Messages

สวยงามจังค่ะ ปลื้มแทน เจ้าของหิ้ง

[HIGHLIGHT=#ccc1d9]ขอบคุณมากมาย สำหรับหมายกำหนดการนะคร้า ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#953734]จากที่เคยศึกษามาซึ่งนานมากๆแล้วไม่ทราบว่าจะ ถูกต้องทั้งหมด รึป่าวนะคะ แต่ คิดว่าน่าจะถูกนะคะ ตามความคิดเห็นส่วนตัว ตรงฐานศิวะลึงค์ คือ สัญลักษณ์คล้ายๆกะโยนี คือ สัญลักษณ์ของเพศแม่ ส่วน ด้านบนที่เป็นคล้ายๆสัญลักษณ์ของเพศชาย คือ การบูชามหาเทพฝ่ายชาย รวมกัน คือ การก่อกำเนิด คือ ศิวลึงค์นั่นเอง เพราะเปรียบเสมือนอุปมา-อุปมัย ถ้าไม่มี แม่และพ่อ คือ ศิวลึงค์ สังเกตตรงฐาน และ ตรงด้านบนที่เป็นแท่นสูงอ่ะคะ เพราะถ้าไม่มีทั้งสองสิ่ง เราก้อ เกิดมาไม่ได้ นั่นเอง ไม่รู้ว่าคำตอบจะถูกต้องมั๊ย เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ เราเลยต้องบูชาไงคะ เพราะเป็นเหมือนการก่อกำเนิดให้เราได้เกิดมานั่นเอง "โอมนมัสศิวะยา" ขอพระองค์ทรงประทานพรแด่ผู้ที่ศรัทธาในมหาเทพนะคร้า อ้อ ลองสังเกตจะมีภาพหรือเทวรูปของพระคเนศกอดศิวลึงค์หรือบูชาศิวลึงค์อยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าเรามีโอกาสหรือมีเวลาก้อควรจะบูชานะคะ แต่ต้องไม่มากไม่น้อยเกินไปเอาแต่พอดีค่ะ^_^[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#953734][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#953734]ท้ายนี้เพื่อนๆท่านใดพอจะทราบบ้างค่ะ ว่า "งู" ที่วางตรงแท่นศิวลึงค์นั้นมีความหมายว่าอย่างไร ข้อนี้ เรา ยังไม่ค่อยกระจ่างเท่าไหร่อ่ะคะ รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^_^[/HIGHLIGHT]

มาแล้วค่ะสดๆร้อนๆพอดี ญาติเพิ่งไป อัสตะวินายะกะ มาอีกรอบเลยนำมาแบ่งปันรอบที่ 2 ค่ะ







ปล.บทสวดมนต์เหมือนเดิมทุกอย่างตามที่เคยโพสไว้นะคะ อาจไม่ค่อยชัด แต่ รอบนี้มีคำแปลต่อท้ายด้วย รบกวนแกะคำแปลหน่อยนะคะ เพราะรอบนี้ที่ญาติเค้าไป เค้า ไปเพื่อต้องการคำแปลออกมาจริงๆและ ไกด์ชาวอินเดียก้อแปลออกมาให้ค่ะ รบกวนให้เครดิตด้วยนะคะ จะก๊อปไปใช้ก้อไม่ว่ากันค่ะ ยินดีอย่างยิ่งเลย รฐา ไชยกีรตินาท^_^

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ของพี่หริทาส มากๆเลยค่ะ

[HIGHLIGHT=#c3d69b]สู้ๆค่ะ มาเป็นแรงใจให้น้องเสืออีกคนนะจ๊ะ ยกคำว่า "Tiger Art" ให้น้องเสือไปเลยละกัลลล ชอบผลงานของน้องเสือค่ะ อย่าได้แคร์สื่อ นะจ๊ะ สู้ๆ^_^[/HIGHLIGHT]

ถ้าไม่สามารถไปร่วมพิธีที่วัดได้

เราสามารถบูชาพิธีทั้ง 2 นี้ที่บ้านได้มั้ยค่ะ

ถ้าได้  ....  ขอความคำนำด้วยค่ะ

ขอบคุณมากกกกกกกกกก....มากเลยค่ะ

ความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าได้นะคะ ก้อสวดมนต์เหมือนปกติเช่นทุกๆวันอ่ะคะ เพราะไม่ว่าวันไหน วันอาราย พระองค์ก้อสำคัญกับเราทุกๆวัน ^_^ไม่ใช่เฉพาะวันสำคัญเท่านั่นแล้วเราค่อยทำเพื่อพระองค์

นอกจากพิธีไทปูซั่มแล้ว ยังมีพิธีใหญ่ในวันเดียวกันอีกค่ะ คือวัน บูชาพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ด้วย เพราะตรงกะวันขี้น 15 ค่ำพอดีค่ะ

ที่เทพมณเฑียร จะมีการประกอบพิธีในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
เริ่มประกอบพิธีเวลาประมาณ 18.00 น.เป็นต้นไปครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคร้า ^_^

