อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 00:32:37 » |
|
เนื่องในวโรกาสวันฉัตรมงคล และครบรอบ ๖๐ ปี แห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ กระผมนาย อักษรชนนี จึงขออนุญาตเรียบเรียงและนำเสนอบทความเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย" เพื่อเป็นเครื่องรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกอันประเสริฐ ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย .
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 00:35:01 » |
|
บทความเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง . "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย" . . . . “.....ในเมืองไทยนี้ใครจะถือปฏิบัติตามศาสนาใดก็ได้ทั้งนั้น เคยชี้แจงอยู่เสมอว่า เมืองไทยนี้อยู่ได้ก็เพราะไม่มีการกีดกันระหว่างคนศาสนาโน้น คนศาสนานี้ แต่ว่าเป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกคนปฏิบัติศาสนกิจของตนๆ ด้วยความมุ่งดีหวังดี ตั้งใจที่จะให้เกิดประโยชน์ตนและประโยชน์ส่วนรวม ศาสนาทุกศาสนาจึงใช้ได้ทั้งนั้น ขอเพียงอย่าให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน.....” . . ความในพระราชดำรัสตอนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่ผู้แทนองค์การศาสนาและผู้แทนสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาผกาภิรมย์ วันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๒ แสดงให้เห็นถึงความเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงอุปภัมภ์ศาสนาทุกศาสนาในพระราชอาณาจักรไทย ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นปกติสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภาร โดยมิได้แบ่งแยกว่าเป็นคนเชื้อชาติใด ศาสนาไหน ซึ่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถือเป็นอีกศาสนาหนึ่งที่มีความเก่าแก่ และอยู่คู่ประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการส่งเสริม และอุปถัมภ์กิจการของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทยด้วยดีเสมอมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 01:16:11 » |
|
๑.พระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการและศาสนิกชนในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู . นับแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้รื้อฟื้นบางพระราชพิธีที่มีความเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (ซึ่งถูกยกเลิกไปหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง) และโปรดเกล้าฯให้พราหมณ์เป็นผู้มีบทบาทในการประกอบพระราชพิธีและพิธีสำคัญของบ้านเมือง รวมทั้งในพระราชสำนัก อาทิ . - พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระราชพิธีสถาปนาพระมหากษัตริย์ขึ้นเป็นสมมติเทพปกครองแผ่นดิน เป็นใหญ่ในทิศทั้งแปด และเป็นการประกาศให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน ตามคติพราหมณ์จะประกอบพิธีอัญเชิญพระเป็นเจ้า เพื่อทำการสถาปนาให้พระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทพ ดำรงธรรมสิบประการ ปกครองประเทศด้วยความร่มเย็นเป็นสุข . .(พระราชครูฯถวายน้ำอภิเษกแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพร) . .(พระราชครูฯถวายพระมหาพิชัยมงกุฏแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ) . - พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา เป็นพิธีสาบานตนในการรับราชการว่าจะซื่อตรงต่อแผ่นดิน และปกป้องชาติบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุข โดยบรรดาข้าราชการจะต้องดื่มน้ำสาบานตน จำเพาะพระพักตร์พระมหากษัตริย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ซึ่งพราหมณ์จะประกอบพิธีเสกน้ำสาบานด้วยการอ่านโองการแช่งน้ำ แล้วนำพระแสงศาสตราวุธต่างๆ ของพระมหากษัตริย์ลงชุบในน้ำที่เสกนั้น เพื่อหมายให้ผู้ที่ไม่ซื่อตรงต่อแผ่นดินและองค์พระมหากษัตริย์ได้รับโทษทัณฑ์ต่างๆนานา สำหรับในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกอบพระราชพิธีนี้รวมกับการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี (เฉพาะบุคคลที่ได้รับพระราชทาน) . .(พระราชครูฯอ่านโองการแช่งน้ำ) . .(พระราชครูฯเชิญพระแสงศรแทงน้ำพระพิพัฒน์สัตยา) . - พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชนพปฏลมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชาภิเษกขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในพระราชพิธีนี้พราหมณ์จะเป็นผู้อ่านประกาศการพระราชพิธี รวมทั้งประกอบพิธีเบิกแว่นเวียนเทียมสมโภชนพปฏลมหาเศวตฉัตร และเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ . .(พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีฉัตรมงคล) . - พระราชพิธีพืชมงคล-จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพระราชพิธีที่มีสองพิธีต่อเนื่องกัน ได้แก่ พระราชพิธีพืชมงคล อันเป็นพิธีสงฆ์ ประกอบพิธีภาพในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ อันเป็นพิธีพราหมณ์ ประกอบพิธีที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยพระราชพิธีพืชมงคล-จรดพระนังคัลแรกนาขวัญนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจุบันทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้รื้อฟื้นขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ถูกยกเลิกไปเมื่อครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่พืชพันธ์ธัญญาหารและบำรุงขวัญให้กำลังใจแก่พสกนิกรของพระองค์ . . (เทวรูปพระเป็นเจ้าภายในโรงพิธีพราหมณ์ของพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ) . .(พราหมณ์นำหน้าขบวนแรกนาในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ) . - พระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย เป็นสองพิธีต่อกัน คือ พิธีตรียัมปวาย (พิธีรับพระอิศวร) กับพิธีตรีปวาย (พิธีรับพระนารายณ์ ประกอบพิธีในเดือนยี่ของทุกปี เป็นเวลา ๑๕ วัน ในพระราชพิธีนี้พราหมณ์จะทำการอ่านโศลกสรรเสริญ ถวายข้าวตอกดอกไม้ ผลไม้ต่างๆแด่พระเป็นเจ้า การถวายของเหล่านี้เป็นทางหนึ่งที่จะพิจารณาว่า เป็นพิธีซึ่งรับกับพิธีแรกนาขวัญ ที่มีการขอพรให้พืชพันธุ์ธัญญาหารในประเทศอุดมสมบูรณ์ อันเป็นประโยชน์แก่มนุษย์และบ้านเมือง ซึ่งตอนนั้นเป็นฤดูแห่งการหว่านพืชเพาะปลูก และในพิธีตรียัมปวายนี้ เป็นเวลาถึงฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว เราจึงถวายของเป็นการสำนึกในพระคุณหรือขอบคุณพระเป็นเจ้าที่ได้ทรงมีเมตตากรุณา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่คณะพราหมณ์สำหรับนำมาใช้ในการประกอบพระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย ทั้งยังทรงพระกรุณาธิคุณในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงเจิมเทวรูปหลวงเพื่อพระราชทานมาเข้าร่วมในพระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวายเป็นประจำทุกปี (ในบางปีที่มิได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนี้ด้วยพระองค์เอง ก็จะโปรดเกล้าให้ผู้แทนพระองค์ในการประกอบพระราชกรณียกิจแทน) . .(พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจิมเทวรูปหลวงเพื่อพระราชทานเข้าร่วมในพระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย) . .(พราหมณ์ยกอุลุปเครื่องพิธีในพระราชพิธีตรียัมปวายถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งรับพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 02:15:06 » |
|
พระราชพิธีที่นำมากล่าวในข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญกับพราหมณ์ ในฐานะผู้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่พระราชวงศ์และประเทศชาติบ้านเมือง เพราะยังมีอีกหลายพระราชพิธีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พราหมณ์เป็นผู้ทำหน้าหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในประกอบพิธี เช่น พระราชพิธีสมโภช ๓ วัน และสมโภชเดือน ขึ้นพระอู่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกเธอ และพระเจ้าหลานเธอฯ พระราชพิธีบวงสรวงเทพยดาและสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราช และพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น . .(พราหมณ์ประกอบพิธีสมโภชเดือนขึ้นพระอู่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒) . . .(พระราชครูวามเทพมุนีอ่านโองการบวงสรวงเทพยดาและสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พ.ศ.๒๕๔๙) . . (พราหมณ์เบิกแว่นเทียนในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี พ.ศ.๒๕๕๒) . . (พระราชครูวามเทพมุนีเจิมพระกรัณฑ์ทองคำลงยาที่บรรจุดวงพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 02:57:36 » |
|
