Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Radhamadhava

#1
ประเด็นหลักๆก็คือ คุณมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องว่า จะเอาเทวรูปออกมาบูชาดีรึเปล่า สำหรับผมแล้วไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาต่อการศรัทธาเท่าไหร่ เรื่ององค์ประกอบไม่ครบ คุณสามารถสร้างอาวุธให้ท่านได้ หากมีเวลาก็ค่อยหามาให้ท่าน ลองไปเดินดูตามพาหุรัด ส่วนเรื่องจุดตะเกียงจุดธูปนั้นก็แล้วแต่ความเหมาะสมครับ สะดวกก็จุดได้ ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ส่วนเมื่อจัดเสร็จเรียบร้อยก็กล่าวอัญเชิญคำพูดแบบมนุษย์ๆเราเนี่ยแหละ แล้วก็ถวาย น้ำ ดอกไม้ จุดตะเกียง แล้วก็กล่าวบทสวดแค่นั้นก็ได้ครับ
#2
[HIGHLIGHT=#facdae]ขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วม ขบวนแห่ราชรถองค์คริชณะ (พระกฤษณะ) จะกันนาท ระทะยาทระ [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556 เวลา 14.00 น. [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]เริ่มขบวนที่สวนลุมพิณี ประตูตรงข้าม สน.ลุมพิณี [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]โทร. 085-100-5378 นพ [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]Email. [/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#facdae]nop_bassist@hotmail.com[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#facdae] [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]  [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]เส้นทางขบวนแห่ [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]เวลา 14.00 น. เริ่มออกจากสวนลุมพิณีประตูตรงข้าม ส.น. ลุมพิณี ถ.วิทยุ วนซ้ายเข้า ถนนสารสินและราชดำริ ตรงเข้า ถ.สีลม เลี้ยวขวา เข้า ถ.เจริญกรุง และ ถ.เยาวราช เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.จักรวรรดิ์ ที่สี่แยกวัดตึก กลับขบวนเข้า ถ.จักรเพรช เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พาหุรัด เลี้ยวขวาเข้า ถ.ตรีเพชร ผ่านแยกเฉลิมกรุงเข้า ถ.ตีทอง เลี้ยวขวาเข้า ถ.บำรุงเมืองที่เสาชิงช้า และ เลี้ยวขวา เข้าวัดเทพมณเฑียร [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]ตลอดเส้นทางจะมีการร้องเพลงภาวนามหามนต์ ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร / ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร ในทำนองที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ป๊อบ ร็อค เร้กเก้ หรือ ดั้งเดิม และเต้นรำกันอย่าง สนุกสานครื้นเครง พร้อมทั้งแจกอาหารทิพย์ (พระสาดัม) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]อานิสงส์ของผู้ร่วมขบวนแห่พระกฤษณะ [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]อานิสงส์ผลบุญของผู้ร่วมกิจกรรมนี้มีมากมาย มหาศาล ผู้ขับร้องเพลงมหามนต์ ฮะเรคริชณะ ผู้ได้ยินเสียงเพลงนี้ ผู้บรรเลงดนตรี ผู้แสดงละคร ผู้เต้นรำ ผู้ได้เห็นองค์จะกันนาท เจ้าแห่งจักรวาล ผู้ลาก/จูง/เข็น/ผลักราชรถ ผู้ปรุงอาหาร ผู้แจกจ่ายอาหารผู้รับประทานอาหารทิพย์ ทุกคนที่มีส่วนร่วมให้มหกรรมแห่ราชรถพระกฤษณะนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้ผู้เห็นขบวนแห่แล้วภายในใจมีความยินดีด้วยทุกคนที่กล่าวมานี้ ชีวิตจะมีความสุข เจริญ รุ่งเรือง ชีวิตจะเป็นศิริมงคล ความบาปในอดีตจะถูกชะล้างไป ความทุกข์จะบรรเทาลง บางคนอาจสามารถจบสิ้นความทุกข์ทั้งปวงในโลกวัตุถุนี้ได้ แม้ในชาตินี้หรือได้ไปเกิดสถานที่ดีๆในชาติหน้า [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]เสียงเพลงมหามนต์มีความศักดิ์สิทธิ์มากเหมือนดวงอาทิตย์ที่ให้ประโยชน์แด่ทุกชีวิต เป็นทิพย์อยู่เหนือโลกวัตถุ จึงไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ภาษา ผิวพรรณ เพศและวัย ใครๆก็มาร่วมร้องเพลงมหามนต์ได้ เพียงทำสมาธิที่เสียงแล้วจะทำให้ชีวิตมีความสุข ขจัดความอิจฉา ริษยา ภายในใจออกไปได้ [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]พวกเราจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมร้องเพลง ภาวนามหามนต์ ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร / ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร  และเต้นรำอย่างมีความสุขล้วกลายมาเป็นคนมีคุณธรรมโดยปริยาย เป็นการทำความดีที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับยุคนี้ เพื่อถวายเป็รพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]ปัจจุบันเราอยู่ในกลียุค หมายถึงยุคแห่งการทะเลาะวิวาท บรรยากาศไม่ค่อยดี ผู้คนหงุดหงิดง่าย ชอบทะเลาะ เกียจคร้าน ความจำไม่ดี อายุสั้น ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดและอับโชค วิธีที่จะทำให้ชีวิตมีความสงบสุข เชธัณญะ มหาพระบู อวตารรูปทอง ของ ราดาคริชณะ ทรงแนะนำวิธีที่ง่ายและได้ผลดีคือ ร้องเพลง ภาวนามหามนต์ [/HIGHLIGHT]


[HIGHLIGHT=#facdae]          ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]          ฮะเร รามะ    ฮะเร รามะ    รามะ    รามะ    ฮะเร ฮะเร [/HIGHLIGHT]