[HIGHLIGHT=#1f497d]หนูขอช่วยด้วยคนนะคร้า ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#c3d69b]โดยส่วนตัวก้อจุดกำยาน 1 ดอกเช่นกันค่ะ แล้ว นำไปวางไว้นอกระเบียง แต่ สำหรับตะเกียงน้ำมันหอมละเหยที่นำมาให้ได้ชมกัน จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการไม่ให้เสียสุขภาพในการดมกลิ่นควัน ถ้าเราใช้ตะเกียงที่ทำสำหรับใช้กลิ่นอโลม่า บำบัดร่างกายให้ผ่อนคลายก้อ ดีไปอีกแบบนะคะ ได้จุดกลิ่นหอมๆถวายองค์มหาเทพ เวลาเราจุดตะเกียงอโลม่าแล้วสวดมนต์ก้อจะมีสมาธิผ่อนคลาย มีความสุข ไม่เสียสุขภาพด้วย ถ้าเลือกกลิ่น เช่น ดอกโมก จำปี มะลิ หรือ ลาเวนเดอร์ ก้อ หอมละมุนค่ะ แต่ ยังมีอีกหนึ่งแบบที่ ง่ายกว่าการจุดกำยานหรือธูปก้อคือ ซองกลิ่นธรรมชาติ อ่อนๆอ่ะค่ะ ต้องเลือกแบบกลิ่นธรรมชาดจริงๆนะคะ พวกที่มีสารเคมีเจือปนอย่าซื้อมา เสียสุขภาพค่ะ เลือกแบบ ร้านที่ขายอโลม่าธรรมชาด จะเป็นซองๆมีก้อนกลมๆคล้ายๆเม็ดโฟมเล็กๆอ่ะคะ หอมทนนานดีเชียวหล่ะ เอามาวางไว้หน้าหิ้งๆ เราก้อจะหอมทนนานดีด้วย แต่ มีเคล็ดลับสำหรับ บ้างบ้านบางหิ้งที่มีมดแมลง มารบกวนหิ้ง "รฐา" แนะนำ วางการบูรที่เป็นผงๆนำมาห่อใส่กระดาษบางๆก้อ ช่วยได้นะคะ แถม กลิ่นก้อ หอมเช่นกันค่ะ ^_^[/HIGHLIGHT]

ช่วงนี้ที่สีลมคอมเพลส มี บูทโชว์เกี่ยวกับ ตะเกียงน้ำมันหอมละเหยสวยๆ ราคา ย่อมเยามาจัดจำหน่ายค่ะ วันนี้ไปเดินมา เลยนำภาพมาให้เพื่อนๆชม เผื่อมีท่านใดผ่านไปแถวๆนั้นหรือไปวัดแขกสีลม จะได้ แวะชมกันนะคะ ราคาย่อมเยาว์ไม่ค่อยแพงมาก อุ๊ปอิ๊ปแอบถ่ายภาพเค้ามาให้ เพื่อนๆ HM ชมกันค่ะ ภาพอาจไม่ค่อยชัดและมุมไม่ค่อยสวยเท่าไหร่กลัวโดนเค้า ดุ ค่ะ อยู่ ชั้น 1 เลยนะคะ เทียนหอมถูกมากๆเลยด้วยลองเช็คราคาดูแล้วค่ะ ตะเกียงจุดไฟแบบเสียบปลั๊กแล้วหยดน้ำมันหอมละเหย ทรงเก๋ไก๋ กว่าที่อื่นมั๊กมากเลยอ่ะค่ะ ^_^

[HIGHLIGHT=#b7dde8]ขอบคุณ คุณaekaek และ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆครอบครัว HM ทุกๆท่านที่มาโพสเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณสำหรับพรที่ทุกๆท่านให้มาและขอให้พรที่ทุกๆท่านให้มา ย้อนกลับไปสู่ทุกๆท่านเช่นกันค่ะ บ้าน HM ของเราอบอุ่นจังเลยเน๊อะ ยิ้มกริ่มเลยค่ะปลื้มจัง ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#b7dde8]aekaek [/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#b7dde8][/HIGHLIGHT]

ภาพของ คุณchenwong ดอกบัวลอยในแก้ววางบนขันโตก งดงามมากๆเลยค่ะ สวยๆ ชอบๆ ไว้ อาจขอก๊อปไปใช้บ้างนะคร้า อิๆ ^_^

[HIGHLIGHT=#ebf1dd]ขอปรบมือให้คร้า สุดยอด จริงๆ เลย เห็นแล้ว ก้อ อยากจะไปหาส่าหรีมาเพิ่มซะแล้ววว ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้นะคร้า  สุดยอดค่ะ ^_^อยากให้พี่กาลิทัสสส เจ้าขา มามอบของรางวัลให้กับกระทู้ที่มีประโยชน์สำหรับครอบครัว HM จัง พี่กาลิทัสสส อยู่หนายยย คร้า มาแจกของรางวัลหน่อยเร็วๆ หนู โหวตให้กระทู้นี้ค่ะ [/HIGHLIGHT]