นอกจากนี้ยังทรงให้การสนับสนุนกิจการต่างๆของศาสนิกชนในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่เข้ามาอยู่ใต้เบื้องพระบรมโพธิสมภารในประเทศไทยอีกด้วย ดังเห็นได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยศาสนิกชนชาวอินเดียที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู รวมทั้งการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์และเปิดศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่สำคัญ ดังนี้ . - พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลปะภารตวรรษ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสมาคมฮินดูสมาซจัดขึ้น เพื่อนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิอานัทมหิดล บำรุงพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย และอาศรมวัฒนธรรมไทย-ภารต . - วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อธิบดีกรมการศาสนา นำบัณฑิต วิทยาธร สุกุล ประธานปุชารีวัดวิษณุ และคณะ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรดารโหฐาน เพื่อถวายพระพร เนื่องในโอกาสที่บัณฑิตวิทยาธร สุกุล ได้บำเพ็ญยัญญบูชาในระหว่างปี “มานวกัลยาณยัญญ ” โดยตลอดทั้งปีนั้น บัณฑิตวิทยาธร สุกุล ได้ถือศีลโดยไม่ออกจากเทวาลัย ไม่พูด ไม่บริโภคอาหารที่สุกด้วยไฟ และอ่านคัมภีร์พระเวทตลอดเวลา โดยอานิสงส์แห่งการประกอบยัญญบูชานี้ จะบังเกิดเป็นศุภสวัสดิมงคลแก่บุคคล ซึ่งได้รับพรจากผู้ประกอบยัญญบูชานี้เป็นคนแรก ดังนั้นบัณฑิตวิทยาธร สุกุล จึงได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกล่าวคำถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์เอกอัครศาสนูปถัมภกเป็นวาระแรก โดยในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสขอบใจ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเงิน จำนวน ๑,๑๐๐ บาท แก่บัณฑิตวิทยาธร สุกุล และคณะด้วย . .(บัณฑิตวิทยาธร สุกุล ขณะบำเพ็ญยัญญบูชา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙) . - วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเป็นประธานในการเปิดอาคาร “เทพมณเฑียร” ณ สมาคมฮินดูสมาซ ถนนศิริพงษ์ แขวงเสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงอาคารเทพมณเฑียรแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล พระสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว นายกสมาคมฮินดูสมาซกราบบังคมทูลถวายรายงานถึงความเป็นมาของสมาคมและการก่อสร้างอาคารเทพมณเฑียร . .(ศาสนิกชนชาวฮินดูรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ อาคารเทพมณเฑียร) . [/COLOR] จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดซุ้มที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและเทวรูป ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธรูปและเทวรูปแล้ว ทรงจุดเทียนชนวนพระราชทานให้พระราชครูวามเทพมุนี (สมจิตต์ รังสิพราหมณกุล) ไปจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปและเทวรูป ณ ซุ้มที่ทรงเปิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม และทรงหลั่งทักษิโณทก ทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดเยี่ยม นายกสมาคมฮินดูสมาซและผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เสร็จแล้วนายกสมาคมฮินดูสมาซ และพระราชครูวามเทพมุนีนำเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทอดพระเนตรพระพุทธรูปและเทวรูปแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับ . .(พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดซุ้มที่ประดิษฐานเทวรูป) . .(ทรงพระสุหร่ายเทวรูปพระคเณศภายในเทพมณเฑียร) . - วันที่ ๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีก่อพระฤกษ์อาคารหอเวทวิทยาคม ณ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า โดยอาคารนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้คณะพราหมณ์นำชื่อ “หอเวทวิทยาคม” ซึ่งเป็นชื่อของหอพราหมณ์ภายในพระบรมหาราชวัง (ถูกรื้อไปในรัชกาลปัจจุบัน ประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๒) เป็นชื่อของอาคารใหม่ที่สร้างขึ้นในบริเวณเทวสถาน . . .(พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงก่อพระฤกษ์อาคารหอเวทวิทยาคม ณ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 09:28:06 » |
|
