Loader

ขอความกรุณาผู้รู้มาช่วยตอบ เรื่องหิ้งบูชาค่ะ

Started by Kimnei, September 03, 2009, 03:15:58

Previous topic - Next topic

0 Members and 3 Guests are viewing this topic.

คือว่า มาเรียน แล้วยังเช่าหอพักอยุ่  พอดีหิ้งบูชา เพราะกิมเองนับถือพุทธ กับเจ้าแม่กวนอิมมาก่อน

แบบนี้จะตั้งที่เดียวกันได้ไหมคะ  คือเราจัดสถานที่ให้ดีที่สุดอ่ะค่ะ กับพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย

พระพุทธรูปนี้ตั้งได้เนอะ เพราะเคยไปถามมา เค้าบอกว่า พระเนี่ยต้องสูงกว่าเทพอยู่แล้ว

แต่เจ้าแม่กวนอิม  กิมควรจะแยกใช่ไหมคะ

ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยค่ะ



........



บารมีองค์ท่านจงคุ้มครองผู้ปฏิบัติดีทั้งหลายด้วยเถิด
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

จิงๆ แล้ว กิมเคยปรึกษาคุณอักษรชนนีมาครั้งหนึ่ง

แต่ก็ยังอยากได้คำแนะนำจากหลายๆ ความคิดเห็นด้วยค่ะ

เพราะไปดูมาหลายกระทู้ที่นำรูปหิ้งของตัวเองมาโพส  ทำให้ทึ่ง

และก็อยากจัดให้อลังการแบบนั้นบ้าง 


แต่ก็เพราะอย่างที่บอกพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยอ่ะค่ะ

[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

เรื่องหิ้งพระเมื่อก่อนผมอยู่บ้านเก่า

เอาพระพุทธรูปไว้สูงสุด แล้วลดหลั่นองค์เทพลงมา

พอย้ายบ้านสถานที่สะดวก ผมเลยแยกหิ้งครับตอนนี้

แต่เท่าที่ทราบนะครับพระทุกองค์สามารถตั้งรวมกันได้ครับ ถ้ารู้จักลดหลั่น ถามกันไปถามกันมาเหมือนปัญหาโลกแตก

ว่าเราจะตั้งพระ เรายึดอะไรเป็นหลัก

มาดูเป็นข้อๆ ไปนะครับ

1. ถ้ายึดตามแนวทางฮินดูที่ว่า พระพุทธเจ้าถือเป็นอวตานหนึ่งแห่งองค์พระวิษณุ
ดังนั้นพระพุทธเจ้าสามารถตั้งรวมกับเทพได้

2. ถ้ายึดตามปัจจุบันที่ว่า เจ้าแม่กวนอิมเป็นภาคปางหนึ่งของพระแม่อุมาเทวี
ดังนั้นเจ้าแม่กวนอิมจึงสามารถรวมกับเทพได้

3. ถ้ายึดตามแนวทางแห่งพุทธศาสนา พระพุทธเจ้ามาเป็นที่หนึ่ง
ดังนั้นตั้งพระพุทธเจ้ามาเป็นอันดับแรก

เยอะข้อขนาดนี้แล้วเราจะยึดอะไรดี ????

นอกจากนี้ถ้าเรามีปัญหาเรื่องพื้นที่เราจะตั้งยังไงล่ะ ให้ง่ายที่สุด

เราควรตั้งพระองค์ตามความบริสุทธิ์ของศีลครับ

1. พระพุทธเจ้าถือเป็นอรหันต์ครับ
2. พระโพธิสัตว์ ผู้รอการบรรลุธรรมครับ
3. ปวงเทพทั้งหลาย ที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ครับ

ปล. เพื่อนท่านใดมีแนวทางการตั้งหิ้งพระที่ดีกว่านี้บอกด้วยนะครับ


ผมอยากเสนอข้อคิดนะคับถ้าเรายังนับถือพุทธอยู่

คนส่วนใหญ่ที่นับถือองค์เทพฮินดูด้วยนะคับ

ก็ถือว่าเป็นพุทธอิงเทพ คงเข้าใจนะคับ

ในเมื่อเราเป็นพุทธอิงเทพการจัดหิ้งบูชาก็ต้องเป็นพระพุทธรูปต้องอยู่สูงที่สุด

อย่างบ้านผมเนี่ย พระพุทธรูปผมจะจัดอยู่บนหิ้งติดฝาผนัง คงเข้าใจนะคับ

ส่วนองค์เทพและพระโพธิสัตว์ผมจะจัดไว้ที่หิ้งตั้งพื้นลดหลั่นกันไปตามแต่บารมีของท่าน

ผมมีแนวความคิดจัดแบบชั้นสวรรค์อะคับ

พระพุทธเจ้าอยู่ชั้นสูงสุดคือนิพพานก็จะอยู่สูงที่สุด

และก็เป็นองค์มหาเทพ

และเทวาทั้งหลายทั้งปวง

ส่วนเจ้าแม่กวนอิมผมแยกบูชาคับ

เพราะพระแม่กวนอิมเป็นโพธิสัตว์ทางสายจีน

ผมเลยไม่เอามาอยู่หิ้งเดียวกับ สายฮินดู

เพราะว่าการกราบไหว้บูชาอาจไม่เหมือนกัน


โอ้..... พระแม่เจ้า พระผู้เป็นมารดาแห่งจักรวาล พระผู้เป็นคุ้มพลังแห่งพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นพระอุปถัมถ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า พระมารดาผู้ซึ่งมอบแสงสว่างของชีวิตด้วยวิถีแห่งศรัทธา พระผู้เป็นหนึ่งในดวงใจแห่งศรัทธาของลูก ลูกขอบูชา พระศักติ ที่อยู่ในดิน ในน้ำ ในมหาสมุทร สุดขอบจักรวาล โอม ศักติ ปาลา ศักติ
http://www.harekrsna.com/sun/features/02-10/kolapura3.jpg

ขอบคุณพี่กาลิทัส และคุณ Magic ค่ะ สำหรับความคิดเห็น

เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ้าแม่กวนอิม คืออีกปางของพระแม่อุมาเทวี

เป็นความรู้ใหม่อีกล่ะ  เยี่ยมๆๆๆ


ขอบคุณมากค่ะ

ไว้หิ้งสมบูรณ์จะแบ่งปันรูปนะคะ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

ช่วยไข
ความกระจ่างที่ว่า
พระกวนอิมเป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวีด้วยคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