ปีนี้ยังไม่ทราบวันที่แน่นอนค่ะ แต่ ที่แน่ๆ โบสถ์เทพมณเฑียร กะ วัดแขกสีลมจัด sure ค่ะ เลยนำภาพเมื่อปีที่แล้วมาให้ชมนะคะ

ภาพแรก ซุ้มประธาน ค่ะ ทางโบสถ์อนุญาตให้ถ่ายภาพได้ค่ะ น่าจะถึงโบสถ์ประมาณ 19.00น งานเสร็จประมาณ ถ้าจำไม่ผิด เกือบๆ ตี 1 ก่อนจบงานจะมีให้อารตี ร้องเพลง สนุกสนานมากๆค่ะ เพราะ บางคนไม่ทราบว่าจะมีอารตี ถาดควันไฟ กำยาน หอมฟุ้งทั่วโบสถ์เลยค่ะ (บางคนถาดไหม้แอ๊ปเปิ้ลผลไม้ไหม้ก้อมี แต่ อิ่มเอมค่ะ อย่าลืม นำการบูรก้อนไปด้วยนะคะเอาไว้ใช้ตอนอารตี ผู้คนที่ไปร่วมงานแบ่งปันมีน้ำใจต่อกันมากๆเลยค่ะ งานอบอุ่นมากๆ)แถมยังมีอาหารมังสวิรัส ให้รับประทานด้วยนะคะ

พอจบจากโบสถ์เทพมณเฑียรเราก้อสามารถไปต่อที่วัดแขกสีลมได้อีกด้วยค่ะเพราะยังทันอีก 2 รอบ ^_^



ต่อด้วย ศิวลึงค์ ณ โบสถ์เทพมณเฑียร อย่าลืม มาสรงค์น้ำที่ศิวลึงค์ขอพรด้วยนะคร้า (ไฮไลท์ของงาน)



คุณยายคุณหลานที่แสนใจดีแนะนำขั้นตอนกระบวนการสรงค์ศิวลึงค์พร้อมทั้งแปลภาษาอินเดียเป็นภาษาไทยให้เราฟังด้วยค่ะ ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ค่ะ



ที่นี่เค้าสรงค์กันแบบนี้ค่ะ นม ทั้งกล่องเลย ส่วนพานยืมทางโบสถ์ค่ะ นำไปเองได้ก้อ จะเป็นการดีนะคะ



สุดท้าย เราต้องห่มผ้าศิวลึงค์ด้วยนะคะ และ นำปาซาส ของประสาทพร นำกลับมารับประทาน อย่าลืม น้ำหอม เหรียญ น้ำตาล น้ำผึ้ง นมรสธรรมชาด น้ำอ้อย น้ำสะอาด ผ้าห่มศิวลึงค์ ผลไม้ ลูกเกด โยเกิต พวงมาลัย ไปด้วยนะคร้า ถ้าบอกผิดพลาดประการใด รบกวนท่านผู้รู้ด้วยนะคร้า เพราะปีที่แล้ว พี่ที่แสนดีพี่เกียร์ไนท์เค้าเตรียมให้หมดเลยค่ะ อ้อ ใบมะตูม ห้ามลืม ปล.ที่โบสถ์เทพมณเฑียรนิยมใส่เสื้อสีขาวไปนะคร้า อาจจะดึกนิสสสนึง เตรียมลางานโลดเลยค่ะ โอม นมัส ศิวะ ยา ขอพระองค์ทรงโปรดประทานพรแด่ สมาชิก HM ทุกๆท่านนะคร้า ^_^

ภาพนี้ไอเดียเราเองนะคะ นำภาพมา ใส่ไว้ในดอกบัว แล้ว ลอยน้ำค่ะ คิดว่า น่าจะพอถูๆไถๆไปได้เป็นไอเดียของเราเองค่ะ เพราะจะจุดประทีปด้านนอกระเบียงห้องป้องกันฟืนไฟได้ด้วย ส่วนชาม หาวัสดุมาลอยน้ำไม่ทัน เลยหาชามใบเล็กๆมาลอยน้ำแทน วางบนกระถางต้นตุลสี แต่ เหลือแต่ก้านอ่ะค่ะ(แอบอายเล็กน้อย) เพื่อนๆ HM นำมาเป็นไอเดียได้นะคร้า ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ เพราะใจอยากจะจุดประทีป ถวายพระแม่ค่ะ




แถมอีกหนี่งภาพ ดีปาวาลี เมื่อปีก่อน ไปวัดแขกเสร็จ รีบกลับมาบ้าน รีบๆจุดประทีป ทำอารายไม่ทัน เลยนำเหรียญ มาลอยในอ่างบัว ทำถวายพระแม่ศรีมหาลักษมีเลยค่ะ รวดเร็วทันใจทันเวลาพอดีเลย ^_^