[HIGHLIGHT=#facdae]ที่ใดมีเสียงมหามนต์นี้ บรรยากาศจะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ทุกคนจะถึงพอใจ รื่นเริงและมีความสุขความเจริญ [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]แห่ทำไม ? [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]ความหมายลึกๆของการฉลองแห่ราชรถ ระทะยาทระ คือช่วงที่พระกฤษณะเป็นเด็กได้แสดงลีลาซึ่งให้ความสุขกับพวกโกปี(เด็กเลี้ยงวัวผู้หญิง) และพระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาว วรินดาวะนะ ทั้งหมด  และ ช่วงเป็นหนุ่ม พระองค์ได้มาอยู่ดวาระคาในฐานะกษัตริย์ พอได้ข่าวว่าพระกฤษณะจะมาที่ คุรุคเชทระ พวกโกปีจึงมาที่สมรภูมิอันศักดิ์สิทธิ์ คุรุคเชทระ แล้วลากจูงผลักพระกฤษณะ บะละราม และ สุภัตรา ให้ออกจากสนามรบ เพื่อชวนกลับไปมีความสุขเหมือนเดิมที่ วรินดาวะนะ [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#facdae]องค์จะกันนาท เจ้าแห่งจักรวาล [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]    ประมาณ 3 พันปีก่อน กษัตริย์สาวกชื่อว่า อินดรัดยุมนะ ทรงภาวนาว่า ''โอ้เจ้าแห่งจักรวาลกรุณาเผยโฉมให้ข้าได้เห็น'' จากนั้นซุงมหึมา 3 ต้นได้มาเกยที่ชายหาดพระวิศวกรรมแห่งสวรรค์ทรงแปลงตัวอาสามาแกะสลักโดยห้ามไม่ให้ใครไปรบกวน หลังจาก 2 อาทิตย์กษัตริย์เห็นเสียงเงียบไปทนไม่ไหวจึงทรงไปเปิดประตูเข้าไปดู พระวิศวกรรมทรงจากไปทันทีทั้งที่พระปฏิมายังไม่สมบูรณ์ยังขาดพระหัตถ์และพระเพลา [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]     [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#facdae]   อินดรัดยุมนะทรงเสียใจมาก บัดดลนั้น มีเสียงมจากท้องฟ้า ประกาศลงมาว่าให้กษัตริย์อย่าเสียใจ คริชณะทรงให้เป็นเช่นนี้และอธิบายว่าที่จะกันนาทไม่มรแขนขาเพราะพระองค์ทรงรู้สึกมีความปลื้มปิติสุขทิพย์สูงสุดเมื่อคิดถึงเหล่าสาวกที่วรินดาวะนะ จึงส่งผลให้แขนขาหดเข้าไปในพระวรกายทิพย์ของพระองค์ รูปลักษณ์แห่งจักรวาลนี้ ทรงเปิดเผยให้ทุกคนรู้ว่า คริชณะทรงรักสาวกมากเพียงใด [/HIGHLIGHT]
#3
ต้องเรียนถามกลับว่า ความแตกต่างในเรื่องใดครับ เพราะจริงๆ ซิตาร์ กับ วีณา ก็ต่างกันอยู่มากน่ะครับ ทั้งประวัติความเป็นมา การเล่น รูปทรง บลาๆๆ
#4
วีณาเนี่ยเป็นเครื่องดนตรีเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยพระเวทเป็นต้นแบบเครื่องสายอีกหลายเครื่องและในประเทศไทยเองเนี่ยก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก และที่หาซื้อคงไม่ต้องสืบไม่มีแน่นอน แต่เรื่องที่เรียนเนี่ยเค้ามีน่ะ แต่ไม่ใช่ วีณา แต่เป็น ซิตาร์ ที่ ศูนย์วัฒณธรรมอินเดีย แล้วซิตาร์ก็ยังพอหาซื้อได้ ก็เป็นเพื่อนๆของผมเองเนี่ยแหละซึ่งเค้าไม่เล่นแล้ว เค้าก็ขาย แต่ยังไม่มีใครมาซื้อ (อันนี้ผมไม่ได้ขายของน่ะ) แต่ถ้าต้องการหรือชอบเนี่ย ก็มี 2 ตัวเลือก สั่งจากอินเดียโดยผมสั่งผ่านจากอาจารย์ซิตาร์ของผม หรือ ซื้อต่อจากเพื่อนผมก็ได้ ลองศึกษาดูน่ะครับ

อันนี้เรียกว่า Sitar หรือ ซิตาร์


อันนี้เรียกว่า สรัสวตี วีณา ครับ
#5
ปัจจุบันก็ยังสามารถยังนำไปที่นั้นได้ช่ายม่ะครับ ผมได้ยินข่าวแว่วๆมาว่า ที่นั้นเลิกทำแล้ว...ด้วยสาเหตุไรไม่รู้ ช่วยยืนยันให้รับทราบทีน่ะครับ

ปล.ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับผม
#6
พอดีเพื่อนของผมให้ฝากมาถามน่ะครับพอดีเพื่อนของผมได้บูชาเศียรครูมา 3 เศียรดังนี้

1.พระประคนธรรพ์
2.พระปัญจสิงขร
3.พระวิษณุกรรม

เพื่อนผมให้ฝากมาถามว่าในกรุงเทพสามารถนำไปเบิกเนตรที่ไหนได้บ้าง รบกวนขอสถานที่ที่ดีไม่ไช่ตำหนักอ่ะครับขอเป็นคนบุคคลที่เชื่อถือได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในการเบิกเนตร เพราะเศียรที่บูชามาจะเป็นทางด้าน ดุริยเทพ รบกวนพี่คิว หรือ ผู้ที่เชียวชาญให้คำตอบทีน่ะครับ ขอบคุณครับ
#7
วิธีบูชาพระกฤษณะนั้นท่านโปรดปราณแบบเรียบง่ายครับเครื่องบูชาก็ไม่ต้องเน้นอะไรมาก ขอไม่แค่ไม่มีส่วนผสมเนื้อสัตว์และไข่และสิ่งที่ท่านโปรดเป็นพิเศษคือ การสวดพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านครับ หรือ มหามนต์ นั่นเอง ฮาเร คริชณะ ฮาเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮาเร ฮาเร // ฮาเร รามะ ฮาเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร.  สวดมหามนต์บทนี้และบูชาด้วยการอุทิศตนเสียสละรับใช้ครับที่สำคัญคือความรัก แล้วเราจะได้ ความรัก และ เมตตา จากพระองค์ครับ

ปล.ของบูชานั้น ถวายเสร็จแล้วนำมารับประทานหรือแจกจ่ายให้คนในบ้านได้เลย (ผมมีบทมนต์สำหรับถวายภัตตาหารด้วย) nop_bassist@hotmail.com แอดมาเพื่อถามรายละเอียดได้ครับ
#8
Govadhan puja

เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองลีลาอันน่าอัศจรรย์ของพระกฤษณะในวัยเยาว์ ครั้งหนึ่ง ณ หมู่บ้านวรินดาวัน พระกฤษณะและพลรามได้บังเอิญเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพราหมณ์และบรรดาคนเลี้ยงวัวผู้หมกมุ่นอยู่กับการปฏิบัติบวงสรวงพระเวท เพื่อความถึงพอใจของพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ ผู้รับผิดชอบการจัดส่งน้ำ ด้วยความสงสัยคริชณะจึงถามบิดา (นันดะ มหาราช) ว่า ''บิดาที่รักของข้า การจัดเตรียมพิธีบูชาที่ยิ่งใหญ่นี้เพื่อใคร ?และผลของการบวงสรวงนี้เป้นอย่างไร และเพื่อใคร ? และปฏิบัติกันอย่างไรได้โปรดบอกให้ข้าพเจ้าทราบด้วย'' ด้วยความเอ็นดูของมหาราชนันดะ เมื่อได้ยินคำถามแล้วก็สงบนิ่งชั่วครู่และคิดว่าเด็กน้อยของท่านไม่สามารถเข้าใจความละเอียดอ่อนในการปฏิบัติพิธี ยะกยะ นันดะมหาราชจึงตอบไปว่า ''เด็กน้อยที่รักของข้าการปฏิบัติพิธีนี้เป็นคล้ายๆประเพณี เพราะว่าฝนเป้นพระเมตตาธิคุณจากพระอินทร์ กลุ่มเมฆเป็นตัวแทนของพระองค์ เนื่องจากน้ำมีความสำคัญต่อการเป็นอยู่ของพวกเรา เราจึงต้แสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ หลังจากพระกฤษณะได้ยินต่อหน้าพระบิดาและชายเลี้ยงวัวทั้งหลายได้พูดในทำนองที่จะทำให้พระอินทร์เกิดบันดาลโทสะมากกกกกกกกก.........พระกฤษณะจึงสั่งให้ละเลยพิธีบวงสรวง ให้ไปบูชาภูเขา โกวะดราแทน เพราะผู้เขาต่างหากที่สำคัญต่อความเป็นอยู่ของพวกเรา ถึงแม้พระอินทร์จะสั่งให้ฝนตกลงมา และสิ่งมีชีวิตได้รับผลประโยช์มากมายแล้วพระอินทร์เกี่ยวอะไรด้วย ? บางครั้งฝนก็ไปตกในมหาสมุทรซึ่งไม่จำเป็นที่ต้องการน้ำ เพราะฉะนั้น เราควรมาให้ความสำคัญแก่ผู้เขาโกวะดรา หลังจากนั้น พระอินทร์ได้ยินเข้าจึงโมโหสั่งฝนพายุ และ ลูกเห็บจากกลุ่มเมฆสามวารทะคะและลมกรรโชกอย่างแรงเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน ลีลาของพระกฤษณะครั้งนี้ทำเป้นที่ตกใจของคนในหมู่บ้านเพราะพระองค์ทรงยกภูเขาเพียงนิ้วก้อยนิ้วเดียวแถมยั่งเป่าขลุ่ยและเต้นรำไปด้วยอีกต่างหาก ชางบ้านต่างเฉลิมฉลองด้วยการเต้นรำ และประดับประดาบรรดาวัวทั้งหลาย อย่างมีความสุข
      ในเทศกาลนี้ชาวอินเดียหรือผู้ที่นับถือพระองค์จะทำการฉลองด้วยการทำขนมเป็นรูปและตกแต่งอย่างสวยงามร้องเพลงเต้นรำ และ แสดงละครโดยเด็กๆในหมู่บ้าน ในวันนี้ชาวบ้านก็จะอิ่มหนำสำราญจากขนมภูเขาโกวะดราน อิอิ

ปล.ผมอธิบายโดยสังเขปอาจไม่ละเอียดหรือขาดตกบกพร่องไปตอนใด ขออภัยมาในที่นี้ด้วย......

สำหรังานนี้ปีนี้ ตรงกับวันที่ 7 พ.ย. 2553 ครับ ทางสมาคม Hare krishna แห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดอาจไม่ใหญ่โตมากนัก ยังไงจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกทีครับ....
#9
ใช่แล้วครับผม....

อรชุน เป็นบุตรของ พระอินทร์ และ พระนางคุนที พระนางคุนทีได้รับพรจากฤาษีองค์หนึ่งที่พระนางได้ช่วยชีวิตไว้พรนั่นคือ สามารถมีบุตรได้โดยไม่ต้องผ่านการมีเพศสัมพันธุ์ พระนางจึงขอพรและพระอินทร์ก็ปรากฏขึ้นจึงออกมาเป็นอรชุน อรชุน มีบุตร กับ พระนางโดรพะที ชื่อ อภิมันยุและอภิมันยุได้แต่งงานกับพระนางอุตะระ ครั้งหนึ่งอภิมันยุได้ออกศึกสงครามไปกับอรชุนแต่อภิมันยุก็ถูกสังหารจากการรุมจากฝ่ายเการพและทันใดนั่นเองพระนางอุตะระก็ได้คลอดลูกออกมาพอดี....ก็คือ ปะริกชิท มหาราช นั่นเอง
#10
ครับ....

ดีเลยครับเยี่ยมมาก....มีทั้งมหามนต์และรูปของจะกันนาทด้วยนี่ประเสิรฐที่สุดครับเพราะการให้มหามนต์กับคนอื่นเนี่ยถือว่าเราได้ให้ พระกฤษณะ กับคนๆนั้นด้วย เพราะในกลียุคนี้ พระองค์ทรงมาในรูปของมหามนต์เพียงแค่เปล่งพระนามอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ด้วยศรัทธา ปัญหาทุกอย่างก็มักจะคลี่คลายได้เป็นอย่างดีครับ