รอฟังเหมือนกัน  ผมเองไม่ถนัดทางสายมหายาน  แต่ก็พอศึกษามาพอควร  จะให้ถุกต้อง  เราควรเรียกเจ้าแม่กวนอิมว่า  พระอวโลกิเตศวร มากกว่า  เพราะท่านเป็นนปุงศกลึงค์  คือเป้นเพศกลาง  ไม่ชายไม่หญิง บนศิราภรณ์ของท่าน มีรูปพระอมิตตาพุทธเจ้าประดับไว้ โพธิสัตว์  เป็นผุ้หลุดพ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวง  หากมีความประสงค์ที่จะเป็นผู้หลุดพ้นคนสุดท้ายหลังจากที่ช่วยทุกคนแล้ว   ส่วนพระอุมา  ท่านเป็นผู้สวยัมภูขึ้น  เป็นศักติแห่งมหาเทวะเจ้า  ไม่ขึ้นกับใครเป็นเอกเดียวกับจักรวาล
   
ใครเห็นยังไงมั่ง   คุยกันครับ  หรือจะขึ้นกระทู้ใหม่ก็ดีนะ
[HIGHLIGHT=#000000]*****จยันตี มังคลา กาลี  ภัทรกาลี กปาลิณี*****  [/HIGHLIGHT]

Quote from: nai 3 on September 06, 2009, 16:05:43
ช่วยไข
ความกระจ่างที่ว่า
พระกวนอิมเป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวีด้วยคัฟ


ใช่ค่ะ  รอฟังอยู่อยากทราบรายละเอียดมากค่ะ  ว่าเป็นมาอย่างไร
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

   จริงๆ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเป็นของลัทธิไหนซะละม้าง

เห็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนครึ่งอุมาครึ่งกวนอิม เค้าเรียก อุอิม ม้าง กั๊กๆๆๆๆ

จริงๆแล้วเว็ปเราเคยมีกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องพระแม่อุมา กับเจ้าแม่กวนอิมอยู่กระทู้หนึ่ง เมื่อหลายเดือนมานี้น่ะครับ

ลองเข้าไปดูได้จากกระทู้นี้นะครับ (บังเอิญเพิ่งนึกได้ว่าเห็นกระทู้นี้เมื่อนานมาแล้ว ^_^) 

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=233.0


ปล. ส่วนตัวผม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอ No Comment คร๊าบบบบบ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขอออกความคิดเห็นบ้างนะครับ พอดีว่ามีความรู้แค่หางอึ่งนะครับ

ตามหลักแล้วควรตั้ง
พระพุทธเจ้าไว้สูงสุด เพราะพุทธองค์อยู่สูงสุด
พระสงฆ์
พระโพธิสัตว์
องค์เทพ
เราสามารถวางรวมหิ้งเดียวกันได้แต่ต้องรองฐานให้สูงกว่ากัน ส่วนองค์เทพนั้นท่านให้เกียรติกันเสมอ ไม่ว่าจะสายไทย สายแขก สายจีน
ท่านให้เกียรติกันเสมอไม่มีแบ่งว่าสูงกว่าต่ำกว่า มีแต่มนุษย์นี่แหละที่แบ่งกันนะ

ขอแจมด้วยคนนะคะ
หิ้งนี้ลามะท่านมาตั้งหิ้งให้เองค่ะ
เจ้าแม่กวนอิมกับพระพุทธตามแบบวัชรยาน


แปลกจังทำไมถึงให้พระโพธิสัตย์สูงกว่าพระพุทธเจ้า  เพราะตามหลักความเชื่อของฝ่ายมหายาน  พระโพธิสัตย์กวนอิมเปรียบได้ว่าเป็นศิษย์แห่งพระพุทธองค์  และอีกอย่างสัญลักษณ์บนหมวกของพระโพธิสัตย์กวนอิมก็มีรูปของพุทธองค์ทั้ง 5 ปรากฎอยู่  แสดงให้เห็นว่าพระโพธิสัตย์กวนอิมทรงมีความนับถือต่อพระพุทธองค์

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องพุทธแบบวัชรยานนะครับ

แต่เท่าที่ทราบถึงจะเป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน แต่บางส่วนของธรรมจะต่างจากพุทธแบบมหายานและเถรวาทนะครับ

แต่ก็มีส่วนคล้ายพุทธแบบมหายานจนบางทีแยกแทบไม่ออกเหมือนกัน

โดยพุทธแบบวัชรยานนี้ให้ความสำคัญกับพระโพธิสัตว์มากกว่าการจะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

โดยมีความเชื่อที่ว่า การบรรลุอรหันต์สามารถช่วยมนุษย์ให้หลุดพ้นได้น้อยกว่าภูมิแห่งพระโพธิสัตย์ที่สามารถเวียนว่ายตายเกิดมาช่วยเหลือมนุษย์ได้อีก

นับครั้งไม่ถ้วนก่อนจะบรรลุอรหันต์ภูมิ แต่สุดท้ายพุทธแบบวัชรยานนั้นก็เกิดมาจากธรรมะที่แสดงโดยพระพุทธเจ้าครับ ((ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ))

อยากมีส่วนร่วมบ้างอ่ะครับ
จริงๆผมก็ไม่ได้มีความรู้อาไรเลยอ่ะครับ
แต่ถ้าจะให้จัดหิ้ง
ผมก็คงจัดตามความเชื่อความรู้สึกและก็ความรู้เท่าที่มีอยู่อ่ะครับ
ส่วนตัวผมเองผมนับถือพระพุทธเจ้าอยู่เหนือสุดก็เอาไว้บนสุด
รองลงมาก็เป็นพระโพธิสัตว์ เช่น เจ้าแม่กวนอิม
รองลงมาอีกก็เป็นปวงเทพ
แต่ถ้าให้แยกก็จะแยกได้อีก
- พระพุทธ  ถ้าเป็นประเทศไทยเราก็จะเอาพระคู่บ้านคู่เมืองไว้สูงสุด เช่น พระแก้วมกรด พระพุทธชินราช แล้วถึงจะตามด็วยพระพุทธรูปปางต่างๆ
- พระโพธิสัตว์  อันนี้ผมไม่ค่อยทราบเท่าไหร่เท่าที่ทราบก็เห็นจะเป็นเจ้าแม่กวนอิม ส่วนเทพเจ้าองค์อื่นๆไม่แน่ใจครับว่าถือเป็นพระโพธิสัตว์รึปล่าว
             ( ถ้าใครทราบช่วยบอกด้วยนะครับ ) เช่น เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้ากวนอู ฯลฯ เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นทางสายจีนอ่ะครับ
- ปวงเทพ  องค์ที่ผมคิดว่าสูงที่สุดก็น่าจะเป็น พระนาราย พระพรหม และพระศิวะ ตามด้วย ปางต่างๆที่ท่านทั้ง 3 แยกภาคออกไป
          รองลงมาก็จะเป็น องค์พระแม่ ก็จะเป็น ชายาของ ทั้ง 3 พระองค์ แล้วก็ปางต่างๆ ภาคต่างๆ ของท่าน
          รองลงมาอีกก็เป็น บุตร ของท่าน อ่ะครับ

