Messages

สังข์ทักษิณาวรรต เวียนขวาคับผม หายากมาก



สังข์อุตรวรรต เวียนซ้ายคับ เจอกันได้บ่อยๆ



เบี้ยที่ใช้บูชาพระลักษมี ส่วนใหญ่ใช้ "เบี้ยจั่น" คับผม

เท่านี้แหละคับ รอผู้รู้มาเพิ่มเติมเหมือนเคยคับผม อิอิ

โอม ศรีเคารีปุตรายะ นะมะ

สังข์เวียนขวา เท่าที่ผมทราบมา เขาเรียกกันว่า สังข์มหาทักษิณาวรรต เป็นสังข์ที่หายากมาก ในบรรดาสังข์หนึ่งในแสนจะมีสักอันนึง เป็นสังข์ศักดิ์สิทธิ์มาก เชื่อกันว่าเป็นตระกูลเดียวกันกับสังข์ที่พระนารายณ์ใช้ถือในพระหัตถ์ด้่วย ส่วนหอยที่บูชาเกียวกับพระลักษมีนี่ ผมว่าน่าจะเป็นหอยเบี้ยนะคับ เพราะผมเคยอ่านมาในประวัติของพระลักษมี พิธีบูชาพระแม่จะใช้เบี้ยโปรยหน้าเทวรูปด้วย เชื่อกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์พระแม่ลักษมี

ก็พอจะทราบเท่านี้ รอผู้รู้มาเพิ่มเติมละกันคับผม

โอม ศรี เคารีปุตรายะ นะมะ

งดงามมากคับผม

ชื่นชมๆ

พระขันธกุมารจงเจริญ
พระกรรติเกยะจงเจริญ
พระศิวะบุตรจงเจริญ
พระมหาเสนาบดีจงเจริญ
พระมยุรอาสน์ผู้ทรงนกยูงจงเจริญ
พระยุทธรงณ์ผู้ทรงเก่งกาจในการศึกจงเจริญ
พระวัลลีปตีผู้เป็นสวามีของเทวีวัลลีจงเจริญ
พระศักติธรผู้ถือหอกอันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ปารวตีจงเจริญ

ขอให้พระตารกาชิต ผู้มีชัยเหนือตารกาสูร จงเจริญ

โอม ศรี สรวัณณา ภวายะ นะมะ

โอม ศรี มุรุกันสวามี นะโมนะมะฮะ

เท่าที่ผมดูนะคับ

นับเรียงจากซ้ายไปขวานะคับ

แถวล่างสุด
1.พระสูรยะเทพ (พระอาทิตย์)
2.พระจันทร์
3.พระอัศวินฝาแฝด (โอรสพระอาทิตย์)
4.พระอินทร์
5.พระคเณศ
6.พระสกันทะ (ขันธกุมาร)
7.พระวรุณเทพ (พระพิรุณ)
8.พระวายุเทพ
9.พระอัคนี
10.พระไชยันตเทพ
11.พระธรรมราช (พระยม)

เทพ4องค์ที่เป็นฐานรองรับบังลังก์พระแม่ตรีปุราสุนทรี
1.พระพรหมา
2.พระวิษณุ
3.พระรุทระเทพ
4.พระประชาบดี

หากผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคับ

รอคนมาให้ความรู้เพิ่มเติมด้วยล่ะกันคับ

คับผม 

ขอบคุณนะคับสำหรับคำพร

ไงบที่จะให้แปลนี่ก็ดูอีกทีนะคับ

ไงแปลเสร็จแล้วจะบอกนะคับ

ขุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทำไมไม่มีใครเข้าไปโพสนิทานภารตะเลยเนี่ย

หายกันไปหมดแล้วหรอคับ พี่กาลปุตราก็หายไปเหมือนกัน

เหอะๆ  ช่วยกันขุดๆๆๆๆๆๆหน่อยคับพี่ๆน้องๆคับ

ขุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รูปแร สวยมากกกก ครึ่งซ้ายเป็นพระศิวะ ครึ่งขวานี่เป็นพระแม่อุมาหรือป่าวคะ ทำไมเห็นมีดอกบัว ด้วย งง อยากทราบชื่อค่ะ

อ่อ นั่นพระอรรถนารีศวรคับ เป็นครึ่งพระศิวะ ครึ่งพระอุมาเทวีคับผม

เสียดายจังเลย

ไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงานอ่ะ (บ้านอยู่ไกล)