ครั้งนึง พระนางโดรพะทีภรรยาของพี่นองปาณฑะวะทั้งห้า....พี่น้องปาณฑะวะทั้งห้าได้เสียพนันจนหมดเนื้อหมดตัวด้วยกลโกงของสกุนิลุงของพี่น้องตระกูลเการพหรือมารดาของ 2 พี่น้อง เการพนั่นเองได้เสียทั้งทรัพย์สินเงินทองแผ่นดินกองทัพทาสและคนรับใช้จนหมดและพี่น้องของตนจนสุดท้ายเหลือ พระนางโดรพะที และก็เสียพนันอีกครั้งนึงจึงจำต้องเสียภรรยาของตนให้กับพี่น้องเการพ ด้วยความแค้นใจของพี่น้องตระกูลเการพ ดุรโยดะนะปรารถนาที่จะเปลื้องผ้าพระนางจึงสั่งให้คนของตนจับพระนางเปลื้องผ้าซ่ะ.....ทันใดนั่นเองพระนางโดรพะทีก็พยายามยื้อยุดฉุดสาหรี่ไว้ไม่ให้คนของดุรโยดะนะเปลื้องไปได้พระนางทำจนสุดกำลังจนเหนื่อยล้าและไม่ไหว...พระนางจึงศิโรราบยอจำนนชูมือขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกับศรัทธาที่มีแด่องค์พระกฤษณะพระนางจึงเริ่มร้องหาพระกฤษณะโดยเปล่งพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ออกมา ทันใดนั่นเองปาฏิหาร์ยก็เกิดขึ้น คนของดุรโยดะนะ พยามยามดึงสาหรี่ออกมาให้หมดแต่สาหรี่นั่นก็ไม่หมดไม่สิ้นซักทีจนกองผ้าสาหรี่เริ่มใหญ่ขึ้นๆสุดท้ายคนของดุรโยดะนะก็ยอมแพ้และนำตัวพระนางโดรพะทีไปขังไว้ เพราะพระนางนึกถึงพระองค์เมื่อยามมีปัญหาและพยายามแก้ด้วยตนเองแล้ว..พระองค์จึงมาช่วยนางไว้ อันที่จริงก่อนหน้านี้ พระกฤษณะได้แสดงลีลาโดยปลอกผลไม้แล้วมีดบาดมือพระนางโดรพะทีเสียสละฉีกผ้าสาหรี่ของตนมาพันแผลที่นิ้วให้กับพระกฤษณะ...นี่คือส่วนหนึ่งเรื่องราวของ มหาภารตะ ครับ
#11
งานนี้ทุกๆปีคนเยอะมากครับ....มีทั้งคนแขก,ไทย,จีน,ต่างชาติอีกมากมายครับ บอกไม่ถูกว่ากี่คนน่าจะ 500 คนขึ้นไปอาจถึงพันผมก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยนับซักที 5555+

รบกวนคุณ tomino นิดนึงน่ะครับบอกได้รึเปล่าว่าของที่จะทำมาแจกนั่นเป็นของประเภทไหนครับ...ผมต้องขออภัยอย่างสูงที่ผมต้องถามแบบนี้เพราะบางทีทำมาแล้ว...อาจจะไม่เหมาะสมกับประเพณีของพวกเขาได้ครับ เพราะเคยมีคนทำมาแล้ว...ปรากฏว่ามีคนไปเซ็นเซอร์ก่อนแต่ไม่ไช่ผมเค้าเลยเสียใจมากยังไงรบกวนบอกผมนิดนึงน่ะครับหรือจะ PM มาบอกก็ได้น่ะครับ ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยน่ะครับ
#12
ขอตอบน่ะครับ

ผมไม่รู้ว่าเทพองค์นี้มีชื่อว่าอะไร แต่เด๋วจะหาคำตอบมาให้ แต่ ศุกเทพ หรือ ศุกเดวะ โกสวามิ ที่เป็นลูกของฤาษีวยาสนั้นลักษณะไม่ไช่แบบนี้ ศุกเดวะ โกสวามิ คือชื่อเต็มๆของพระองค์ ซึ่งเป็น อวตารหนึ่ง ของพระกฤษณะ ซึ่งครั้งนึงได้อยู่ในครรถ์ของมารดา(ผมจำไม่ได้ว่าชื่อว่าอะไรไว้จะมาบอกที่หลังครับ) มารดาของ สุขเดวะ โกสวามิ นั้นได้ยิน สามีของตนคือฤาษีวยาสนั่งเล่าเรื่องพระเวทอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับสัจธรรมของมนุษย์เรื่องราวเหล่านั้นจึงซึบซาบไปถึง สุขเดวะ โกสวามิซึ่งกำลังอยู่ในครรถ์ สุขเดวะ โกสวามิได้ยินดังนั้น จึงไม่ขอออกจากครรถ์มารดา เพราะได้รู้ว่า โลกภายนอกน่ากลัวเพียงใด เวลาผ่านไปแล้วไปเล่า มารดาของตนก็ทรมาณซึ่งต้องอุ้มท้องเอาไว้เป็นเวลานานมาก (นานกว่า 9 เดือนของมนุษย์ปกติ ) มารดาจึงถวายบทมนต์แด่พระพรหมขอความช่วยเหลือ พระพรหม จึง ขอร้องให้ออกมาเพราะสุขเดวะเท่านั้นที่จะช่วยผู้คนในโลกนี้ได้อีกมากมาย เมื่อสุขเดวะ ออกมาจากครรถ์มารดา ก้มีอายุ 17 ปี ออกมาด้วยร่างกายเปลื่อยเปล่า ผิวสีครามดุจท้องฟ้า เดินตรงไป ณ ที่แห่งนึง เพราะสุขเดวะได้ฟังพระเวททั้งหมดมาจึงมีความบริสุทธิ์ตั้งแต่ออกมาจากครรถ์มารดา สุขเดวะ โกสวามิ จึงได้ ตรัส พระเวท ชรีมัด บะกะวัทธัม ทั้งหมด แด่เหล่าฤาษีทั้งหลาย และ มหาราช ปะริกชิทเป็นเวลา 7 วัน 7 คืนไม่ลุกไม่กินไปไหนทั้งสิ้น นี่คือ เรื่องราวส่วนหนึ่งของ สุขเดวะ โกสวามิ หรือ ศุกเทพ นั่นเองครับ



นี้คือ ภาพที่ สุขเดวะ โกสวามิ (นั่งบนบัลลังค์) กำลังตรัส ชรีมัด บากะวัทธัม ให้แด่เหล่าฤาษีทั้งหลาย นำโดยนารัดมุณี ฤาษีวยาส ส่วนบุคคลที่นั่งใกล้กับสุขเดวะ โกสวามิ มากที่สุดนั่นคือ ปะริกชิท มหาราช ซึ่งท่านได้รู้ตนเองว่ากำลังจะตายอีกไม่นาน จึงขอใช้เวลาที่เหลือนั่งฟัง ชรีมัด บากะวัทธัม เป็นเวลา 7 วัน 7 คือโดยไม่ได้ไปทั้งสิ้น ผลพวงจากการฟังพระเวททั้งหมด จะทำให้เราบริสุทธิ์ขึ้นที่ล่ะน้อย...และในที่สุดจะพาเราข้ามพ้นแห่งวัฏจักรการเกิดและตายได้

ปล.ศุกเทพ องค์นี้จริงๆบางทีผมว่าอาจจะไม่ใช่นกแก้วแต่อย่างไร อาจจะเป็น กรุดา หรือ ครุฑพาหนะของพระวิษณุก็เป็นได้ครับ หรือ ถ้าเป็น ศุกเทพ จริงผมจะหาคำตอบมาให้น่ะครับ
#13
ครับ....