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกรึปล่าว ถ้าใครทราบหรือคิดว่าไม่ถูกยังไงช่วยแย้งด้วยนะครับจะกรุณามาก เพราะผมก็ไม่ได้รู้จริง ประมาณครูพักลักจำอ่ะครับ

แต่จะบอกอย่างนึงครับว่า ถามกี่ที่ๆ ก็ไม่ค่อยจะเหมือนกันเท่าไหร่  แล้วที่ถูกจริงๆเป็นยังไงกันแน่ เลยตัดสินใจเชื่อความรู้สึกตัวเองอ่ะครับ
 

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ

แต่กิมเอง  ก็เห็นมาหลายความคิดเห็นละ ที่ตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง

แต่ในความเชื่อของตัวเอง  ก็คงจะเป็น พระพุทธเจ้าอยู่สูงสุดค่ะ

รองลงมาคงเป็นพระโพธิสัตว์ค่ะ   ส่วนมหาเทพก็รองลงมาจากพระโพธิสัตว์ค่ะ

ก็คิดว่าคงจะจัดตามแบบนี้ 

แต่ในทางสายฮินดู กิมนับถือพระคเนชเป็นประธานค่ะ

ฉะนั้นหิ้งบูชาของกิม จะต้องมีพระคเนช อยู่เป็นประธานค่ะ

ซึ่งคงจะต้องมีฐานมารองให้อยู่สูงกว่า องค์พระศิวะ และพระแม่ค่ะ

ซึ่งไม่ให้สูงมาก  แต่ให้ดูมีฐานเสริมขึ้นมาด้วย

กิมคิดแบบนี้นะคะ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

   พระโพธิสัตว์ คือผู้ที่รอการตรัสรู้ขึ้นเป็นพระพุทธเจ้า  ตามความเชื่อของทางมหายานนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายพระองค์ เช่น พระโพธิสัตว์กวนอิม  พระโพธิสัตว์ตี่จั๋งอ้วง  พระโพธิสัตว์มัญชุศรี พระโพธิสัตว์ดาราขาว  พระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ ฯลฯ
   ส่วนองค์เทพที่ท่านเอ่ยพระนามมา ทั้งเทพเจ้าไฉซิ่งเอี๊ยะ  เทพกวนอู  เทพนาจา ฯลฯ ท่านทั้งหลายนั้นจะอยู่ในฐานะของเทพเจ้าครับ  หาใช่พระโพธิสัตว์แต่ประการใด

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งคำแนะนำให้ คุณเจ้าของกระทู้นะครับ.....

พระที่คุณเจ้าของกระทู้มีนั้นเป็นพระพุทธรูปของเถรวาท  หรือมหายานครับ  ? 

-  ถ้าเป็นพระพุทธรูปแบบมหายาน เช่น พระอามิตตาพุทธเจ้า  แบบนี้สามารถตั้งรวมกันได้ครับ ไม่มีปัญหาเพราะเป็นคติเดียวกัน แต่ก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องตำแหน่งสูงต่ำอยู่


- แต่ถ้าเป็นพระพุทธรูปแบบเถรวาท  เช่น  พระแก้วมรกต  หลวงพ่อโสธร  แบบนี้ ควรแยกพระโพธิสัตว์กวนอิมออกมาบูชาต่างหาก (สังเกตดีๆนะครับว่าผมใช้คำว่า  ควร  แปลว่า  ถ้าทำได้ก็จะดีมากครับ)  เพราะอะไร ?  เพราะว่า...

1.)  แม้จะเป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน  เป็นคนละคติกัน  ดังนั้นรายละเอียดต่างๆของเถรวาท และมหายาน  ย่อมแตกต่างกัน
2. )  พิธี  และขั้นตอนที่ใช้ในการพุทธาภิเษก ของพระพุทธรูปเถรวาท  และ พระโพธิสัตว์กวนอิม  ย่อมแตกด่างกัน เป็นคนละสายกัน
3. )  คนจีนโบราณ  นิยมที่จะบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิมแยกเป็นเอกเทศมากกว่า บูชาร่วมกับพระพุทธรูป
4. )   ถ้าแยกส่วนหิ้งพระเป็นสัดส่วน  จะทำให้ดูเหมาะสมสวยงาม  สามารถตั้งอยู่ในระดับเดียวกันหมดได้  เพราะว่าเราแยกออกมาเป็นสัดส่วนแล้วนั่นเอง

....อย่างที่บอกไปแล้วนะครับว่า  ถ้าคุณเจ้าของกระทู้สามารถทำได้ก็  ควร  ทำนะครับด้วยเหตุผลที่ผมบอกไป  แต่ถ้าทำไม่ไม่ได้ด้วยข้อจำกัดต่างๆ  เช่น สถานที่ไม่อำนวย  ทิศทางไม่ดี  ก็ยังพออนุโลมให้ตั้งอยู่ร่วมกันได้  แต่ต้องคำนึงถึงข้อบังคับต่างๆให้ดี  เช่น  ตำแหน่งการตั้ง สูงต่ำ อย่างไรครับ !!

เทพ ในความเชื่อมหายาน คือพระโพธิสัตว์แบ่งภาคมา หรือไม่ก็เป็นบริวารของเทพครับ

ในการัณฑวยูหสูตร กล่าวว่ามีสารพัดเทพ พระศิวะ พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี พระแม่สุรัสวดี เยอะแยะ ออกมาจากกายพระอวโลกิเตศวร พระอวโลกิเตศวรบางปาง เช่น ปางพันมือ ในอินเดียไม่มี มีในทิเบต และเขมร

แล้วพระโพธิสัตว์ในคติมหายาน ถืออาวุธของเทพได้ เพราะเชื่อว่าเทพคือบริวารของพระโพธิสัตว์

และฮินดูยุคหลังๆ เอาแนวคิดพุทธไปผสม เช่น ลดความตึงเครียดเรื่องระบบวรรณะ แม้แต่เรื่องการบูชายัญด้วยสิ่งมีชีวิตหรือไม่ก็คน ก็เปลี่ยนมาสอนว่าเป็นบาป

และพุทธยุคหลังๆ ก็เอาแนวคิดฮินดูไปใช้ เพื่อให้พุทธอยู่เหนือฮินดู เช่นการทรงพาหนะต่างๆ เอาพระนามมหาเทพมาเป็นพระนามพระพุทธเจ้า หรือบางปางก็เหยียบเทพฮินดู


นักปราชญ์ย่อมไม่อวดความฉลาดของตน  เกิดเป็นคนไม่ควรดูถูกใครๆ

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#e36c09][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]ชีวิตนี้ขอสู้เพื่อเทวดา  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#92d050][HIGHLIGHT=#ffc000]สุดแล้ว[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffc000]แต่สวรรค์จะบัญชา[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

Quote from: plawan22 on December 20, 2009, 12:59:07
และกระทู้นี้ เห็นได้ชัดว่าบางคนไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ศึกษาข้อมูล และไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวา

555+

ก๊ากๆๆ

ขำโครตๆ  ขำขำ

ไมเป็นคนตรงแบบนี้ง๊ะ

555+

ไม่ขอออกความคิดเห็น

นานาจิตตัง อย่าทะเลาะกันนะจ๊ะ

บุคลิกแต่ละคนย่อมต่างกัน

ยอมรับข้อต่างของแต่ละคนให้ใด้

ครอบครัว HM เจ๋งสุดๆ
Yes, I  Love  HM...       