ถึงจะไม่ได้ร่วมเทศกาลโฮลี แต่งานนวราตรีจะไม่พลาดแน่นอน

ปีที่แล้วผมไปเดินหาซุ้มของเพื่อนๆชาวHMแต่ไม่เจอเลยซักคน เหอะๆ

เล่นให้ผมเดินประทักษิณรอบถนนที่จะใช้ในพิธีแห่ซะรอบนึง ปวดขาเลย

อิอิ แต่ไงปีนี้หวังว่าคงได้เจอพี่ๆเพื่อนๆน้องๆชาว HM ทุกคนนะคับ

ถ้าผมแสดงความคิดเห็นแรงไปก็ขอโทดนะคับ

ไม่ได้เจตนาอะไร แค่อยากแสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง

ถ้าแรงไปก็ขอประทานโทดจริงๆคับ

สรุปว่า ใครศรัทธาก็บูชาไป ใครไม่ศรัทธาก็ไม่ต้องบูชา

หากบูชาแล้วยังพูดดูหมิ่นปุราณะอันเป็นเครื่องแสดงความศักดิ์สิทธิ์ก็อย่าบูชาเลยคับ

บูชาไปก็ไม่มีผลดีอะไรกับคุณหรอกคับ  จะเป็นโทษซะเปล่าๆ

ผมคนนึงหล่ะที่เกลียดคนที่ดูหมิ่นสิ่งที่อันเป็นที่ศรัทธาของปวงชน

***เกลียดที่สุดคับ***

แบบนั้นท่านก็ดีใจสิคับ ไม่โกรธอะไรเราหรอก และเราทุกคนก็เหมือนลูกๆของท่าน ท่านก็รักและเอ็นดูเราเหมือนกันคับผม

พระคเณศคงจะมาบอกใบ้เป็นนิมิตอะไรสักอย่างมั้งคับ

ผมเองก็เคยฝัน  ถ้าเล่าไปคงไม่เชื่อแน่เลย

อิอิ  เล่าก็ได้คับ

ก็ผมเคยฝัน ว่า ผมไปยังที่แห่งนึง  และที่นั่นเหมือนเป็นยอดเขาอะไรสักอย่าง หนาวเย็นมาก  จากนั้นก็มีราชรถเทียมม้า 5 ตัว บนรถนั้นผมได้เห็นพระ

คเณศกับตาผมเอง เหาะมาทางผม และพระคเณศก็บอกให้ผมขึ้นไปบนรถนั้น จากนั้นท่านก็พาผมเที่ยวชมหลายแห่งคับ ทั้งป่าหิมพานต์ แดนสวรรค์

แดนนรกและพาไปยังเทวโลกของพระเป็นเจ้่าแต่ละองค์ด้วยคับ ก็ไปทั้งไวกูณฑ์โลก พรหมโลก และก็เขาไกรลาส จากนั้นพระองค์ก็พาผมมาส่งที่เดิม

ในฝันผมถึงกับน้ำตาไหลพรากเพราะดีใจมากเลยทีเดียวที่ได้พบเจอพระมหาเทพและพระมหาเทวีทุกๆำพระองค์ พระองค์บอกผมว่า ให้สั่งสมบารมีมากๆ

แล้วจะได้เจอพระองค์อีก  ผมดีใจที่ได้เจอพระองค์ ถึงไม่ใช่ความเป็นจริง  แต่ผมก็ัสัมผัสได้ว่า พระองค์อยู่กับผมเสมอ และอยู่กับสานุศิษย์ทุกๆคนคับ

*หากใครศรัทธาต่อพระเป็นเจ้าอยู่เสมอๆ ผู้นั้นย่อมเป็นที่รักของปวงเทพและเทวีทั้งมวล และจะได้รับความสุขตลอดไปคับ*


โอม ศรีเคารีปุตรายะ นะมะ

ถ้่าไม่สะดวกไปกรุงเทพก็สั่งซื้อทางเน็ตก็ได้นะคับ

ผมเองก็เคยสั่งซื้อนะคับ  ราคาไม่แพงเท่าไหร่

ดูได้เหมือนกันคับผม

คับผม

ผมเองก็ประชาสัมพันธ์อยู่เสมอๆคับ

หวังว่าคนไทยคงจะเข้าใจกันได้ถูกต้องซักที

พอดีดูหนังเรื่อง Jai Chakumbari maa แล้วเกิดแรงบันดาลใจอยากวาด

เลยวาดออกมาเป็นอย่างที่เ่ห็นคับ



เป็นพระแม่ในอิริยาบถยืนคับ มี 6 กร ถือของในมือแตกต่างกันออกไป


ผมวาดในอุดมคติของผมเองคับ ออกมาแล้วเป็นไงสวยไม่สวยก็ช่วยติชมด้วยคับผม

โอม ศรี ศากุมภรี มาตา กี นะมะ

โอม ศรีเคารีปุตรายะ นะมะ

[พระแม่ซันโตชิ (ซึ่งคนไทยเข้าใจผิดว่าเป็นพระแม่อุมาเทวี)]