๒. กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติของคณะพราหมณ์และศาสนิกชนที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งจัดถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว . ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย คณะพราหมณ์และศาสนิกชนที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย จึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ที่ทรงอุปถัมภ์กิจการต่างๆของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูมาเป็นเวลายาวนานนับตั้งแต่พระองค์เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ดังมีกิจกรรมที่สามารถประมวลได้ ดังนี้ . - คณะพราหมณ์ นำโดยเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ ดำเนินการจัดสร้างเทวรูปพระเป็นเจ้าเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจัดสร้างเทวรูปถวายทั้งสิ้น ๓ องค์ ใน ๓ วโรกาสสำคัญ คือ . ๑) พ.ศ.๒๕๐๖ สร้างเทวรูปพระพรหม (เนื้อนวโลหะ) ถวายในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ ๓ รอบ . . (เทวรูปพระพรหม ที่จัดสร้างถวายในปี พ.ศ.๒๕๐๖) . .(พิธีเทวาภิเษกเทวรูปพระพรหม ณ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์) . ๒) พ.ศ.๒๕๓๐ สร้างเทวรูปพระคเณศ ( เนื้อนวโลหะ) ถวายในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา . .(เทวรูปพระคเณศ ที่จัดสร้างถวาย ในปี พ.ศ.๒๕๓๐) . .(พระมหาราชครูอัษฏาจารย์ทำการอภิเษกเทวรูปพระคเณศที่ประดิษฐานบนภัทรบิฐ) . .๓) พ.ศ.๒๕๔๕ สร้างเทวรูปพระตรีมูรติ (เนื้อทองคำ) ถวายในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ ๗๕ พรรษา โดยมีพราหมณ์ไทย และพราหมณ์อินเดีย ทั้งจากวัดเทพมณเฑียร วัดวิษณุ และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ร่วมกันประกอบพิธีเทวาภิเษกเทวรูปพระตรีมูรติองค์นี้ ภายในเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ . .(เทวรูปพระตรีมูรติ ที่จัดสร้างถวาย ในปี พ.ศ.๒๕๔๕) . .(พราหมณ์อินเดียใต้จากวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ทำการอภิเษกองค์เทวรูปพระตรีมูรติ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 10:23:01 » |
|
ขอขอบพระคุณคุณอักษรชนนี จากใจครับสำหรับกระทู้นี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทรงคุณค่า
มากครับผมพระองค์ทรงเป็นดั่งดวงใจของพสกนิกรชาวไทย
ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดใดมาเอื้อนเอ่ยถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ได้หมดสิ้น
จริงๆ ครับ ภูมิใจมาก และกล้าที่จะพูดได้อย่างไม่อายใครครับ ว่าผมได้เกิดเป็นคนไทย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2010, 10:43:03 โดย จิ้งจอกพันหน้า »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 10:52:21 » |
|
- คณะพราหมณ์ นำโดยพราหมณ์จากเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ พราหมณ์จากวัดเทพมณเฑียร (สมาคมฮินดูสมาซ) พราหมณ์จากวัดวิษณุ (สมาคมฮินดูธรรมสภา) และพราหมณ์จากวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (มูลนิธิวัดพระศรีมหาอุมาเทวี) ร่วมกันอัญเชิญน้ำจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ในประเทศอินเดีย ๕ สาย ได้แก่ แม่น้ำคงคา แม่น้ำยมนา แม่น้ำสรภู แม่น้ำโคมติ และแม่น้ำตริเวณีสังคัม ซึ่งเรียกว่า “ ปัญจมหานที ” (แต่เดิมแม่น้ำสายสำคัญ ๕ สายจากประเทศอินเดียที่เคยใช้ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแต่ละสมัย ได้แก่ แม่น้ำคงคา แม่น้ำยมนา แม่น้ำสรภู แม่น้ำมหิ และแม่น้ำอิรวดี) โดยนำมารวมกับน้ำจากแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย ๕ สาย ที่เรียกว่า “ ปัญจสุทธคงคา ” คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำนครนายก เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี . .(คณะพราหมณ์จากเทวสถาน โบสถ์พราหณ์ วัดเทพมณเฑียร วัดวิษณุ และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ร่วมกันเชิญน้ำจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ในประเทศอินเดีย) . .(พระราชครูวามเทพมุนีประกอบพิธีตักน้ำจากแม่น้ำสายสำคัญในประเทศไทย) . เมื่อได้น้ำจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอินเดียและประเทศไทยแล้ว คณะพราหมณ์จากวัดเทพมณเฑียร วัดวิษณุ และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ได้อัญเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำเทพมนตร์ยังศาสนสถานของตน ก่อนที่จะเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์มาประกอบพิธีมหาชลาภิเษกอีกครั้ง ณ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๙ โดยทั้งมีพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์มหาชลาภิเษก และพิธีพราหมณ์ ในการรวมน้ำศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเสร็จพิธีแล้วได้ตั้งบูชาไว้ที่เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์จนถึงวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๙ ซึ่งเป็นวันที่พราหมณ์ประกอบพิธีตามโบราณประเพณีของพราหมณ์ เพื่อเสกน้ำเทพมนตร์อีกครั้งหนึ่ง . . (พราหมณ์ประกอบพิธีเสกน้ำเทพมนตร์ภายในเทวาลัยประธานวัดพระศรีมหาอุมาเทวี) . . (พิธีมหาชลาภิเษก ภายในสถานพระอิศวร เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์) . . (พระราชครูวามเทพมุนีประกอบพิธีรวมน้ำศักดิ์สิทธิ์) . จากนั้นในวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๙ คณะพราหมณ์ นำโดยพระราชครูวามเทพมุนี ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายน้ำเทพมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระมหาสังข์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ภายในพระบรมมหาราชวัง . .