ขอให้ทำความเข้าใจเบื้องต้นเสียก่อนว่า..
พุทธมหายานนั้น ไม่ว่าลัทธิหรือนิกายใด จะนับถือพระโพธิสัตว์เป็นหลักสำคัญ
เขาไม่ได้ลดความสำคัญของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
แต่ให้ความสำคัญกับพระโพธิสัตว์ต่างๆ มากกว่าพระพุทธเจ้า..
ในฐานะที่ผู้คน สามารถเข้าถึงพระโพธิสัตว์ ได้ง่ายกว่าพระพุทธเจ้า
และยังปาวรนาาตนเป็นผู้ช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งปวง ด้วยปณิธาณฝืนโลก ที่แตกต่าง กันออกไป

และพระโพธิสัตว์ในมหายานบางนิกาย ได้รับเกียรติในบางกรณี สูงกว่าพระพุทธเจ้าเีสียอีก
แต่โดยรวมแล้ว พระโพธิสัตว์จะให้เกียรติแก่พระพุทธเจ้ากว่าตนเองเสมอ
กรุณาอย่าเชื่อคัมภีร์อะไรใดๆ ให้มากนัก เพราะพระสูตรทั้งปวง มนุษย์เป็นผู้แต่ง
ไม่มีใครรู้สภาวะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทิพยภาวะแบบไหน
แต่เมื่อต้องการโปรโมทลัทธิความเชื่อของตน คันภีร์ และพระสูตร จึงกลายเป็นเครื่องมือ
ที่ลัทธิ นิกาย เหล่านั้นใช้ เรียกว่า "ใส่คำพูดลงไปในพระโอสถ์ของพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์" นั่นเอง


ใครเกิดจากใคร ก็เขียนกันไปได้ทั้งนั้น
ขึ้นอยู่กับว่า ต้องการให้ความสำคัญกับบุคคลใดมากเป็นพิเศษ


ขอให้ทำความเข้าใจอีกอย่างว่า คำว่า "พระโพธิสัตว์" แบบแถรวาท และมหายาน นั้น ต่างกัน
มีวิถีการบรรลุธรรม หรือเป้าหมาย ที่ต่างกัน...เพียงแต่มีบางส่วนคล้ายกัน

พระโพธิสัตว์ของเถรวาท เป็นผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อต้องการเป็นพระพุทธเจ้า ประเภทใดประเภทหนึ่ง
การโปรดสัตว์๋ มีความจำกันบางประการ เช่น โปรดได้เฉพาะผู้เคยร่วมบารมีกันมาเท่านั้น
หากนอกนั้น ต้องอาศัยว่า สัตว์เหล่านั้น เคยมีบารมีกับสาวกของท่านมาหรือไม่ ก็โปรดต่อๆ กันไป
เมื่อทรงตั้งศาสนาแล้ว หมดอายุของพระศาสนา ก็จบหน้าที่

ส่วนพระโพธิสัตว์ของมหายาน มักเกิดจากพระญาณของพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นส่วนใหญ่
บางพระองค์ ไม่เคยเป็นมนุษย์เลยก็มี.. แต่ส่วนใหญ่ ก็มาเกิด หรือแบ่งภาค หรืออณูมาบำเพ็ญ ในลักษณะต่างๆ
พระโพธิสัตว์เหล่านี้ จะตั้งปณิธานฝืนโลก คนละข้อ...เป็นอย่างน้อย
เช่น จะโปรดสรรพสัตว์ จนกว่าจะหมดโลก  จะโปรดสรรพสัตว์ จนหมดขุมนรก
จะอาราธนาธรรม ขอให้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์โปรดสรรพสัตว์ และขอฟังธรรมจากรพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
อย่างนี้แล้ว หน้าที่ของพระโพธิสัตว์เหล่านี้ จึงไม่มีวันจบสิ้น เพราะสิ่งที่ตั้งเอาไว้ เป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมด หรือจบ

ยิ่งกว่านั้น พระโพธิสัตว์ของมหายาน ไม่ปารถนาเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือลงมาตั้งพระศาสนา
แต่ปารถนาช่วยเหลือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ไม่จำกัดว่า จะอยู่ในขอบอายุของพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดหรือไม่
ดังนั้น พระโพธิสัตว์เหล่าี้นี้ จึงอยู่ยั้งยืนยง ผ่านกาลเวลาของพระพุทธเจ้ามาแล้วนับพระองค์ไม่ถ้วน ก็อาจมีได้

แต่ก็มีปรากฏในพระสูตรเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าของมหายาน
กล่าวถึงปณิธานของพระพุทธเจ้าเฉพาะพระองค์ ว่า เมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์นั้น ทำอะไร อย่างไร มาบ้าง
แต่ก็ส่งเสริมให้สาธุชน บำเพ็ญโพธิสัตว์จริยา มากกว่าอย่างอื่น...

นอกจากนั้น ในแนวคิดแบบมหายานยัง มี "พุทธเกษตร" เป็นล้านๆ ประมาณมิได้ ยิ่งกว่าเมล็ดทรายในมหาคงคานที
อันเป็นแดนของพระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ จะใช้โปรดสรรถสัตว์ ให้ไปเกิด ณ พุทธเกษตรนั้นๆ
ตามแต่ลักษณะการบำเพ็ญบารมี และความตั้งใจของสัตว์นั้นๆ จึงเป็นสิ่งที่เกินเถรวาท ออกไป

ถามว่า การตั้งบูชารวมกันได้ไหน ตอบว่าได้...
อย่างรูปที่เห็นในรีข้างบน หากนับถือพระโพธิสัตว์เป็นหลักมากกว่าพระพุทธ ก็ถือว่า ไม่ผิด
แต่หากนับถือพระพุทธสูงกว่าพระโพธิสัตว์ ก็ถือว่า ไม่เหมาะ ควรแยกพระกวนอิมองค์ใหญ่ ออกไปต่างหาก
แต่หากเป็นไปได้ ก็ควรตั้งแยก ตามลัทธิ นิกาย เพื่อความเหมาุะสม
ทั้งการสัการะ การถวายของบูชา และความสบายใจ

พระโพธิสัตว์ ทุกลัทธินิกาย จะไม่ยืนค้ำพระเศียรของพระพุทธเจ้า
แม้ลัทธิ นิกายนั้นๆ จะถือพระโพธิส้ัตว์เป็นใหญ่ รูปเคารพ ก็จะให้มีพระพุทูเจ้าลอยอยู่ด้านบน
แสดงว่า เป็นสาวก หรืออยู่ในมณฑล มันดาลา ของพระพุทธเจ้าพระองค์ใด
แต่รูปใหญ่ คือ พระโพธิสัตว์พระองค์นั้นๆ ..