หากมีความประสงค์ต้องการที่จะลากราชรถนั้น ให้ไปรอที่สวนลุมพิณีเลยครับประตูด้านตรงข้าม สน.ลุมพิณี ครับ ไปรอซักบ่ายโมงครึ่งเด๋วขบวนจะเคลื่อนออกจากศาลาอเนกประสงค์ครับ......แนะนำว่าแต่งตัวสบายๆน่ะครับ รองเท้าสบายๆเพราะต้องเดินไกลพอสมควรครับ...หรือท่านไหนที่ไม่สะดวกจะร่วมเดินขบวนกับพวกเราให้ไปรอปลายทางเลยก็ได้ครับ ที่ วัดเทพมณเฑียร (โรงเรียนภารตะ) ใกล้ๆกับ วัดสุทัศน์ และ โบสถ์พราห์มน่ะครับเพราะตัวผมเองก็คงไม่ได้ร่วมเดินขบวนครั้งนี้ เพราะต้องไปตั้งเครื่องดนตรีที่วัดเทพมณเฑียร ขึ้นไปรอเลยครับ ชั้น 2 หรือจะขึ้นไปชั้น 3 สักการะเทวรูปก็ได้ครับ...ถ้าผู้ใดสงสัย ก็ แอดอีเมลล์มาคุยได้ หรือ สายตรงที่เบอร์โทรศัพท์ของผมเลยน่ะครับ งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นน่ะครับ

ขอบคุณครับ
#14
ไม่ทราบว่าอยู่จังหวัดไหนครับ....ถ้าอยากมาจริงๆติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ผมเป็นการส่วนตัวได้น่ะครับ เด๋วผมจะอำนวยความสะดวกให้น่ะครับ
#15
ขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วม ขบวนแห่ราชรถองค์คริชณะ (พระกฤษณะ) จะกันนาท ระทะยาทระ
วันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค 2553 เวลา 14.00 น.
เริ่มขบวนที่สวนลุมพิณี ประตูตรงข้าม สน.ลุมพิณี
โทร. 082-597-0553 นพ
Email. nop_bassist@hotmail.com
 
เส้นทางขบวนแห่

เวลา 14.00 น. เริ่มออกจากสวนลุมพิณีประตูตรงข้าม ส.น. ลุมพิณี ถ.วิทยุ วนซ้ายเข้า ถนนสารสินและราชดำริ ตรงเข้า ถ.สีลม เลี้ยวขวา เข้า ถ.เจริญกรุง และ ถ.เยาวราช เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.จักรวรรดิ์ ที่สี่แยกวัดตึก กลับขบวนเข้า ถ.จักรเพรช เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พาหุรัด เลี้ยวขวาเข้า ถ.ตรีเพชร ผ่านแยกเฉลิมกรุงเข้า ถ.ตีทอง เลี้ยวขวาเข้า ถ.บำรุงเมืองที่เสาชิงช้า และ เลี้ยวขวา เข้าวัดเทพมณเฑียร

ตลอดเส้นทางจะมีการร้องเพลงภาวนามหามนต์ ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร / ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร ในทำนองที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ป๊อบ ร็อค เร้กเก้ หรือ ดั้งเดิม และเต้นรำกันอย่าง สนุกสานครื้นเครง พร้อมทั้งแจกอาหารทิพย์ (พระสาดัม) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

อานิสงส์ของผู้ร่วมขบวนแห่พระกฤษณะ
อานิสงส์ผลบุญของผู้ร่วมกิจกรรมนี้มีมากมาย มหาศาล ผู้ขับร้องเพลงมหามนต์ ฮะเรคริชณะ ผู้ได้ยินเสียงเพลงนี้ ผู้บรรเลงดนตรี ผู้แสดงละคร ผู้เต้นรำ ผู้ได้เห็นองค์จะกันนาท เจ้าแห่งจักรวาล ผู้ลาก/จูง/เข็น/ผลักราชรถ ผู้ปรุงอาหาร ผู้แจกจ่ายอาหารผู้รับประทานอาหารทิพย์ ทุกคนที่มีส่วนร่วมให้มหกรรมแห่ราชรถพระกฤษณะนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้ผู้เห็นขบวนแห่แล้วภายในใจมีความยินดีด้วยทุกคนที่กล่าวมานี้ ชีวิตจะมีความสุข เจริญ รุ่งเรือง ชีวิตจะเป็นศิริมงคล ความบาปในอดีตจะถูกชะล้างไป ความทุกข์จะบรรเทาลง บางคนอาจสามารถจบสิ้นความทุกข์ทั้งปวงในโลกวัตุถุนี้ได้ แม้ในชาตินี้หรือได้ไปเกิดสถานที่ดีๆในชาติหน้า

เสียงเพลงมหามนต์มีความศักดิ์สิทธิ์มากเหมือนดวงอาทิตย์ที่ให้ประโยชน์แด่ทุกชีวิต เป็นทิพย์อยู่เหนือโลกวัตถุ จึงไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ภาษา ผิวพรรณ เพศและวัย ใครๆก็มาร่วมร้องเพลงมหามนต์ได้ เพียงทำสมาธิที่เสียงแล้วจะทำให้ชีวิตมีความสุข ขจัดความอิจฉา ริษยา ภายในใจออกไปได้

พวกเราจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมร้องเพลง ภาวนามหามนต์ ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร / ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร  และเต้นรำอย่างมีความสุขล้วกลายมาเป็นคนมีคุณธรรมโดยปริยาย เป็นการทำความดีที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับยุคนี้ เพื่อถวายเป็รพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ปัจจุบันเราอยู่ในกลียุค หมายถึงยุคแห่งการทะเลาะวิวาท บรรยากาศไม่ค่อยดี ผู้คนหงุดหงิดง่าย ชอบทะเลาะ เกียจคร้าน ความจำไม่ดี อายุสั้น ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดและอับโชค วิธีที่จะทำให้ชีวิตมีความสงบสุข เชธัณญะ มหาพระบู อวตารรูปทอง ของ ราดาคริชณะ ทรงแนะนำวิธีที่ง่ายและได้ผลดีคือ ร้องเพลง ภาวนามหามนต์


              ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร
              ฮะเร รามะ    ฮะเร รามะ    รามะ    รามะ    ฮะเร ฮะเร


ที่ใดมีเสียงมหามนต์นี้ บรรยากาศจะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ทุกคนจะถึงพอใจ รื่นเริงและมีความสุขความเจริญ