(พระราชครูวามเทพมุนีถวายน้ำเทพมนต์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) ตามคติความเชื่อทางพราหมณ์-ฮินดู ถือว่าการได้อาบน้ำเทพมนต์ หรือ พระพุทธมนต์ ในวาระสำคัญต่างๆ จะบังเกิดความเป็นมงคลแก่ตัวผู้อาบ ซึ่งน้ำนั้นก็คือสิ่งแทนองค์พระแม่คงคา เมื่อได้ทำการสวดสรรเสริญ สาธยายมนต์ พระเวทย์แล้ว ก็จะบังเกิดเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่รับน้ำจากการพรมหรืออาบย่อมเกิดเป็นสิริมงคล ด้วยเหตุนี้ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศาสนิกชนชาวไทย ทั้งที่นับถือพระพุทธศาสนา และศาสนาพราหมณ์-ฮินดูได้พร้อมใจกันประกอบพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้งน้ำพระพุทธมนต์และน้ำเทพมนต์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้
ในส่วนของพิธีเสกทำน้ำเทพมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เกิดจากความร่วมมือกันขององค์กรทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย ที่ได้ร่วมกันจัดพิธีเสกทำน้ำเทพมนต์ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยแต่ละเทวสถานก็จะทำพิธีในส่วนของตนเอง อาทิ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี วัดวิษณุ และโบสถ์เทพมณเฑียร จากนั้นจึงเชิญน้ำเทพมนต์ของแต่ละเทวสถานมารวมกัน ณ สถานพระคเณศ (โบสถ์กลาง) ภายในเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ ก่อนที่จะนำไปรวมกับน้ำพระพุทธมนต์และน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ ณ วัดพระเชตุพนฯ หลังจา่กนั้นจึงนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง
โดยพิธีดังกล่าว คณะพราหมณ์ฺ และศาสนิกชนที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูได้ประกอบพิธีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ตามลัทธิความเชื่อในแต่ละสายนิกายที่ตนนับถือ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกอันประเสริฐของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย ซึ่งศาสนิกชนทุกคนได้อาศัยอยู่อย่างร่มเย็นภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ผู้ดำรงธรรมพระองค์นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 11:29:00 » |
|
ติดตามอ่าน ครับ คุณอักษร นั่งชิดติดขอบเวทีเลย หุหุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พราหมณ์น้อยๆ
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 11:52:04 » |
|
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 12:03:23 » |
|
- พิธีสวดถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวามหาราช โดยคณะพราหมณ์ประจำศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ทั้งเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ วัดเทพมณเฑียร วัดวิษณุ และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ต่างพร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติด้วยการสวดขอพรจากพระเป็นเจ้าเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังเช่น ในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ทางวัดวิษณุและวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ได้ประกอบพิธีก่อกองกูณฑ์บูชาไฟ (โฮมัม) และสวดขอพรจากพระเป็นเจ้าเพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเกษมสำราญและมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ส่วนทางเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ คณะพราหมณ์ได้ร่วมกันประกอบพิธีถวายพระพร และสวดสักการะพระเป็นเจ้าทุกโบสถ์ภายในเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ เพื่อขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญในวโรกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา . .(พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีสวดถวายพระพร ณ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์) . .(คณะพราหมณ์สวดสักการะพระเป็นเจ้า) . .(พระราชครูวามเทพมุนี ประกอบพิธีบูชาพระพรหมเพื่อขอพรถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ กรุงเทพมหานครได้กำหนดจัดกิจกรรมศาสนพิธีของ ๕ ศาสนา ได้แก่ พระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันอาทิตย์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔
สำหรับในส่วนศาสนพิธีของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้น เป็นการร่วมมือกันขององค์การทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย ประกอบด้วย เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ , โบสถ์เทพมณเฑียร สมาคมฮินดูสมาซ , วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก สีลม) และวัดวิษณุ (ฮินดูธรรมสภา) ร่วมกันประกอบพิธีตามสายนิกายของตน เพื่อบูชาพระเป็นเจ้าและขอพรเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยที่แข็งแรง และมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 12:28:38 » |
|
ทั้งหมดที่ผู้เรียบเรียงนำมากล่าวถึงในบทความนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทยเท่านั้น เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั้นมีเหลือที่จะประมาณได้ รวมทั้งเรื่องราวกิจกรรมขององค์กรและศาสนิกชนที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ก็ยังมีอีกมากมายหลายกิจกรรม ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ที่พร้อมใจกันแสดงออกมาในวโรกาสอันเป็นมหามงคลต่างๆ . . ในวโรกาสอันเป็นมหามงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล และครบ ๖๐ ปี แห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ข้าพระพุทธเจ้าในฐานะข้าแผ่นดินใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ขอน้อมจิตอธิษฐานขอพรอันประเสริฐทั้งคุณพระศรีรัตนตรัยในพระบวรพุทธศาสนา และเทวะบารมีแห่งองค์พระเป็นเจ้า อาทิ พระคเณศ พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวตี และพระเป็นเจ้าทั้งหลายผู้ทรงฤทธิ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดเสด็จมาอภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯให้ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิภัย มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้าตราบนานเท่านานเทอญ ฯะ . [/COLOR] ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า อักษรชนนี .
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 13:08:59 » |
|
หนังสืออ้างอิงและแหล่งที่มาของภาพประกอบบทความ : . - กรมศิลปากร. พระราชพิธีในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขานุการกรมศิลปากร ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์, ๒๕๔๓. . - กรมการศาสนา. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช อัครศาสนูปถัมภก. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย, ๒๕๕๐. . - เฉลิมฉัตร ฉลองราชย์ ๖๐ ปี พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี วันที่ ๘-๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๙. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี, ๒๕๔๙. . - พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในการทรงอุปถัมภ์ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา, ๒๕๓๐. . - เว็บไซต์สำนักราชเลขาธิการ : www.ohmpps.go.th . - เว็บไซต์สำนักพระราชวัง : www.palaces.thai.net . ขอขอบพระคุณท่านผู้เขียนหนังสือ(ที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น)ทุกท่าน ซึ่งผู้เรียบเรียงได้นำมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในบทความ ทางผู้เรียบเรียงจึงขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ .
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 17:33:23 » |
|
ปัจจุบันนี้ พิธีแบบนี้ เหลือเพียงหนึงเดียวในประเทศไทยหรือเปล่าคับผม หรือยังมีที่ประเทศอื่นอีก
เห็นคณะพราห์มจากหลายๆที่มาทำพิธีร่วมกัน เป็นหนึ่งเดียว ปกติ จะไม่เคยเห็น น่ะครับ ที่สุดของที่
สุดจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 17:46:27 » |
|
เท่าที่ทราบปัจจุบัน พระราชพิธีที่มีพิธีพราหมณ์เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วยนั้น เห็นจะมีแต่ประเทศไทยที่ยังคงรักษาแบบแผนตามโบราณราชประเพณีเอาไว้ได้อยู่ (แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดในบางขั้นตอนของบางพระราชพิธีไปบ้าง) โดยปัจจุบันในบางประเทศก็ยังมีการประกอบบางพระราชพิธีอยู่เหมือนกัน เช่น ในประเทศกัมพูชา ยังคงมีการประกอบพิธีแรกนาขวัญ และพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นต้น