มีเพียงกรณีเดียว ที่นำรูปพระโพธิสัตว์ประดิษฐานไว้เหนือเศียรของพระพุทธได้ ก็คือ
พระโพธิสัตว์พระองค์นั้นๆ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์ประเภท "พระอุษณีย์"
คือ ทรงกำเนิดจากรัสมี ของโหนกหน้าผาก
ที่ปัจจุบัน นิยมทำเป็นมุ่นไว้กลางพระเศียรของพระพุทธรูป....
ด้วยกำเนิด เกิดมาก็เกิดจากรัสมีที่อยู่เหนือพระเศียรอยู่แล้ว จึงให้ประดิษฐานไว้เหนือพระเศียร
ของพระพุทธรูปได้..เพียงกรณีเดียว นอกนั้น ไม่ว่าพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหน
ก็ต้องประดิษฐานไว้ต่ำกว่าพระพุทธเจ้า

และกรุณาอย่ายึดเอาอาวุธต่างๆ ของพระโพธิสัตว์เป็นสำคัญ
เนื่องจากพระโพธิสัตว์ ถึงจะเป็นฝ่ายปราบ ก็จะไม่มีจิตเข่นฆ่าใคร
หากต้องใช้บารมี ก็จะใช้เมตตาบารมีก่อน หากต้องใช้กำลัง ก็จะไม่ฆ่าไม่แกง
อย่างมาก็จองจำ ให้บำเพ็ญ หรือสำนึกผิด..

ดังนั้น อยากให้ท่านถืออะไร มนุษย์ก็ใส่เข้าไปในมือท่านเข้าไปได้ทั้งนั้น...!!!
ทั้งสื่อถึงปริศนาธรรม อำนาจ หน้าที่ และความนิยมตามยุคสมัย

ดังนั้น ความเชื่อว่า พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมา จึงยังคลุมเครือ
ด้วยลักษณะการบำเพ็ญบารมีของเทพ และของพระโพธิสัตว์นั้น แตกต่างกัน...
แต่พื้นฐานบางอย่าง อาจเหมือนกันบ้าง เช่น พรหมวิหารสี่ หรือการเจริญสมถะบางอย่าง
และโดยหน้าที่ ก็ต้องช่วยเหลือมนุษย์ เช่นเดียวกัน แต่อาจด้วยวิธี หรือแนวทางที่แตกต่างกัน

เทพ จะฆ่าอสูร ขว้างหอกไปปักอก ตายคาที่ ก็ทำได้ และถือว่า เป็นหน้าที่ที่้ต้องกระทำ
ถึงจะมีเมตตา แต่ด้วยหน้าที่ และการหักล้างพลังงานบวก และลบ ก็ต้องปฏิบัติ
แต่ก็ถือว่า "สร้างกรรม" อย่างไรก็ดีกรรมนั้น เป็นไปเพื่อความสงบสุข เป็นต้น...
ผลของกรรม จึงต้องมีให้แก้ไขกันอยู่เรื่อยไป

แต่พระโพธิสัตว์ จะไม่กระทำการอันเป็นการเข่นฆ่าสรรพชีวิต
ถึงจะเป็นพระโพธิสัตว์ฝ่ายปราบ หากต้องกระทำการทำลายชีวิตใคร ก็ต้องพิจารณาแล้ว
ว่าจนจักต้องเสวยผลของกรรมวิบากนั้น แน่นอน...และปลงใจเสียก่อน แต่ก็แทบไม่ปรากฏเลย
เพราะหากเป็นการสังหารชีวิตขนาดนั้น ท่านมักไม่ลงมือเอง แต่เป็นหน้าที่ของเทพที่มีหน้าที่ในกรณีนั้นๆ
ดังนั้นแล้ว หน้าที่ของเทพ พรหม และพระโพธิสัตว์ จึงแตกต่างกัน อันนี้เป็นตัวอย่าง

ด้วยพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ ย่อมมีความเมตตา มากล้น ยอมรับกรรมของสรรพสัตว์ทั้งปวง
บางคนบอกผมว่า อันนี้อาจคล้ายกับพระเยซู
แต่ พระเยซู ไม่มีจริยาในการบำเพ็ญบารมี 30 ทัส
เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ของหินยาน หรือมหายาน..
ท่านก็ดำเนินตามแบบของท่าน มีหลักการปฏิบัติ คำสอน และศาสนาของท่านเอง
ถือว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ คล้ายคลึงกันเท่านั้น

ดังนั้น หากมองโดยภาพรวม พื้นฐานของศาสนาหลักๆ ของโลก
จะเห็นว่า ขอบข่ายของศีล 5 และเมตตาธรรม มีอยู่ในทุกศาสนาหลักๆ

และไม่น่าแปลกใจ ในลัทธิมหายาน ที่ต้องการเผยแผ่อิทธิพลเหนือดินแดนที่นับถือฮินดู และผีสางมาก่อน
ที่เทพ พรหม ฮินดู อาจหันมาปฏิบัตตน เป็นโพธิสัตว์ ด้วยอยากหลุดพ้น ตามแบบพุทธ
หรือเพื่อชำระอณู และกรรมของตน ให้หมดจด ตามวิถีพุทธ ก็อาจเป็นได้
ดังนั้น เทพเจ้าทั้งหลายฝ่ายฮินดู จึงถูกปรับเข้ามาเป็นพระโพธิสัตว์ธรรมบาล ในพุทธมหายาน มากมาย

อย่างไรก็ดี แม้ว่าพระโพธิสัตว์แบบมหายาน โดยปรกติ จะนับถือ และเคารพพระพุทธเจ้า
แต่ด้วยความต้องการ (ของคน) ที่จะยกพระโพธิสัตว์ให้สำคัญกว่าพระพุทธเจ้า
พระพุทเจ้าของมหายาน จึงไม่ถือเป็นที่สุด...แห่งการบรรลุธรรม
พระพูทธเจ้าของมหายาน ทั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจะเจกพุทธเจ้า ทุกประเภท
ก็ยังลงมาเกิดใหม่ เพื่อเป็น "พระโพธิสัตว์" ได้อีก...
โดยอาจแบ่งภาค หรือลงมาเกิดหมดทั้งองค์ (จิตทั้งหมด) ก็ได้..