แห่ทำไม ?
ความหมายลึกๆของการฉลองแห่ราชรถ ระทะยาทระ คือช่วงที่พระกฤษณะเป็นเด็กได้แสดงลีลาซึ่งให้ความสุขกับพวกโกปี(เด็กเลี้ยงวัวผู้หญิง) และพระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาว วรินดาวะนะ ทั้งหมด  และ ช่วงเป็นหนุ่ม พระองค์ได้มาอยู่ดวาระคาในฐานะกษัตริย์ พอได้ข่าวว่าพระกฤษณะจะมาที่ คุรุคเชทระ พวกโกปีจึงมาที่สมรภูมิอันศักดิ์สิทธิ์ คุรุคเชทระ แล้วลากจูงผลักพระกฤษณะ บะละราม และ สุภัตรา ให้ออกจากสนามรบ เพื่อชวนกลับไปมีความสุขเหมือนเดิมที่ วรินดาวะนะ

องค์จะกันนาท เจ้าแห่งจักรวาล
    ประมาณ 3 พันปีก่อน กษัตริย์สาวกชื่อว่า อินดรัดยุมนะ ทรงภาวนาว่า ''โอ้เจ้าแห่งจักรวาลกรุณาเผยโฉมให้ข้าได้เห็น'' จากนั้นซุงมหึมา 3 ต้นได้มาเกยที่ชายหาดพระวิศวกรรมแห่งสวรรค์ทรงแปลงตัวอาสามาแกะสลักโดยห้ามไม่ให้ใครไปรบกวน หลังจาก 2 อาทิตย์กษัตริย์เห็นเสียงเงียบไปทนไม่ไหวจึงทรงไปเปิดประตูเข้าไปดู พระวิศวกรรมทรงจากไปทันทีทั้งที่พระปฏิมายังไม่สมบูรณ์ยังขาดพระหัตถ์และพระเพลา
      
     อินดรัดยุมนะทรงเสียใจมาก บัดดลนั้น มีเสียงมจากท้องฟ้า ประกาศลงมาว่าให้กษัตริย์อย่าเสียใจ คริชณะทรงให้เป็นเช่นนี้และอธิบายว่าที่จะกันนาทไม่มรแขนขาเพราะพระองค์ทรงรู้สึกมีความปลื้มปิติสุขทิพย์สูงสุดเมื่อคิดถึงเหล่าสาวกที่วรินดาวะนะ จึงส่งผลให้แขนขาหดเข้าไปในพระวรกายทิพย์ของพระองค์ รูปลักษณ์แห่งจักรวาลนี้ ทรงเปิดเผยให้ทุกคนรู้ว่า คริชณะทรงรักสาวกมากเพียงใด











#16
Quote from: narada on February 24, 2010, 16:22:55
Quote from: แต่ก็มิได้นำพา on February 24, 2010, 08:25:30
ภาพนี้ ถ้าเป็น2องค์ เรียกว่า"gaura nitai"

ถ้าเป็น5องค์ เรียกว่า "ปัญจะ ตัตตวะ"




อันนิ่ คือ ไรอ่ะ อธิบายเพิ่มเติม เหรอ หรือเค้าเขียนผิด หรือ มาเป็นเชิงอรรถ ให้เค้า หรือ งง


คือ แบบนี้ครับผมจะอธิบายอีกครั้งน่ะครับ ถ้ายืนอยู่ 2 องค์เนี่ย เราจะเรียกว่า โกระ - นิทาย
1. เชธัณญะ มหาพระบูห์ (โกระ) เป็น อวตารรูปทององค์เดียวที่ร่วมกันระหว่าง พระกฤษณะ และ ราดาราณี เพื่ออวตารมาในกลียุค เพื่อนำมหามนต์มาแจกจ่ายและทำให้มนุษย์พ้นทุกข์ด้วยวิธีร้องเพลงสวดภาวนามหามนต์ (ย้อนกลับไปดูรูปภาพที่ยืนด้วยกัน ห้าองค์ คือ องค์ที่ห่มผ้าสีเหลือง)
และ
2. นิทยานันดะ (นิทาย) เป็น อวตารของ บะละราม และในยุคของพระราม ก็ อวตารเป็น พระลักษณ์ นั้นเอง (องค์ที่ห่มผ้าสีน้ำเงิน)

และถ้ายืนด้วยกัน ห้า องค์เราเรียกว่า ปัญจะ ทัททวะ
ปัญจะ แปลว่า 5
ทัททวะ แปลว่า มีอยู่จริง

เพราะฉะนั้น 5 องค์นี้มีอยู่จริงครับ.......

#17
สวัสดีครับ ฮาเร กฤษณะ!!!

วันนี้ผมมีสิ่งที่อาจจะใหม่สำหรับหลายๆคน หรือ หลายๆคนอาจจะรู้จักแล้วน่ะครับ ผมขอเชิญชวนเทศกาลโฮลี่ หรือ โกระ พูรนิมา  ครับ ปีนี้ตรงกับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ สิ้นเดือนพอดีครับ งานเราจัดที่ วัดเทพมณเฑียร ชั้น 2 กิจกรรม เราจะมีเริ่มตั้งแต่ 17.00 - 21.00 ครับ กิจกรรมทั้งหมดก็จะมีตั้งแต่ ร้องเพลง เต้นรำ กับ เสียงมหามนต์ บรรยาย ภัควัทคีตา และ ที่มาของเทศกาล หลังจากนั้นต่อด้วย มินิคอนเสิร์ต จาก Amrt kirtan band ที่จะมาร้องบรรเลง บทเพลง มหามนต์ ในรูปแบบ Rock กันทีเดียวเชียว อิอิ หลังจากนั้น รับประทาน พระสาดัม (อาหารทิพย์ที่ถวายแด่พระกฤษณะแล้ว)
ผมจะขอเล่าเกี่ยวกับ เทศกาล นี่นิดนึง น่ะครับ

จริงๆแล้วเทศกาลนี้ หรือ ที่คนทั่วไปเรียกว่า โฮลี่ จิงๆคือ วันประสูติของ พระองค์เจ้า เชธัณญะ มหาพระบูห์ เป็น อวตาร รูปทอง ของ พระกฤษณะ และ ราดา ราณี ร่วมร่างกัน โดย ที่ อวตารมาในรูปของ พระกฤษณะ และ อารมณ์ของราดาราณี เพื่อมาแสดงให้รู้ว่า ราดาราณีรักพระกฤษณะมากแค่ไหนทรงเป็นอวตารองค์เดียวที่ ราดา และ คริชณะ มารวมกัน พระองค์เสด็จลงมาในอวตารของพระผู้เป็นเจ้าที่มี พระมหากรุณาธิคุณสูงสุด เพื่อที่จะส่งวิญญาณที่ตกต่ำที่สุดในกลียุค(ยุคปัจจุบัน)ให้หลุดพ้น พระองค์ทรงสั่งสอนว่า ศาสนาสำหรับยุคนี้คือการร้องเพลงและสวดภาวนามหามนต์ ฮาเร คริชณะ ที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์ไดด้ องค์เชธัณญะ ตรัสไว้ว่า พระนามของพระผู้เป็นเจ้า(พระกฤษณะ)จะขจรขจายไปทั่วทุกเมืองและทุกหมู่บ้านในโลก