ส่วนเรื่องการร่วมกันทำกิจกรรมหรือพิธีต่างๆของคณะพราหมณ์ในประเทศไทยนั้น ทั้งพราหมณ์ไทย จากเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ และพราหมณ์อินเดีย จากวัดเทพมณเฑียร วัดวิษณุ และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี มักจะเป็นการร่วมกันในโอกาสสำคัญๆที่เป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในโอกาสสำคัญอื่นๆ ทำให้นานๆทีจึงจะเห็นคณะพราหมณ์ไทยและพราหมณ์อินเดียร่วมประกอบพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง โดยครั้งล่าสุดเห็นจะเป็นพิธีสมโภชองค์พระศิวลึงค์ที่เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๒ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อินทุศีตาลา
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 20:06:50 » |
|
ขอบพระคุณคุณอักษรชนีสำหรับข้อมูลดีดีนี้ค่ะ เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เรายังมีขนบวัฒนธรรมเช่นนี้เหลืออยู่ เคยได้ชมพระราชพิธีแรกนาขวัญในกัมพูชา เห็นมีผู้ประกอบพิธีจำนวนหนึ่งนุ่งห่มคล้ายพราหมณืพระราชพิธีของบ้านเรามาก แต่ไม่ทราบว่าเป็นพราหมณ์แบบเดียวกับบ้านเราหรือไม่ ถามใครก็ไม่มีใครตอบได้เลยค่ะเพราะบรรดาที่ไปด้วยกันนั้นโลกแคบเท่าๆกัน แต่รู้สึกเขาก็เรียกว่าเจ้าหน้าที่นะคะ ไม่ทราบอย่างไร แต่สังเกตุดูอะไรๆไม่งามเท่าไรนะคะ สิ่งที่อยากให้ทุกๆท่านสังเกตุดูก็คือบายศรีที่ใช้ในพระราชพิธีของไทยค่ะ บายศรีทอง แก้ว เงินนั้น เจ้าพนักงานใช้พานเรียงซ้อนกัน ข้างในใส่ของกินเอาไว้ งามดีค่ะ เห้ฯแล้วอดปลื้มใจไม่ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอพาหาพลรามอันงามขาว ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา ลักษมีกันยาสุภาสด น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้
(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)
|
|
|
|
Nichaza
จาตุมหาราชิกา
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 23:45:55 » |
|
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ....................!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2010, 02:31:21 » |
|
ไปงานที่ลานพระบรมรูปทรงม้ามา ตื้นตันใจมากมายครับผม เข้ามาตอกย้ำความเป็นคนไทยอีกรอบครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Fluorine
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2010, 15:10:47 » |
|
สาระสุดๆเลยครับ ขอบพระคุณมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2010, 20:15:51 » |
|
เข้ามาชมพระบารมีอีกรอบครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีมหามารตี
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
กระทู้: 885
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2010, 21:39:01 » |
|
กระทู้นี้มีสาระดีจริงๆ ขอบพระคุณน้องอักษรชนนีอีกรอบคะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nai 3
อกนิฎฐสุทธาวาส
ออฟไลน์
กระทู้: 458
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2010, 22:09:41 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา ในนามของ พระปารวตี ลักษมี สรัสวตี สาวิตรี คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา โอม ตัต สัต
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 09:30:43 » |
|
เข้ามาถวายพระพรในหลวงครับผม
*เดี๋ยววันที่ 9 จะไปงานที่ลานพระบรมอีกรอบครับผม ใครไปมั่ง หุหุ
ไปให้กำลังใจน้องเพลงอีกรอบอุตส่าห์มาไกลจากเชียงใหม่
มาเป็นผู้ควบคุมขบวนแห่ของเชียงใหม่รยยย ขบวนสวยมากมายครับน้องเพลง *
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หริทาส
อัปปมาณาภา
ออฟไลน์
กระทู้: 248
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2010, 01:18:05 » |
|
ขอบคุณน้องอักษรชนนีมากครับ ที่เอาข้อมูลดีๆมาให้เรารับทราบ วันหลังพี่คงต้องรบกวนขอข้อมูลเพื่อทำงานบ้างแล้วว อิอิ เพิ่งเห็นรูปท่านบัณฑิตวิทยาธรกสุกุล เคยได้ยินแต่ท่านเล่าให้ฟัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2010, 07:26:48 » |
|
ขอบพระคุณเพื่อนๆพี่ๆสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น และร่วมกันเฉลิมพระเกียรติในหลวงของพวกเรานะครับ ขอบคุณน้องอักษรชนนีมากครับ ที่เอาข้อมูลดีๆมาให้เรารับทราบ วันหลังพี่คงต้องรบกวนขอข้อมูลเพื่อทำงานบ้างแล้วว อิอิ
เพิ่งเห็นรูปท่านบัณฑิตวิทยาธรกสุกุล เคยได้ยินแต่ท่านเล่าให้ฟัง
ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยครับพี่หริทาส ^_^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sunshaip