ผมยังสงสัยว่าทำไมคนไทยชอบเข้าใจผิดพระแม่ซันโตชิว่าเป็นพระแม่อุมาเทวีอยู่เรื่อยเลย 

ผมเคยไปที่ร้านๆหนึ่งแถวราชนัดดาอ่ะคับ  ผมบอกอยากได้เทวรูปพระแม่อุมาเทวีสักองค์ เขาดันเอาเทวรูปองค์พระแม่ซํนโตชิมาให้เฉยๆ

ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมก็บอกว่าไม่ใช่แม่อุมา แม่ซันโตชิต่างหาก ผมเลยต้องนั่งอธิบายให้เจ้าของร้านฟังและเอาหนังสือที่ผมติดตัวไปด้วย

เป็นหนังสือเกี่ยวกับตำนานเทพอ่ะัคับให้เขาดูเป็นการยืนยัน จนเขาเื่ชื่ออะคับ ส่วนมากคนไทยเราเข้าใจผิดกันเยอะเรื่องเทวรูปพระแม่ซันโตชิกับเทวรูป

พระแม่อุมา จนบางคนเชื่อว่า พระแม่ซันโตชิกับพระแม่อุมาเป็นองค์เดียวกับด้วยซ้ำไป ผมก็รู้ว่าทุกพระองค์นั้นก็คือองค์เดียวกัน แต่ในการบูชาก็บูชาใน

แบบที่ต่างกันตามแต่ละองค์ ผมอยากจะให้ผู้ที่ได้อ่านกระทู้นี้ ช่วยแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ทีคับ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ผมไม่อยากให้คนไทย

เข้าใจผิดเรื่องพระแม่ซันโตชิเป็นพระแม่อุมาอ่ะคับ


พระแม่ซันโตชิ (ซึ่งคนไทยเข้าใจผิดว่าเป็นพระแม่อุมาเทวี)


พระแม่อุมาเทวี (เคารีมาตา)

ปล.โปรดพิจารณาและแสดงความคิดเห็นด้วยคับ หากเป็นการดูหมิ่นหรือทำให้ใครเสียหายก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคับ

โอม ศรี ซันโตชิ มาตา นะมะ

ก็มีคับผม

มีร้านที่พาหุรัดแถวๆ ตึกอินเดียอิมพิเรียลอ่ะคับ จะมีร้านอยุ่ข้างๆตึกตรงทางเดินเข้าไปในตลาดประมาณ 2 ร้านคับ

ที่นั่นมีพระศิวะเป็นแบบ VCD พากษ์ไทยคับผม เป็นแบบ BoxSet

ถ้าสนใจก็ลองไปหาซื้อดูนะคับ ราคาก็ไม่แพงมากเท่าไหร่ด้วย

ถูกลิขสิทธิ์แน่นอนคับผม

เข้าไปเว็บนี่เลยคับ

http://www.thepnimitbucha.com/

มีให้พี่ๆได้เช่าบูชาหลายองค์เลยคับผม

เป็นงานของสุขสมบัติ  สวยทุกองค์คับ

พระแม่อนาคาเทวีอ่ะคับ

ไม่แน่ใจนะว่าเป็นของปางไหน

อ่านจากภาษาอังกฤษที่อยู่ใต้ภาพหน่ะคับ

คับผม

ผมชอบดูมากเลย

หนังเรื่องนี้เคยนำมาฉายทางช่อง 7 เป็นพากษ์ภาษาไทย เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2545 คับ

เป็นหนังที่สนุกมาก

ถ้าใครชอบดูแบบต้นฉบับภาษาฮินดิ (พากษ์ภาษาแขก) ก็ไปดูได้ในเว็บ youtube.com

แล้วพิมพ์ว่า Om Namah Shivay นะคับ จะเป็นตอนๆ เช่น Om Namah Shivay vol 1.1 แบบนี้อ่ะคับ