[HIGHLIGHT=#9bbb59]เข้าไปชมมาแล้วค่ะ ภาพสวยงามจัง แต่ภาพ เทวรูปน้อยไปนิสสส แต่ ก้อ งามค่ะ ชอบๆ วัฒนธรรมประเทศเค้าคล้ายกะเราดีท่าทางจะปรับตัวได้ไม่ยากถ้าได้เดินทางไปเที่ยว ^_^ อยากเก็บตังค์ลาพักร้อนเลยนะคะเนี่ย อิๆ[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#76923c]สวยงาม ทุกๆหิ้งเลยค่ะ ดูสงบ สะอาด ดีจริงๆ ปลื้มๆแทนท่านเจ้าบ้านค่ะ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#92cddc]สวยจังค่ะ น้องคิว น้ำลายย้อยเลย ^_^[/HIGHLIGHT]

เขิลลล จัง คนอื่นเค้าหัดแต่งจากองค์ ส่วน เรา หัดแต่งจากตุ๊กตา บั๊กบันนี่ ตุ๊กตาตัวนี้ แต่งไป ร้องได้อีกต่างหาก แต่งไป ตุ๊กตาก้อ จะร้อง เห่อๆๆ I'm bug bunny เห่อๆๆๆ I love u (ประหนึ่งเหมือนแอบหัวเราะใส่เจ้าของซะงั้น)ตุ๊กตา เค้าร้องอย่างนี้จริงๆนร้าคร้า เพราะถ้า แต่ง แล้ว มือไปโดนตรงท้องเค้าก้อ จะร้องได้ด้วย ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะคร้า แอบอายเพื่อนๆ HM เล็กน้อย แต่ หัดจากตุ๊กตาก่อนจริงๆนร้าคร้า เพื่อนๆ หัดตามได้นร้าอันนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ  ^_^

มาเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เป็นกำลังใจให้ท่านเจ้าของกระทู้ สร้างให้สำเร็จสมดังสัจจะที่ได้ให้ไว้กะพระแม่ศรีมหาลักษมีนะคร้า ขอพระแม่ศรีมหาลักษมี ทรงโปรดประทานพร อำนวยอวยชัยให้ทุกท่านที่ศรัทธาในพระองค์ นะคร้า ^_^ โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะ มะ ฮา สรรเสริญนอบน้อมบูชาและจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีเพื่อพระองค์ค่ะ ^_^

ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคร้า มีประโยชน์มากมายเลย ^_^

[HIGHLIGHT=#ffff00]รับทราบและพร้อมจะปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เจ้าค่ะ ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#fdeada]HaPpY BiRtH DaY พี่สิรวีย์ นะคร้า ขอให้มีแต่สิ่งดีๆในชีวิต ไม่เจ็บไม่จน เฮงๆ รวยๆ คนรักเยอะๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา นะคร้า เห็นว่า พี่สิรวีย์ โชว์ภาพพระแม่ศรีมหาลักษมี ขอพระองค์ทรงโปรดประทานพรให้คุณพี่มีความสุขมากๆนะคะ ^_^[/HIGHLIGHT]







ภาพนี้ ขออนุญาต ก๊อปคุณมีนมานะคะ พอดีเซฟไว้ในคอม คงไม่ว่ากันเน๊อะ ^_^

ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้นะคะ งดงามมากๆเลยค่ะ วิธีการสอนละเอียดมากๆเลย ขอให้พระแม่คุ้มครองท่านเจ้าของกระทู้นะคร้า ขอให้มีอาภรณ์นุ่งห่มที่งดงาม มีความงามทั้งเรือนร่างและหัวใจตลอดไปค่ะ งดงามมากจริงๆปลื้มแทนจัง ส่าหรีสีฟ้าเขียวน้ำทะเลตัดทองสวยมากๆกำลังจะหาอยู่พอดีเลยค่ะ สวยๆ ชอบๆ กระทู้นี้มากมาย ^_^

ขอร่วมแชร์ภาพบ้างนะคะภาพนี้พระคเนศองค์เล็กมากๆเลยค่ะ แต่งองค์เรียบร้อยแล้ว แต่ ไม่ค่อยเนี๊ยบเท่าไหร่(ครูพักลักจำค่ะ) ถ้า ท่านเจ้าของกระทู้ว่างๆนำภาพการแต่งองค์มหาเทพฝ่ายชายมาสอนมั่งนะคร้า ขอบคุณล่วงหน้าคร้า






ส่วนอีกภาพ หัดแต่งจากตุ๊กตาค่ะ มะก่อนแต่งไม่เป็นค่ะ เลยลองใช้ตุ๊กตา มาลองหัดแต่ง เห็นเพื่อนๆเค้าแต่งกัน ผ้าเราก้อหาผ้าส่าหรี่สองเชิงไม่ได้เลยใช้ผ้าที่เรามีมาประยุกหัดแต่งดู เริ่มหัดจากตุ๊กตาก่อน ตอนนี้พอแต่งเป็นบ้างแล้วค่ะ แต่ ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