อีก2-3วันผมจะมาบอกเกี่ยวกับการประสูติให้อีกทีน่ะครับ
ถ้าผู้ใดสนใจมาร่วมงานกรุณาติดต่อที่
082-597-0553 นพ
nop_bassist@hotmail.com
งานนี้ทุกอย่างฟรี ใครชอบแดนซ์ ชอบกิน และได้บุญด้วย ห้ามพลาดงานนี้ครับ!!



รูปนี้เป็นรูปในขณะที่ องค์เชธัณญะ มหาพระบูห์ (องค์กลางผมยาวนุ่งผ้าสีเหลือง) กำลัง ชุมนุม ร้องเพลงสวดภาวนาพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ ของพระผู้เป็นเจ้า(พระกฤษณะ)







รูปนี้เป็นพระปฏิมา องค์เชธัณญะมหาพระบูห์ (องค์ขวา) และ นิทยานันดะ (องค์ซ้าย เป็นอวตารจาก บะละราม)



รูปนี้เรียกว่า Pancha Tattva หรือ ปัณฉะ ทัททวา เป็นขบวนการ ฮารินาม สังคีรทาน ที่จะตระเวณไปทั่วหมู่บ้านและทุกหนทุกแห่งเพื่อขับร้องมหามนต์
1.องค์กลาง เชธัณญะ มหาพระบู (อวตารจาก ราดาคริชณะ)
2.องค์ถัดมาทางซ้าย สีน้ำเงิน ชื่อ นิทยานันดะ (อวตารจาก บะละราม)
3.องค์ซ้ายสุด สีขาว ชื่อ ชรี อเดวทะ (อวตารจาก มหาวิษณุ และ พระศิวะรวมกัน)
4.องค์ขวา สีแดง ชื่อ กะดาดาระ (อวตารจาก ราดาราณ๊)
5.องค์สุดท้าย สีส้ม ชื่อ ชรี วาสาดิ (อวตารจาก นารัดมุณี)
#18
สวัสดีครับทุกคน
            
งานที่เห็นกันอยู่นั้นพวกเราเรียกว่า Ratha Yatra ครับเป็นงานเฉลิมฉลอง โดยพวกเราจะแห่ มูรติ พระกฤษณะ บะละราม และ สุภัตรา ครับ ในรูปจ้าวแห่งจักรวาล มีทั้งหมด 3 องค์เป็นพี่น้องกัน พระกฤษณะ องค์สีดำเราจะเรียกในรูปนี้ Jaganath หรือ จะกะนาท น่ะครับ ปีนี้เราตรงกับวันที่ 13 ก.ค. 2553 อย่างที่คุณ กาลิทัส ได้บอกไว้ข้างต้นครับ ผู้ใดสนใจ ก็ มาร่วมกันได้น่ะครับ และ เร็วๆนี้เราก็จะมีงานฉลองเนื่องใน เทศกาลโฮลี่(โกระ พูรนิมา) ครับ ส่วนรายละเอียด ที่มาที่ไปของเทศกาลนี้ ไปตามลิงค์ข้างล่างเลยน่ะครับ ผมเคยลงไว้แล้ว

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=384.0
#19
ช่ายครับนี้คือครอบครัวพระกฤษณะ แต่ผมขอแก้ไขเล็กน้อยน่ะครับ

องค์สีขาวนั่นคือ บะละราม หรือ พลราม พี่ชายของพระกฤษณะ
องค์สีเหลือง นั่นคือ สุภัตตรา คือ น้องสาวของพระกฤษณะ
องค์สีดำนั่นคือ พระกฤษณะ ครับ

ส่วนสาเหตุที่มีสีดำเพราะว่า

จิงๆแล้วพระปฏิมาตามต่างประเทศของพระองค์เองหรือที่ มายาพูร หรือ วรินดาวัน พระองค์ก็จะมีทั้งดำและขาว ส่วนสาเหตุที่ดำนั่นเพราะว่า เพราะองค์รับบาปทั้งหมดของเหล่าสาวกของพระองค์ ผู้ใดที่ศิโรราบต่อ พระองค์ ผู้นั้นบาปที่เคยมีในอดีตจะถูกชะล้างออกไป หนักก็จะเป็นเบา สาวกของพระองค์จะไม่ได้รับความทุกข์ใดๆเลย

ครั้งหนึ่ง สาวกของพระองค์ กำลัง พาวัวไปกินหญ้า อย่างมีความสุข แต่พวกเค้าเหล่านั้นไม่รู้เลยว่า กำลังจะมีภัยจากมารตนนึง
หลังจากนั้น พระกฤษณะ ก็รู้สึกถึงความอันตรายของสาวก จึง รีบไปปกป้องสาวก ก่อนที่มารเหล่านั่นจะไปถึง สาวกของพระองค์นั่นก็ไม่รู้เรื่องเลยว่ากำลังจะมีอันตรายเข้ามา เค้าจึงมีแต่ความสุข ไม่ได้รับความทุกข์ใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่ศิโรราบ อุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อพระองค์ ผู้นั้นจะมีแต่ความสุข
#20
ขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วม ขบวนแห่ราชรถองค์คริชณะ (พระกฤษณะ) จะกันนาท ระทะยาทระ
วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552 เวลา 14.00 น.
เริ่มขบวนที่สวนลุมพิณี ประตูตรงข้าม สน.ลุมพิณี
โทร. 081-269-9847 นพ

เส้นทางขบวนแห่

เวลา 14.00 น. เริ่มออกจากสวนลุมพิณีประตูตรงข้าม ส.น. ลุมพิณี ถ.วิทยุ วนซ้ายเข้า ถนนสารสินและราชดำริ ตรงเข้า ถ.สีลม เลี้ยวขวา เข้า ถ.เจริญกรุง และ ถ.เยาวราช เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.จักรวรรดิ์ ที่สี่แยกวัดตึก กลับขบวนเข้า ถ.จักรเพรช เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พาหุรัด เลี้ยวขวาเข้า ถ.ตรีเพชร ผ่านแยกเฉลิมกรุงเข้า ถ.ตีทอง เลี้ยวขวาเข้า ถ.บำรุงเมืองที่เสาชิงช้า และ เลี้ยวขวา เข้าวัดเทพมณเฑียร

