาคะ

แต่ไม่มีการสั่นกระดิ่ง หรือเป่าสังข์แต่อย่างใดคะ เพราะคนที่นู่นเชื่อกันว่า คืออวตารของพระนารายณ์และพระกฤษณะคะ
[HIGHLIGHT=#ffc000]หากมีศรัทธาแล้วไซร้ ก็ควรทำให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี  เพื่อศรัทธาที่มีนั้นจะได้มีค่า และหาข้อติเตียนไม่ได้[/HIGHLIGHT]

Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 12, 2010, 07:46:34
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 08, 2010, 16:50:42
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 07, 2010, 16:09:21

3  พระเป็นเจ้าสามารถสื่อสารกับมนุษย์เป็นเรื่องเป็นราวได้จริงหรือ
4  การใช้อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ลัทธิความเชื่อ เป้นสิ่งที่สมควรทำหรือ


ขอพูดนิดนึงนะครับ

สำหรับข้อ3 พระเป็นเจ้าสามารถสื่อกับมนุษย์ได้ครับ มนุษย์ก็เช่นกัน อยู่ที่ว่าเรามีจิตศัทธามากแค่ไหน ถึงเราไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้แต่ก็รู้ไว้เถิดว่าเราสามารถสื่อถึงท่านได้ทุกที่ทุกเวลา  ทั้งในเวลาสวดมนต์ เวลาทำพิธีบูชา  เวลาขอพร หรือ เวลาเราคิดถึงท่าน  ท่านก็รับทราบแล้วครับ

สำหรับขอ4 อุปกรณ์บูชาข้ามศาสนา ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาอุปกรณ์ของศาสนาหนึ่งไปรวมบูชากับอีกศาสนา เพราะผมก็ไม่เคยเห็นใครเอาอิมเข่งไปใช้บูชาในศาสนาฮินดูแล้วก็ไม่เคยเห็นใครเอาตะเกียงอารตีไปวนบูชาพระในศาสนาพุทธ  ขนาดหิ้งเราต้องยังแยกเลยครับ


ข้อสี่ มีคะ ตะเกียงที่นำไปวนหน้าพระพุทธ ที่อินเดียคะ ตามสังเวชนียต่างๆ มีคนพุทธปนๆฮินดู ก็เอาตะเกียงห้าแฉกมาอารตรีคะ

พร้อมกับโปรยผงชาตและผงสีต่างบนพระพุทธรูป แล้วก็บูชาพระพุทธรูปด้วยอาหารและดอกไม้ที่พวกเค้าจะเตรียมกันมาคะ

แต่ไม่มีการสั่นกระดิ่ง หรือเป่าสังข์แต่อย่างใดคะ เพราะคนที่นู่นเชื่อกันว่า คืออวตารของพระนารายณ์และพระกฤษณะคะ

ในศาสนาฮินดูพระพุทธเจ้าคือ ปางหนึ่งของพระนารายณ์ก็ถูกต้องแล้วครับมีการอารตีมีการถวายฉาดเหมือนองค์เทพองค์อื่น

แต่ถ้าเป็นนิกายมหายานหรือมหานิกายไม่มีอ่ะคับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ได้ความรู้ เพิ่ม เติม แฮะ

จะมาบอกว่า
มหายาน กับ มหานิกาย นิคนละอันกันเลยนะคัฟ
มหายาน(อาจาริยวาท หรือ อุตรนิกาย) คู่กับ หินยาน (เถรวาท หรือ ทักษิณนิกาย)
มหานิกาย เป็นนิกายหนึ่งที่คุ่กับธรรมยุตินิกาย เป็นนิกายย่อยที่อยุ่ใน นิกายเถรวาท
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ศาสนามีความสำคัญต่อสังคมมนุษย์ คือ
๑. ศาสนาทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เพราะทุกศาสนาล้วนมุ่งหวังให้ศาสนิกชนของตนเป็นคนดี และเมื่อศาสนิกชนเป็นคนดีแล้วสังคมก็ย่อมจะปราศจากความเดือดร้อน
๒. ศาสนาเป็นบ่อเกิดแห่งธรรมจรรยา และขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และหากบุคคลในสังคมประพฤติปฏิบัติตามหลักทางศีลธรรมที่ศาสนานั้น ๆ วางไว้ย่อมทำให้สังคมมีความสุข
๓. ศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เพราะศาสนิกชนสามารถดำเนินวิถีชีวิตตามแบบอย่างของพระศาสดา หรือปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา
๔. ศาสนาจะช่วยให้มนุษย์ทราบว่าสิ่งใดดีชั่ว ถูกผิด ตามมาตรฐานของศาสนานั้น ๆ และทราบถึงผลแห่งการกระทำนั้น ๆ เช่น คำสอนเรื่องหลักกรมในพระพุทธศาสนา ว่าทำดีได้ดี หรือทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น
๕. ศาสนาเป็นแหล่งรวมศิลปวิทยาการ และถ่ายทอดวิทยาการ เนื่องจากจะเป็นแหล่งความรู้ของศาสตร์แขนงต่าง ๆ และถ่ายทอดศาสตร์เหล่านั้นไปสู่มนุษย์ในสังคม ความรู้ทางการแพทย์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม การช่าง การดนตรี และหัตถกรรม เป็นต้น
๖. ศาสนาเป็นเครื่องส่งเสริมความมั่นคงในการปกครองประเทศ เช่น พระมหากษัตริย์ไทยทรงยึดมั่นและดำเนินนโยบายในการปกครองประเทศด้วยหลักทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ
๗. ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจเมื่อปุถุชนเกิดความทุกข์ร้อนใจ กล่าวคือ เมื่อคนเราเกิดความทุกข์กายและใจก็ย่อมจะหาทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น และรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาคือการนำหลักธรรมทางศาสนาที่คนเคารพนับถือมาเป็นที่พึ่งทางใจ และนำหลักธรรมมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา


อ่ะ....  ได้ความรู้เพิ่มเติม ยามเที่ยงๆ

ชอบมากครับ

กระทู้นี้ทำให้ผมตาสว่างขึ้นเยอะเลยจริงๆ

ขอบคุณอีกครั้งครับ