[HIGHLIGHT=#fdeada]ขอบพระคุณทุกๆข้อความนะคะ เรา ครอบครัวเดียวกัน HM เหมือนๆกัน หนูก้อยินดีอะไรที่สามารถทำให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆในครอบครัว HM มีความสุขได้ ก้อพยายามจะทำให้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านนะคร้า พรใดที่ทุกๆท่านให้มา ขอ ให้พรนั้น กลับไปสู่ทุกๆท่านเช่นกันนะคร้า (ว่าแต่ พี่กาลิทัสสสสส เจ้าขา ของขวัญวันเกิดหนู บอกจะส่งมาให้ทางที่อยู่พี่เกียร์อ่ะ ลืมแล้นนน ชิมิ คนแก่ก้อเงี๊ยะ ข้ามปีแล้นนร้าคร้า ปล.ไม่ได้ทวงนะ เผื่อลืม ^_^) [/HIGHLIGHT]

ส่งมอบพระแม่กาลีให้พี่เก๋ Sunshaip เรียบร้อยแล้วนะคร้า ^_^ โอม เจ มาตา กาลี

ปล.เทศกาลนวราตรี อย่าลืม นำพระแม่กาลี ไปร่วมงานด้วยนะคร้า พี่เก๋

องค์ที่บ้าน งดงามจังค่ะ พี่สิรวีย์ ปลื้มแทนจังค่ะ ^_^

คืนวันศุกร์กะคืนวันเสาร์ หนู อาสา เฝ้าบ้านให้คร้า ^_^

งดงามมากเลยค่ะ ว่าแต่ คุณเสีอน่าจะทำลิขสิทธิ์ซะหน่อยนะคะ (ด้วยความเป็นห่วงค่ะ)ชื่นชมจริงๆ งดงามจากศรัทธาด้วยหัวใจ โอม เจ มาตา กาลี โฮมฮเรกฤษณะ

ขอบคุณมากกๆๆ พี่กาลิทัส น้องรอดูรูปแดนซ์อยู่นะคร่ะ...

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นด้วยยย

โต๊ะเล็กแต่เจ้าของโต๊ะ สวย รวย เงินเยอะ ศรัทธาเยอะ  ด้วยยย 5555

น้ำหวานจ๋า ขอโทดที นึกว่า เข้ามาชมแล้วซะอีก ภาพสวยม๊าก วันนี้ไปทำงาน แอบเปิดคอมพอดีเพื่อนเค้าคลิ๊กมาเจอซุ้มน้ำหวานไง ชมกัน อย่างแรงเลยรวมถึงโต๊ะ คุงมีน น้องกัล เลยหล่ะ ว่า ซุ้มสวยมั๊กมาย และชมว่า เพื่อนเราสวยๆอิๆ โอม ศักติ พารา ศักติ (อุ๊ปปป) ตะโกนซะดังเลยหนะหน่ะ โอม ศักติ ปารา ศักติ  เดินไปโต๊ะน้ำหวาน พระแม่อุมา ผ่านมาที่โต๊ะวิ่งกลับมาโต๊ะแทบไม่ทันเพราะน้องกัล กลิ้ง มาส่ง อิๆ   take care จร้า ^_^

[HIGHLIGHT=#f2dcdb]มะก่อนก้อเก็บๆๆๆๆๆอย่างแรงค่ะ แต่เดี๊ยวนี้ไม่ค่อยได้เก็บแล้ว เพราะไม่มีที่ให้วางเทวรูป แต่ บางครั้ง ที่ใกล้วันเกิดเพื่อน ก้อ จะนำมาห่อเป็นกล่องของขวัญ แทน กล่องกระดาษธรรมดาๆ ค่ะ อิ่มใจทั้งผู้ให้ ส่วนผู้รับก้อ คงจะดีใจที่ได้ภาพกล่องของขวัญสวยๆและเป็นภาพมหาเทพมงคลในวันสำคัญๆของเค้าอ่ะค่ะ ^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#d7e3bc][HIGHLIGHT=#dbeef3]รายงานความคืบหน้าค่ะ วันนี้ได้ส่งมอบพระแม่ศรีมหาลักษมีเรียบร้อยแล้วนะคร้า นำภาพมาให้ชมค่ะ ผู้รับพระแม่ไปบูชาต่อ ชื่อ คุณพี่ลูกปลา ค่ะ บูชาพระนารายณ์อยู่แต่ยังขาดพระแม่ศรีมหาลักษมี อยากให้พระองค์ได้อยู่ครองคู่กันเพราะพระองค์ไม่เคยแยกจากกันโดยส่วนตัวศรัทธาในความรักของทั้งสองพระองค์ เห็นพี่เค้าบูชาพระนารายณ์อยู่พระองค์เดียว ไม่มีพระแม่ศรีมหาลักษมีเคียงคู่ก้อเลยเลือกที่จะมอบให้คุณพี่ลูกปลาค่ะ พระองค์จะได้เป็นมหาเทพแห่งความรักตลอดไปตามตำนานแห่งความ"รัก"ที่สมบูรณ์พูนสุข ตราบนานเท่านาน โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะ มะ ฮา รักพระแม่ศรีมหาลักษมีอย่างสุดซึ้งค่ะ (แอบเก็บภาพถ่ายมาให้ชมด้วยนะคร้า) ^_^