อันนี้ ผมก็งงๆ ว่า เช่นนั้นแล้ว การบรรลุธรรมสูงสุด จะหลุดพ้นจากวัฏฏะ ได้อย่างไร
เพราะขนาดเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ยังต้องมาเกิดใหม่ เป็นพระโพธิสัตว์อีก
เหมือนกับ Game Over แล้วกด Start ใหม่อีก ร่ำไป..แต่เขาบอกว่า เป็น "พระมหากรุณา"
แต่หากเป็นผู้หมดกิเลสแล้ว แม้แต่ เมตตา-กรุณา อันเป็นลักษณะหนึ่งของธรรมฝ่ายกุศล
ก็ต้องเคลียร์หมด..เมื่อนิพพาน เพราะไม่ว่าจะเป็นธรรมฝ่ายกุศล หรือ ธรรมฝ่ายอกุศล ก็ยังถือเป็นสิ่งคู่
ธรรมทั้งปวงเป็น อนัตตา ยึดถือมิได้ (ให้ปล่อยวาง)...นั่นเอง (อันนี้ ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

แต่ก็เป็นแนวคิด ที่ผู้ที่นับถือพระโพธิสัตว์แบบสุดๆ เอาไว้ยกข่ม พุทธศาสนา นิกายอื่น...
ซึ่งผมเองก็เคยได้ยินมากับตนเอง เช่น บอกว่า พระพุทธเจ้าที่เธอนับถือ เป็นพระพุทธเจ้าชาติเดียว
แต่พระโพธิสัตว์ที่ฉันนับถือ เป็นพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายหน (เหมือนจะบอกว่า แก่รอบการเป็นพระพุทธเจ้า
และมีบารมีทับถมหลายครั้งหลายหน) ปัจจุบันก็เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นต้น
ผมก็ไม่เห็นประโยชน์จะเีถียงเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่หลักธรรมใดๆ เลย เป็นเพียง "คติ" เฉพาะกลุ่ม เท่านั้น

ส่วนนิกายวัชรยาน เขามีแบบฉบับของเขาโดยเฉพาะ เท่าที่ทราบ ก็มีหลักสูตรชัดเจน
หากจะศึกษาจริงๆ ต้องเข้าใจให้ลึกซึ้งถึงข้อวัตรปฏิบัติ อย่างเคร่งครัดเสียก่อน
อย่านับถือพระโพธิสัตว์องค์ใด เนื่องด้วยเห็นเพียงรูปปั้น รูปเครพ แล้วรู้สึกว่า "แรง" ถูกจริตของตน
เพราะอาจมีผลเสีย มากกว่าผลดี.. หรืแม้แต่บทสวดบางบท ก็ถือว่าสวดในบ้านไม่ได้ ต้อสวดกลางแจ้ง
เป็นต้น

พระโพธิสัตว์บางพระองค์ อาจยังมีจริตพื้นฐาน "แรง" และชอบใช้ฤทธิ์ ด้วยมาจากเทพ หรือ มาร
การบูชา การเชื่อมต่อ การปฏิบัติเพื่อการเข้าถึง และผนวก เป็นหนึ่งเดียวกับพระโพธิสัตว์เหล่านั้น
จึงถือว่า เป็นเรื่องที่ครูอาจารย์ ต้องใช้เวลาพิจาณาอย่างน้อย 5 ปี เพื่อดูจริตของศิษย์
ตามแนวทางของวัชรยาน นี่เอง อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ลับ" ของเฉพาะบุคคล
เพราะบุคคลนั้นๆ อาจต้องฝึกแบบนั้นๆ จึงบรรลุ ก็เป็นได้...ไม่ใช่ใช้ได้กับทุกคน

ดังนั้น พระโพธิสัตว์ของวัชรญาณจะมีหลายแบบ หลายจริต
แต่จริตกลาง คือ "เมตตา" ตุ่อทุกสรรพสัตว์ ก็มีอยู่หลายพระองค์ที่อนุญาตให้ทุกคนบูชา และเข้าถึงได้
เช่นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (วัชรยานไม่มี "กวนอิม") พระตาราบางปาง เป็นต้น
จึงมีคนฝึกเพื่อเข้าถึง (ไม่ใช่เข้าทรง) คุณธรรม และกระแสธรรม ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร มากกว่าพระองค์อื่น
เหมือนกับว่า ท่านเป็นคนช่วยพายเรือ ส่งเราให้ถึงฝั่งนั่นเอง...

ส่วน "กวนอิม" นั้น วัชรยานถือว่า เป็นภาคหรือปางหนึ่งของพระตาราเขียวโพธิสัตว์ (พระตารามีหลายสี หลายปาง หลายองค์)
และบางลัทธิย่อยของวัชรยาน ก็ถือว่า พระนางตาราโพธิสัตว์ กำเนิดจากน้ำตาของพระอวโลกิเตศวร
ที่หลั่งออกมาด้วยเมตตาสงสารสรรพสัตว์ นั่นเอง และมีบางความเชื่อกล่าวว่า น้ำตาของกวนอิม เกิดเป็นแม่คงคา
อันนี้ จะเห็นว่า เป็นลักษณะการให้ความสำคัญของบุคคล เป็นสำคัญ

ถึงแม้ วัชร ที่แปลว่า "สายฟ้า" จะหมายถึง "การบรรลุ ถึงปัญญา โดยฉับพลัน เร็วเหมือนสายฟ้าแลบ"
แต่ก็ไม่ควรเอามาข่มคนอื่น ลัทธินิกายอื่น ว่า ด้วยกว่า ไม่แข็งแกร่ง และรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
เพราะสรรพสัตว์ มีจริตมากมาย บางคนเรียนเร็ว บรรลุเร็ว บางคนเรียนช้า ก็บรรลุปริญญาเดียวกัน
หากเอาคนเรียนช้า ไปเรียนหลักสูตรเร็ว มันก็ไม่ได้ผล เอาคนหัวเร็ว ไปเรียนหลักสูตรช้า ก็เปล่าประโชยน์

บางคนจำตำราได้มาก พิจรณาแยบคายแล้ว จึงบรรลุตามขั้นตอน ก็มี
บางคน ไม่ชอบจำตำรา แต่เป็นคนช่างสังเกตุ มีสติว่องไว เป็นกลาง อาจบรรลุธรรมได้เร็ว ก็มี

หากจะกล่าวถึงการบรรลุธรรมเร็ว ในเถวรวาทก็มี...ในเซ็น ก็มี
และพระพุทธเจ้า ก็เป็นครู ที่ไม่ "อมความรู้" ไม่มีอะไร "ลับ" ในพระพุทธศาสนา