มีเป็นตอนๆจนกระทั่งจบเลยคับผม

จัดให้ตามคำขอคับ

รูปก่อนนะคับ







ส่วนคาถาก็เป็นแบบสั้นๆก็ได้คับ

เช่น โอม ชยะศรี มหาลักษมี มาตา

หรือ โอม ศรี ธนลักษมี มาตากี นะมะ

ก็ได้เช่นกันคับ

พอดีไปเจอในยูทู๊บมาอันนึง น่าสนใจดีเลยเอามาลงให้คับผม

มาจากหนังเรื่องพระศิวะ (Om Namah Shivay)

เป็นพระแม่กาลราตรี(มหากาลี)เต้น ทานตวะ (Taandeva) หรือเต้นเพื่อทำลาย หลังจากปราบอสูรมหิษาสูร

นั่นเอง 

http://www.youtube.com/v/LID9-8YGdaw&feature=related

ขุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ห้องนิทานตำนานภารตะ ทำไมเงียบหายไปเลยเนี่ยคับ

ไม่มีใครสนใจกันเลยหรอ ช่วยกันขุดหน่อยคับ

นิทานจะได้ไม่สูญไปคับ ขุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

น่าน เป็นงั้นไปอ่ะนะพี่เสือ

อิอิ 

ที่พี่เสือบอกมาก็ถูกนะคับ

แต่ถ้าจะให้พระคเณศไปแผลงศรใส่ คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก ก็ตอนนี้พระศิวะจะแต่งงานกับพระแม่ปารวตี

พระคเณศยังไม่มีตัวตนเลย อิอิ แต่ก็น่าสงสารพระกามเทพนะคับ โดนเผาซะเป็นผงเลย แต่ก็ยังดีที่

พระศิวะให้พรไปเกิดเป็นโอรสพระกฤษณะ นามว่า ปรัทยุมน์ และก็แต่งงานกับเทวีรตี พอตายก็ไปเป็น

พระกามเทพตามเดิม ดีใจแทนเทวีรตีด้วย อิอิ

 
พระกามเทพหายไปไหนน่ะหรอคับ หลังจากที่ถูกพระศิวะเผาด้วยตาที่สามจนมอดไหม้ไปแล้ว ไม่ได้ไปไหนหรอกคับ แต่ปรากฏรูปเป็น อนงค์กามเทพ (พระกามเทพที่ไร้ตัวตน) เทวีรตีชายาโศกเศร้ามาก จึงไปอ้อนอวนขอให้พระศิวะประทานชีวิตพระกามเทพคืนให้แก่นางด้วย พระศิวะสงสารจึงให้พรว่า ในกาลทวาบารยุคนั้น พระกามเทพจะไปจุติเกิดใหม่ เป็น พระปรัทยุมน์ โอรสของพระกฤษณะกับเทวีรุกมิณี (สรุปก็คือ เกิดเป็นโอรสพระนารายณ์กับพระลักษมีอวตารอ่ะแหละคับ) ตอนที่เกิด มีอสูรตนหนึ่งนามว่า ศามภะ ได้รับคำสาปจากฤาษีตนหนึ่งว่า ต้องตายด้วยโอรสพระกฤษณะ ศามภะจึงไปขโมยเอาพระปรัทยุมน์ไปทิ้งทะเล พอดีปลาตัวหนึ่งกลืนเอาไว้ จนชาวประมงจับปลาตัวนี้ได้ แล้วเอาไปขายให้ศามภะ ฤาษีนารัทเห็นดังนั้น จึงไปหาเทวีรตีชายาของพระกาเทพแจ้งเรื่องพระปรัทยุมน์ เทวีรตีจึงแปลงเป็นแม่ครัว แล้วผ่าท้องปลาเอาพระปรัทยุมน์ออกมา แล้วเนรมิตซ่อนพระปรัทยุมน์เอาไว้ไม่ให้ใครเห็น เทวีรตีคอยเลี้ยงดูจนเติบโต เมื่อพระปรัทยุมน์เติบโตขึ้น เทวีรตีก็แสดงความรักต่อพระปรัทยุมน์ฉันชู้สาว ตอนแรกพระปรัทยุมน์ทำใจไม่ได้ที่นางพูดเช่นนั้นเพราะเคารพนางเหมือนแม่มาตลอด แต่เมื่อเทวีรตีอธิบายเรื่องแต่หนหลังให้ฟังจึงเข้าใจ และพระปรัทยุมน์ก็สังหารศามภะตายในที่สุด จากนั้นก็พาเทวีรตีกลับเมื่อทวารกาของพระกฤษณะบิดาของตน และแต่งงานกันจนมีโอรสหนึ่งคน นามว่า อนิรุทธิ์