[/HIGHLIGHT]
[/HIGHLIGHT]







[HIGHLIGHT=#dbeef3]ส่วนพี่เก๋ที่ยื่นความจำนงค์มา เรา นัดกันหลังไมค์แล้วนะคร้า ไว้เจอกันหน้าวัดแขกนะคร้า(ขอเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานนะคร้า) อย่าลืมทำป้าย HM ไปด้วยนะคร้า อิๆ  (ขอพรที่ทุกท่านให้มาได้รับกลับไปเช่นกันนะคร้า)[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#d99694]ปีที่แล้ว ไปมา 2 รอบค่ะ รอบแรก คนพอจะเดินขี้นได้ อย่างสบายๆ แต่ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงวันเกิดหลวงพ่อ เดินแบบ คนติดอ่ะค่ะ ก้าวต่อก้าว ทรหด ม๊ากกก แต่ หลวงพ่อ ท่านจะบอก เสมอๆว่า การที่เรา สามารถ เดินขึ้นไป กราบนมัสการรอยพระพุทธบาท บทยอดเขาที่สูงๆได้นั้น คือ กุศโลบาย ให้เราไม่ย่อท้อต่อความลำบาก ค่ะ เวลา เรากลับมาจาก การกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว เวลา เรา ท้อๆสิ่งใด ให้เรานึกดูซิ ว่า เขาคิชฌกูฏ เรา หน่ะ ขี้นมาแล้วนร้า ท่านที่เคยไปจะทราบดี จริงมั๊ยคร้า ส่วนตัวดิชั้น..คาดว่าปีนี้สงสัยคงต้องใช้เครื่องผ่อนแรงด้วยการเช่าไม้เท้า อีกแน่ๆ เลยค่ะ(ไม่ใช่คนแก่นร้าคร้าแต่หนูเดินไม่ไหวจริงๆใครอยากรู้ต้องลองนร้าคร้า) เพื่อนๆท่านใดไม่เคยไปว่างๆลองไปดูนะคร้า บรรยากาศดีมากๆเลยค่ะ ได้ฟิวอีกแบบนึงด้วย ทั้งพักผ่อน ทำบุญ และประเด็นสำคัญยังมี ลานมหาเทพด้วยนะคร้า ครบทุกๆพระองค์เลยหล่ะ ปีที่แล้วยังแอบนำผ้าเวสตี้ไปนุ่งให้พระคเนศ 5 เศียร ตรงลานเทพมาด้วยค่ะ ขออนุญาต จากทางวัดแล้วนะคะ เพราะการขึ้นเขาคิชฌกูฏนั้นมีกฏ กติกา คือ ห้ามเด็ดต้นไม้ ใบหญ้าทุกชนิด เป็นต้น และควรช่วยกันรักษาความสะอาด เพราะบนเขา ที่เปิด 3 เดือนนั้น จะมีพิธีเปิดเขา คือ สัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง หมี เก้ง กวาง เค้า จะไม่ออกมารบกวนเราแม้แต่มดและยุงสักตัวยังไม่มากัดเลยค่ะ แต่ ถ้า ทำพิธีปิดเขาแล้ว ช่วง 9 เดือนที่เหลือ จะเป็นที่สำหรับสัตว์ป่า พักอาศัยและหากินค่ะ ฉะนั้น ช่วง 3 เดือนที่เขาเปิดนั้น เรา ไปเหมือนแย่งที่พักอาศัยของสัตว์ป่าเค้า ฉะนั้นเราควรอนุรักษ์ป่าให้ดีที่สุดค่ะ^_^[/HIGHLIGHT]

แอบมีภาพมาให้ชมค่ะ ถ่ายเองนะคร้า ภาพนี้ รอยพระพุทธบาท ค่ะ




ส่วนภาพนี้ เป็น ภาพพระคเนศ ปางค์ 5 เศียร ตรงลานเทพ ที่ รฐา นำผ้าเวสตี้ นำไปแต่งองค์ถวายมาค่ะ





และภาพนี้คาดว่า ผู้ใจบุญ คงนำพระคเนศ ศิลปะอินเดียใต้ขี้นมาถวายกับทางวัดเห็นว่าสวยดีเลยถ่ายภาพมาชื่นชมค่ะ อยากได้ อยากได้