แต่พอมี "ลัทธิ นิกาย ลับ" ขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์เริ่มต้นบางประการ ขึ้นอยู่กับจริตของคน
ก็เลยกลายเป็น "ความลับ" เหมือนเคล็ดวิชาลับในหนังจีน ต้องอยู่กับอาจารย์นานๆ และถ่ายทอดวิชากันแบบลับๆ
สร้างความน่าค้นหา เนื่องด้วยไม่ใช่พระพุทธศาสนาบริสุทธิ์ แต่เจือด้วยลัทธิ นิกายอื่น นอกพระพุทธศาสนา
แต่ก็จำเป็นต้องให้เจือ เพราะต้องการเผยแพร่หลักคำสอน ในแหล่งชุมชนวัฒนธรรมนั้นๆ

พอมาชั้นหลัง จึงแปรเปลี่ยนไป... และเป็นสิ่งที่เอามาพยายามล้มล้าง ว่า ลัทธิของตน ดีเด่นกว่าลัทธิอื่น
เพราะมีอะไร "ลับ สุดยอด"  ก็มีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน รหัสมือก็ลับ บทสวด หรือบริกรรมบางอย่าง ก็ลับ เป็นต้น

บางคนอาจอ้างว่า ก็ไปอ่านตำรามา เขาเขียนไว้ว่า พระพุทธเจ้า ทรงสอนรหัสมือ (มุทรา)
ให้กับพระเถระบางองค์ แล้วก็สืบต่อกันมา...
อันนี้ ต่อให้คนเขียนตำรา หรือคัมภีร์เอง ผมก็ไม่แน่ใจว่าเห็นกับตา หรือได้ยินกับหูหรือไม่
หากแต่หรัสมือนั้น อาจใช้โปรดสรรพสัตว์ได้จริง ก็เป็นเรื่องน่าอนุโมทนา
ดีกว่าปัจจุบัน ที่มักนิยมชมชอบว่า ใครรำมือ (แสดงรหัสมุทรา) ได้งดงาม มีลีลาดีกว่ากัน แต่โดยถ่ายเดียว

จะเชื่ออะไร ก็ยึดหลัก กาลามสูตร จะดีกว่านะครับ

ดังนั้น เรื่องลัทธิ นิกาย จึงไม่ควรเป็นเรื่องที่เอามาข่มกัน ดังเช่นในปัจจุบัน

การตั้งรูปเคารพ สมควรพิจาณาให้ดี
เรานับถือลัทธิ นิกายใด เป็นหลัก
การตั้งรูปเคารพของเรา ควรมีพระองค์ใดบ้าง เพราะอะไร
ด้วยเหตุปัจจัยของแต่ละคนแตกต่างกัน จึงฟันธงไม่ได้ว่า แบบไหนถูก หรือผิด

"ตั้งหลัก" ใ้ห้ได้ก่อน ศึกษาให้ถ้วนถี่
อย่าตามกระแส หรืิอเพราะ "ฉันชอบ แรงดี"
หรือ "บูชาแล้วเฮ็ง แน่ๆ" (ใครจะมาการันตี ใ้ห้เหรอครับ)
แต่ควรศึกษาให้เคลียร์ๆ ถึงที่มาที่ไป ความเหมาะสมกับภาวะตนเอง

จะบูชาอะไร องค์ไหน เพื่ออะไร เพราะอะไร อย่างไร
ถ้าตอบคำถามเหล่านี้ได้เคลียร์หมดแล้ว
เชื่อว่า แค่วิธีจัดโต๊ะหมูู่บูชา ก็คงไม่เป็นปัญหาหรอกครับ

-*-   .............. 



เป็นกระทู้ที่น่าติดตาม มากคร้ัาฟ กระทู้ที่เกี่ยวกับหิ้ง เนี่ย


แต่ละครั้งจะได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะ เรยย ทีเดวววว

ตั้งหิ้งตามไหนก็ตั้งไปเถอะครับ อย่าทะเลาะกัน นับถืออะไรมากกว่าก็เอาองค์นั้นไว้สุงสุด

คุณเป็นพุทธ ก็เอาพระพุทธไว้สูงสุด แล้วที่เหลือก็ตามแต่ทรรศนะส่วนตัว ส่วนจะตั้งรวมกับเทพก็ได้นะครับ ถ้าคุณมองว่าทุกองค์คือ ความดี

ส่วนถ้าคุณเป็นฮินดู ก็ต้องเอาเทพฮินดูขึ้นสูงสุด แล้วตามด้วยพระพุทธ เพราะเขาว่าพระพุทธเราคืออวตารหนึ่งของพระวิษณุ

ส่วนเรื่องเทพกับโพธิสัตว์นั้น ถ้าศึกษาลงไปลึกๆ จะเห็นว่าเริ่มจากการข่มกันของศาสนาพุทธมหายานกับทางศาสนาฮินดู เพื่อให้ศาสนาอยู่รอด

สรุปคนทั้งนั้นแหละครับที่กำหนดพระเจ้า พระเจ้าท่านไม่เคยมายุ่งเรื่องพวกนี้หรอก


บัวมี 4 เหล่านะครับต้องเข้าใจ ภูมิคนไม่เท่ากัน มองต่างมุมกันไปบ้างก็เป็นสีสรรของโลกเราดี แต่ต้องมองต่างมุมแบบไม่ทะเลาะกันนะครับ

อย่างแบบเซนกล่าวว่า "เจอพระพุทธเจ้าที่ไหน ให้ฆ่าทิ้ง" คนธรรมดาฟังแล้ว เอมันพูดได้ไงหว่า บาปกรรม

แต่คนมีปัญญาฟังแล้วจะรู้ว่า ถ้าเรายังยึดรูปลักษณ์อยู่ ย่อมเท่ากับเราไม่เคยยึดพระธรรมเลย ที่กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นสูญตา

หรือ จะพูดอย่างฮินดู ก็ต้องยืมเรื่องใน นรสิงหาวตารมากล่าว ที่ประหลาทตอบบิดา (หิรัณยากศิปุ) ที่ถามว่า ที่ตรงนั้นตรงนี้มีพระเจ้าไหม ประหลาทก็ตอบว่า มีหมดทุกที่ ในสัตว์ก็มี ในหิรัณยากศิปุก็มี แล้วพระเจ้าอยู่ตรงไหนลห่ะครับ ที่ใดที่แสดงแดดส่งอถึง ที่ใดสายลมเคลื่อนไหว ที่นั่นมีพระเจ้าหมด แล้วอย่างนี้จะทะเลาะเรื่องแค่วางหิ้งกันทำไม

จำไว้นะครับ "สัจจะมีหนึ่งเดียว แต่หนทางเข้าสู่มีหลากหลาย" ดังนั้นเราจึงเห้นต่างกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