ตลอดเส้นทางจะมีการร้องเพลงภาวนามหามนต์ ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร / ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร ในทำนองที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ป๊อบ ร็อค เร้กเก้ หรือ ดั้งเดิม และเต้นรำกันอย่าง สนุกสานครื้นเครง พร้อมทั้งแจกอาหารทิพย์ (พระสาดัม) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

อานิสงส์ของผู้ร่วมขบวนแห่พระกฤษณะ
   อานิสงส์ผลบุญของผู้ร่วมกิจกรรมนี้มีมากมาย มหาศาล ผู้ขับร้องเพลงมหามนต์ ฮะเรคริชณะ ผู้ได้ยินเสียงเพลงนี้ ผู้บรรเลงดนตรี ผู้แสดงละคร ผู้เต้นรำ ผู้ได้เห็นองค์จะกันนาท เจ้าแห่งจักรวาล ผู้ลาก/จูง/เข็น/ผลักราชรถ ผู้ปรุงอาหาร ผู้แจกจ่ายอาหารผู้รับประทานอาหารทิพย์ ทุกคนที่มีส่วนร่วมให้มหกรรมแห่ราชรถพระกฤษณะนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้ผู้เห็นขบวนแห่แล้วภายในใจมีความยินดีด้วยทุกคนที่กล่าวมานี้ ชีวิตจะมีความสุข เจริญ รุ่งเรือง ชีวิตจะเป็นศิริมงคล ความบาปในอดีตจะถูกชะล้างไป ความทุกข์จะบรรเทาลง บางคนอาจสามารถจบสิ้นความทุกข์ทั้งปวงในโลกวัตุถุนี้ได้ แม้ในชาตินี้หรือได้ไปเกิดสถานที่ดีๆในชาติหน้า

   เสียงเพลงมหามนต์มีความศักดิ์สิทธิ์มากเหมือนดวงอาทิตย์ที่ให้ประโยชน์แด่ทุกชีวิต เป็นทิพย์อยู่เหนือโลกวัตถุ จึงไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ภาษา ผิวพรรณ เพศและวัย ใครๆก็มาร่วมร้องเพลงมหามนต์ได้ เพียงทำสมาธิที่เสียงแล้วจะทำให้ชีวิตมีความสุข ขจัดความอิจฉา ริษยา ภายในใจออกไปได้

    พวกเราจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมร้องเพลง ภาวนามหามนต์ ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร / ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร  และเต้นรำอย่างมีความสุขล้วกลายมาเป็นคนมีคุณธรรมโดยปริยาย เป็นการทำความดีที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับยุคนี้ เพื่อถวายเป็รพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

   ปัจจุบันเราอยู่ในกลียุค หมายถึงยุคแห่งการทะเลาะวิวาท บรรยากาศไม่ค่อยดี ผู้คนหงุดหงิดง่าย ชอบทะเลาะ เกียจคร้าน ความจำไม่ดี อายุสั้น ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดและอับโชค วิธีที่จะทำให้ชีวิตมีความสงบสุข เชธัณญะ มหาพระบู อวตารรูปทอง ของ ราดาคริชณะ ทรงแนะนำวิธีที่ง่ายและได้ผลดีคือ ร้องเพลง ภาวนามหามนต์


                      ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร
                      ฮะเร รามะ    ฮะเร รามะ    รามะ    รามะ    ฮะเร ฮะเร


ที่ใดมีเสียงมหามนต์นี้ บรรยากาศจะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ทุกคนจะถึงพอใจ รื่นเริงและมีความสุขความเจริญ

แห่ทำไม ?
ความหมายลึกๆของการฉลองแห่ราชรถ ระทะยาทระ คือช่วงที่พระกฤษณะเป็นเด็กได้แสดงลีลาซึ่งให้ความสุขกับพวกโกปี(เด็กเลี้ยงวัวผู้หญิง) และพระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาว วรินดาวะนะ ทั้งหมด  และ ช่วงเป็นหนุ่ม พระองค์ได้มาอยู่ดวาระคาในฐานะกษัตริย์ พอได้ข่าวว่าพระกฤษณะจะมาที่ คุรุคเชทระ พวกโกปีจึงมาที่สมรภูมิอันศักดิ์สิทธิ์ คุรุคเชทระ แล้วลากจูงผลัก
พระกฤษณะ บะละราม และ สุภัตรา ให้ออกจากสนามรบ เพื่อชวนกลับไปมีความสุขเหมือนเดิมที่ วรินดาวะนะ

องค์จะกันนาท เจ้าแห่งจักรวาล
      ประมาณ 3 พันปีก่อน กษัตริย์สาวกชื่อว่า อินดรัดยุมนะ ทรงภาวนาว่า ''โอ้เจ้าแห่งจักรวาลกรุณาเผยโฉมให้ข้าได้เห็น'' จากนั้นซุงมหึมา 3 ต้นได้มาเกยที่ชายหาดพระวิศวกรรมแห่งสวรรค์ทรงแปลงตัวอาสามาแกะสลักโดยห้ามไม่ให้ใครไปรบกวน หลังจาก 2 อาทิตย์กษัตริย์เห็นเสียงเงียบไปทนไม่ไหวจึงทรงไปเปิดประตูเข้าไปดู พระวิศวกรรมทรงจากไปทันทีทั้งที่พระปฏิมายังไม่สมบูรณ์ยังขาดพระหัตถ์และพระเพลา
      
       อินดรัดยุมนะทรงเสียใจมาก บัดดลนั้น มีเสียงมจากท้องฟ้า ประกาศลงมาว่าให้กษัตริย์อย่าเสียใจ คริชณะทรงให้เป็นเช่นนี้และอธิบายว่าที่จะกันนาทไม่มรแขนขาเพราะพระองค์ทรงรู้สึกมีความปลื้มปิติสุขทิพย์สูงสุดเมื่อคิดถึงเหล่าสาวกที่วรินดาวะนะ จึงส่งผลให้แขนขาหดเข้าไปในพระวรกายทิพย์ของพระองค์ รูปลักษณ์แห่งจักรวาลนี้ ทรงเปิดเผยให้ทุกคนรู้ว่า คริชณะทรงรักสาวกมากเพียงใด