[HIGHLIGHT=#b7dde8]พอดี เพื่อนรุ่นพี่ เค้า อยู่ต่างจังหวัด เค้าหาขนมลาดูป ไม่ได้อ่ะค่ะ เค้าเลย นำ ข้าวเหนียว มา จิ้มน้ำตาล ทำถวายแทน (อันนี้สูตรพี่เค้าคิดเองนะคะ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#b7dde8][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#b7dde8]โดยส่วนตัว ชอบรับประทานกุหลายจามุนที่ซู้ดสสส  ปล.งง อ่ะค่ะ บางร้าน เรียกลาดูป แต่ บนห้างเช่น เสรีเซนเตอร์ คุณอาไปซื้อมาให้ เค้าเรียกกันว่า โมทะกะ สรุปเค้าเรียกว่าอารายกันแน่น้อ รบกวนผู้ทราบมาไขความกระจ่างด้วยคร้า ขอบคุณคร้า^_^[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#b2a2c7]เลือกได้แล้วค่ะ พระแม่มหากาลี ขอมอบให้ สมาชิกที่ชื่อ คุณ sunshaip ชื่อเล่นว่า เก๋ ติดต่อกลับด่วนคร้า ^_^(เหตุผลที่มอบให้ มีหลายประการและที่สำคัญ คุณคือ ครอบครัว HM ค่ะ)[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#b2a2c7]ขอพระแม่ทรงประทานพร ให้ผู้ที่ศรัทธาในพระองค์ และ ครอบครัว HM ทุกๆท่านเช่นกันนะคร้า ^_^[/HIGHLIGHT]

[[HIGHLIGHT=#ffff00]ขอเชิญนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ในปี 2553 นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2553 ถึง วันที่ 16 มีนาคม 2553 [/HIGHLIGHT]]

[HIGHLIGHT=#ffff00]ขอเชิญนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ในปี 2553 นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2553 ถึง วันที่ 16 มีนาคม 2553 [/HIGHLIGHT]


นมัสการพระบาทพลวง ที่ เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี

เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม

       อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใครๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายาก คือ ไม้กฤษณา และเนื่องจากเป็นป่าที่อยู่ในเขตเทือกเขาสูงชัน จึงมีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น กระทิง เสือ หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกชนิดต่างๆ นอกจากนี้ ตามลำห้วยยังมีปลาพลวง ปลาก้าง ปลาหนวด ปลาดุกรำพัน อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

       สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้แก่ น้ำตกกระทิง,น้ำตกคลองช้างเซ ,ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้นเห็นจะเป็น การนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือพระบาทพลวงนั่นเอง

       พระบาทพลวง หรือ พระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บนเขาคิชฌกูฎ โดยพระบาทพลวงนี้ เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ที่จังหวัดจันทบุรี และถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดของประเทศไทย และอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร

       ทั้งนี้ประชาชนจะนิยมไปนมัสการพระบาทหลวงเป็นจำนวนมาก เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเขาคิชฌกูฏก็ได้จัดงานนมัสการพระบาทพลวงเป็นประจำทุกปีอีกด้วย



[FONT=Tahoma lang=TH]        บนยอดเขาคิชฌกูฏ ที่อยู่สูงเทียมเมฆนั้น  เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล  ซึ่งสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ  จังหวัดจันทบุรี  ทุกๆปีในช่วงที่เปิดให้มีการขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทนั้น จะมีพุทธศาสนิกชนจาริกแสวงบุญมายังยอดเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก  เพื่อมาสักการะแผ่นหินซึ่งเชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงมาประทับรอยพระบาทไว้  ด้วยความศรัทธาและความเชื่อในอานิสงส์ที่แรงกล้าว่าการได้นมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ถือเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและชีวิต[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ  มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่  มีรอยบุ๋มลึกประมาณ  2  เมตรเศษ  กว้าง 1 เมตร ยาว 2  เมตร  ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. และต้องเดินเท้าไปสู่ยอดเขาอีกราว 3 กม.  มีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า  ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397  ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่  และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้าและได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ  เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริงชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        ในบริเวณยอดเขาคิชฌกูฏนั้นยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างๆ  ที่เชื่อมโยงกับตำนานและความเชื่อทางพระพุทธศาสนา  เช่นก้อนหินขนาดใหญ่มีรูปคล้ายกับบาตรพระคว่ำ  ใกล้กับหินรูปรอยพระพุทธบาท ศิลาเจดีย์รอยพระหัตถ์  รอยเท้าพญามาร  ถ้ำฤๅษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่า และช้างขนาดยักษ์เป็นต้น [/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        เดิมทีนั้นพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักอีกชื่อว่าพระบาทพลวง  แต่ในปี พ.ศ.2515 พระครูธรรมสรคุณผู้เป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวง  ได้เสนอให้นำชื่อของเขาคิชฌกูฏจากพุทธประวัติมาใช้เป็นชื่อของภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์  ซึ่งคันธกุฎีเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต  และตั้งอยู่บนยอดเขานั้นมาใช้  เพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระองค์และแสดงถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาอย่างสูงส่งของประเทศไทย[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]สถานที่ตั้ง[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ   ต.พลวง  กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]ความเชื่อและวิธีการบูชา[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        เชื่อกันว่าการได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏนั้น  เปรียบได้กับการได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดาถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่  ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง  และสำหรับผู้ทีมีความเดือดเนื้อร้อนใจนั้น  หากได้มาตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากรอยพระพุทธบาทแล้ว  ความทุกข์กาย หรือความร้อนใจนั้นจะมลายสิ้นไป[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]เทศกาลงานประเพณี[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        การเปิดให้ขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) จะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ประมาณปลายเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม รวมระยะเวลา  2  เดือน[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]วันและเวลาเปิด [/FONT]–[FONT=Tahoma lang=TH] ปิด[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        เนื่องจากไม่ได้เปิดให้นมัสการได้ตลอดปี  ควรสอบถามรายละเอียดจากอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ก่อนทุกครั้ง [/FONT]
[FONT=Tahoma lang=TH][/FONT]
[FONT=Tahoma lang=TH][/FONT]

[HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#ffff00][FONT=Tahoma lang=TH][HIGHLIGHT=#00b0f0](รายละเอียดทั้งหมด) เซิตจากกูเกิลค่ะ ปีนึง เปิดเพียงแค่ 3 เดือนนะคร้า ปีนี้ใครไปยกมือขึ้น ส่วน "รฐา" ไป sure คร้า ^_^เบอร์นี้ เพิ่มเติมให้นะ[HIGHLIGHT=#00b0f0]คร้า [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/FONT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#00b0f0]039-452-056 เบอร์วัดกะทิง เขาคิชฌกูฏค่ะ เจ้าหน้าที่บริการดีน่ารักมากๆค่ะสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆได้เลยค่ะ ^_^[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#e5b9b7]ในงานตรียัมปวาย ในวันกล่อมหงษ์ วันที่ 1 ม.ค.2553 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าไปนั่งข้างหน้า เลยได้ชมเทวรูปหลวง คือ พระคเนศ พระอิศวร และ พระแม่อุมา อย่างใกล้ชิด(องค์เล็กๆประมาณนิ้วก้อยค่ะ)ท่านราชครูฯ ได้ สรงค์น้ำเทวรูป และ นำน้ำมนต์ในการสรงค์เทวรูป มาประพรม เทวรูป(สำหรับผู้ที่นำเทวรูปไปเบิกเนตรทางด้านนอกด้วยค่ะ) และ ประพรมน้ำมนต์ให้กับประชาชน ที่ได้เข้าไปร่วมงานด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล และได้เห็นพิธีกล่อมหงษ์ เป็นพิธีที่โบราณมากๆค่ะ เป็นบุญตา มากๆ และ ต้องขอบคุณน้องคิว(อักษรชนนี)ที่นอกจะสละเวลา จากการถ่ายภาพ มานั่ง ตอบคำถามให้ความรู้แถมเอาสมุดไปจดขั้นตอนอีกด้วยแอบหยิบมาอ่านเพื่อความเข้าใจนะคร้า คงไม่ว่ากัน อิๆ  สำหรับผู้ที่ เข้าโบสถ์ไม่ได้เพราะผู้ร่วมงานมาก ก้อ สามารถชมจาก จอมอร์นิเตอร์ ด้านหน้าโบสถ์ได้ค่ะ ^_^ปล.ควรสวมเสื้อสีขาว และ แต่ง กายสุภาพ นะคร้า[/HIGHLIGHT]

ขอบคุณ คอมเม้น กำลังใจ จากทุกๆท่านนะคร้า ตอนนี้ มีผู้ยื่นความจำนงค์มา 3 ท่านแล้วค่ะ กำลังเลือกเฟ้นอยู่ค่ะ พระแม่ศรีมหาลักษมี มี แล้ว 1 ท่าน คงให้พี่เค้า sure ชื่อ คุณพี่ลูกปลา(ไม่ได้อยู่ในบอร์ดHMนะคะ)เค้าบูชา พระนารายณ์ แต่ ขาด พระแม่ศรีมหาลักษมี และ พี่เค้ากำลังจะไปหามาบูชาอยู่พอดี เราเลย อยากยกให้พี่เค้า เป็นของขวัญปีใหม่นี้ค่ะ เพราะองค์พ่อนารายณ์ที่พี่เค้ามีอยู่เป็นองค์เรซิ่นหน้าตักเท่ากันกะพระแม่ของเราเลย คิดว่า น่าจะเหมาะสมที่จะให้พี่เค้าไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล นะคะ

ส่วนพระแม่มหากาลี มี 2 ท่าน ที่ยื่นความจำนงค์มา ตอนนี้ เลือกเฟ้น อยู่ค่ะ แต่ อยากส่งมอบ พระแม่มหากาลี หน้า วัดแขกสีลม ใคร อยากได้ไปบูชาอีกยื่นความจำนงค์มาได้นะคร้า

คาดว่า ไม่น่าเกิน วันศุกร์ หน้า นี้ พระแม่ คงได้ ส่งมอบ ให้ผู้ที่มีความจำนงค์อยากจะบูชาต่อค่ะ (ไว้ถ่ายภาพวันส่งมอบมาให้ชมนะคร้า)