สาธุค่ะ ท่านกาลปุตรา เห็นด้วยอ่ะค่ะ กับคำตอบ 
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


คำว่า "เจอพระพุทธเจ้่าที่ไหน ให้่ฆ่าทิ้ง"...
ตามที่ผมเข้าใจ จากคำสอนของครูอาจารย์สายพระป่า
ไม่ได้มุ่งถึงการมุ่งเน้นถึงสิ่งที่รูปลักษณ์ภายนอก เช่น พระพุทธรูป
แต่มุ่งเน้นที่จะกล่าวถึง "ภาวะของใจ หรือจิต" ในฐานะที่เป็น "จิตผู้รู้" ว่า

"ความเป็น" พุทธะ คือ "จิตผู้รู้" นั้น เปรียบเหมือนเป็นพระพุทธเจ้า
เพราะยังสังวรเสมอว่า "มี" จิตผู้รู้ อยู่

อันเป็นสิ่งที่แม้แต่พระอนาคามี หรือ พระโพธิสัตว์ชั้นสูง ยัง"ยึด"อยู่
เป็นสิ่งสุดท้าย ที่ต้องละ (สลัด) ออกให้ได้
จึงจะตัดสังโยชน์ 5 ประการสุดท้าย ออกไปพร้อมกันหมด
บรรลุซึ่ง อรหัตผล นั่นเอง

คือ แม้แต่จิต ของตนเอง ก็เห็นว่า เป็น อนัตตา ไม่ "ยึด"อีกต่อไป
สลัดคืน ความยึดมั่นนี้ได้ ก็จบกัน

เปรียบเหมือนละ "ความเป็น" พุทธะ (หรือ "ผู้รู้" - พระพุทธเจ้า)
ได้นั่นเอง แต่เขาใช้คำพูดว่า "ให้ฆ่าทิ้ง" ซึ่งโดยนัยะ ก็คือ
"ทำลาย" หรือ "ละ" หรือ "สลัดทิ้ง" นั่นเอง

มิใช่ตั้งใจจะบอกเพียง "รูปลักษณ์" ภายนอก เท่านั้น

ขอตอบแต่เรื่อง กวนอิม กับ อุมา นะคะ เพราะเห็นมาพักนึงแล้วค่ะ ลัทธิยำรวมศาสนาเนี่ย

ลองคิดดูนะคะ

กวนอิม เปนพระโพธิสัตว์ คือผู้ที่กำลังจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ฉนั้นแล้ว กวนอิมจะเป็น สตรี ไม่ได้ เพราะว่า ผู้ที่สามารถตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้นั่นคือ "บุรุษเพศเท่านั้น"

ในสมัยก่อน ประเทศจีน ชาวบ้านนับถือเต๋า แต่กษัตริย์ เป็นมหายาน ฉนั้นจึงจำเป็นต้องกลืนเทพเต๋า ให้เข้ากับมหายาน ฉนั้น จะมีจีนที่เดียวเท่านั้น ที่ จะมี เทพเจ้าต่างๆ เซียนต่างๆ ร่วมบูชาในวัดมหายานแบบจีน

ส่วนอุมา ก็ไม่ต้องพูดมาก เพราะรู้อยู่ว่าใครเป็นใคร จำได้ว่า ในปุราณะ ไม่เคยได้ยินว่า ดูริก้า แบ่งภาคมาเป็นกวนอิม เหมือนกัน

ฉนั้น อุมา จะเป็นกวนอิมไมไ่ด้ เพราะว่า นอกจากคนละศาสนา คนละความเชื่อ คนละฐานะแล้ว ยังคนละเพศอีกด้วย

ฉนั้น เทวรูป เจ้าแม่ อุอิม หรือ กวนมา 555555555555+ ที่เห็นๆกัน ดิชั้นว่า คงเป็น กะเทย

ปล. ไม่ได้ลบหลู่ประการใด เพราะดิชั้นไม่ถือว่าเปนเทวรูปด้วยซ้ำ ผิดหลักปกรณ์ และศาสนา ถือว่าเปนสิ่งของนอกศาสนา
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]

แล้วหนังสือจะวางตลาดเมื่อไหร่อะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ง่ายที่สุดคือแยกตามคติเลยครับ เทพอยู่เทพ พระอยู่พระ ฯลฯ จะได้ไม่ต้องมากังวลเพราะที่บ้านผมจัดแบบนั้น ถ้ายังมีปัญหาเรื่องลำดับชั้นก็ตั้งเสมอกันให้หมดครับ และองค์ประธานไว้ตรงกลาง(ต้องใหญ่ที่สุดในหิ้ง หรืออาจหาตั่งมาตั้งให้สูงกว่าองค์อื่น)

ไม่ได้มาแวะเวียนครอบครัวนี้ซะนาน

ขอบคุณทุกความคิดเห็น และคำแนะนำค่ะ

..............
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

Quote from: ตรีศังกุ on December 20, 2009, 12:59:07
และกระทู้นี้ เห็นได้ชัดว่าบางคนไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ศึกษาข้อมูล และไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวา



แรงงงงงงงงง.........
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

ถ้าผมพูดแรงไป ขอโทษคุณคิมด้วยนะครับ

ขอโทษจากใจจริง


ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ

ที่เม้นแซว ว่าแรงง น่ะ คือแซว เฉยๆ ค่า ไม่มีอะไรเลยย

[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

เมือ ตะกี้ นั่ง เครียดๆ อยู่ พอมาอ่าน กระทูนี้ ทุก ๆข้อความที่โพสต์


ค่อย หาย เครียด หน่อย ยิ้ม ออก แระ ไชโย.......



หนูกิมจ๋า คงได้แนวทางในการจัดตั้งที่ถูกใจหนูไปบ้างแล้ว ศรัทธาอันแรงกล้า หาได้แบ่งแยกศาสนา หรือลัทธิไม่ หากศรัทธานั้น นำมาซึ่งความสุขสงบ ภายในจิตใจของผู้ปฎิบัติเอง เห็นมะ คนที่บ้านHMของเรา ยังคงรักกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม สุดท้าย ก็จบด้วยดีจ้า........นี่แหละ บ้านHM ที่อบอุ่นที่สุดของเรา

ค่ะ  พี่หญิง  พอได้แนวทางแล้วค่ะ

ครอบครัวนี้ยังอบอุ่นและเหนียวแน่นเหมือนเดิมจิงๆๆ


หายไปแล้วกลับมาอีกครั้ง ทุกคนยังน่ารักเหมือนเดิมค่า...
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

-*-

อ่านกี่ครั้งกี่ครั้ง ก้ ไม่เบื่อ เรย กระทุ้ เรื่องหิ้ง เนี่ย