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2010, 15:47:27 » |
|
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน รักในหลวงสุดหัวใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สยมภูวญาณ
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2010, 18:51:33 » |
|
เข้ามาถวายพระพรในหลวงครับผม
*เดี๋ยววันที่ 9 จะไปงานที่ลานพระบรมอีกรอบครับผม ใครไปมั่ง หุหุ
ไปให้กำลังใจน้องเพลงอีกรอบอุตส่าห์มาไกลจากเชียงใหม่
มาเป็นผู้ควบคุมขบวนแห่ของเชียงใหม่รยยย ขบวนสวยมากมายครับน้องเพลง *
เพื่อในหลวงเพลงทำได้คฟงานนี้ทำให้เพลงได้รู้ว่าคนไทยรักพระองค์จากใจและจิตใสำนึกแห่งการได้ยืนบนแผ่นดินสยามแห่งนี้ไม่ว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติเพลงก้อขอเกิดมาใต้ร่มพระบารมีแห่งพระบรมโพธิสัตว์บาทเจ้าทุกชาติเทอญจะขอเป็นข้ารองพระบาทเป็นเครื่องบันเทิงอันยอพระเกียรติยศแห่งพระองค์ด้วยการเป็นข้าละคอนโขนหลวงแห่งพระองค์เสมอไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2010, 20:12:31 » |
|
เข้ามาถวายพระพร และ เข้ามาอ่านอีกรอบครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bleebee
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2010, 00:24:57 » |
|
ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ที่นำสาระดีดี มาแบ่งปัน  บทความ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย"  บทความ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย"  บทความ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
จิ้งจอกพันหน้า
อากิญจัญญายตน
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1,186
ไมกล้าลงทรงกันอ่ะ..เวลาตายจะไปตอบพระเป็นเจ้ายังไง้
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2010, 20:31:47 » |
|
รู้สึกว่าโชคดี เหลือหลายที่ได้เกิดเป็นคนไทย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2010, 01:42:38 » |
|
เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
ผมขออนุญาตนำกระทู้นี้กลับขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้เพื่อนสมาชิก HM ได้ร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกอันประเสริฐ
ต่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย
 บทความ เรื่อง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในประเทศไทย"
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โอม กาลี โอม
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2010, 22:00:31 » |
|
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Maneejan
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2011, 00:33:15 » |
|
ทรงพระเจริญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อักษรชนนี
ทีมงาน HM
ออฟไลน์
กระทู้: 3,096
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2012, 23:05:46 » |
|
 . ๏ ๘๕ พรรษา มหาราช ไทยทั้งชาติ ปรีดิ์เปรม เกษมศรี ศาสนิก พราหมณ์-ฮินดู ล้วนภักดี ต่อภูมี ผู้ทรงธรรม พระภูมิพลฯ ๚ะ๛
๏ วโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ขอเทวา ทั่วทิศ ประสิทธิ์ผล พรใดดี ล้ำเลิศ เกิดมงคล โปรดจงดล ให้พระองค์ ทรงพระเจริญ ๚ะ๛ .
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีเคารีปุตรายะ
เวหัปผลา
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 338
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 05:12:47 » |
|
.....ดิถีอันมงคลนั้นมาถึง..... .....เป็นวันซึ่งชาวไทยทั่วแหล่งหล้า..... .....ต่างแซ้ซ้องสรรเสริญเปรมปรีดา..... .....องค์นาถาภูมิพลวันชนมวาร..... .....ขอพระพรจากองค์เทพเทวัญ..... .....ทั่วทั้งแดนสวรรค์ทุกสถาน..... .....ขอโปรดจงอำนวยอวยประทาน..... .....พรแด่องค์พระภูบาลทรงพระเจริญ..... ..........ศรีเคารีปุตรายะ ผู้ประพันธ์....... .........ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ...... ข้าพระพุทธเจ้า...ศรีเคารีปุตรายะ และเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว Hindumeeting.com.... [/HIGHLIGHT][/SIZE][/FONT][/COLOR]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Jai Maa Adhi Shakti जय माँ आधी शक्ति
|
|
|
pom3555
พรหมปาริสัชชา
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 153
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 20:03:29 » |
|
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยแข็งแรง นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|