ประวัติก็มีเท่านี้ ใครมีประวัติไหนนอกเหนือจากนี้ก็มาเพิ่มเติมกันได้นะคับ 

ขอบคุณมากคับสำหรับกำลังใจที่ให้ผม

ขอบคุณพี่เสือที่ให้คำแนะนำ และกำลังใจดีๆแก่ผม

ผมจะสรรค์สร้างผลงานออกมาให้ได้ชมกันอีกคับ

ใครอยากจะเอาภาพที่ตัวเองวาดมาแสดงพระบารมีของพระองค์ท่านก็เชิญได้นะคับ

ยินดีมากคับผม จะได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

ผมเองก็อยากเห็นรูปของทุกๆคนที่บรรจงสร้างผลงานรูปองค์ท่านในรูปแบบต่างๆตามฝีมือของแต่ละคนเหมือนกัน

ใครมีฝีมืออะไรอย่าซ่อนไว้นะคับ มาแสดงให้เห็นกันได้ที่นี่คับ 

พระบารมีของพระองค์ท่านทุกๆพระองค์ที่ทุกคนได้สร้างท่านขึ้นบนกระดาษ

จะได้แผ่ขยายออกไปไพศาลทั่วทั้งสกลจักรวาล คุ้มครองเราทุกคนตลอดไป



"พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา มนุษย์ก็สามารถสร้างพระผู้เป็นเจ้าขึ้นมาได้เช่นกัน"


โอม ศรีเคารีปุตรายะ กี เจโฮ (บุตรแห่งพระเคารีจงเจริญ)

ขอบคุณกับทุกๆคำติชม และกำลังใจที่พี่ๆน้องๆทุกๆคนได้ให้ผมนะคับ

ผมจะรังสรรค์ผลงานออกมาให้ได้เห็นกันอีกแน่นอน

แต่จะเป็นอะไรนั้นก็ติดตามกันต่อไปนะคับ

ขอบคุณมากๆคับ

คับผม

ก็ลองเอามาลงดูก็ได้นะคับ

พี่ก็ถ่ายรูปจากมือถือ หรือจากกล้อง

แล้วก็ต่อสายเข้ากับคอมดึงไฟล์ลงคมอีกทีก็เอามาลงได้แล้วคับ

ผมเองก็อยากเห็นรูปของพี่ๆเหมือนกันนะคับ

ไม่ต้องอายหรอกคับ

พระเป็นเจ้าท่านอยากให้เราวาดรุปท่าน

ถึงจะดูดุ ไม่สวย แต่ก็ทำด้วยความศรัทธา

แค่นี้ก็สวยแล้วคับ (สวยจากข้างในไงคับ)

อิอิ

ขอให้พระคเณศเทพแห่งศิลปะวิทยาการทั้งปวง จงเจริญ

เปล่าคับ ผมไม่ได้เรียนสายนี้หรอกคับ

ผมเรียนสายคอมพิวเตอร์คับ

แต่มีงานอดิเรกก็คือ วาดภาพนี่แหละคับ

ส่วนตัวผมชอบวาดรูปเทพเจ้าต่างๆอยู่แล้ว

แต่ไม่ค่อยได้วาดแบบแรเงาเท่าไหร่

พอดีเกิดเห็นเทวรูปพระคเณศที่หิ้งบูชาที่บ้าน

เลยเกิดอารมณ์ศิลป์ ไม่รู้ว่าท่านดลใจหรือป่าว

เลยออกมาเป็นรูปนี้แหละคับ

ขอบคุณทุกคนนะคับที่ติชม

งดงามจังคับ

ชอบมากๆเลย อิอิ

พระแม่จงเจริญ มาตากี เจโฮ

ขอบคุณมากๆเลยคับ ที่ติชม

ขอพระพรของพระคเณศ เทพแห่งวิทยา และผู้ขจัดอุปสรรค

จงดลบันดาลให้พี่ๆน้องๆชาว HM ทุกท่านมีความสุขถ้วนหน้ากันนะคับ

โอม ศรีเคารีปุตรายะ นะมะ

ผมเพิ่งลองวาดแรเงาดูอ่ะคับ

ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่อยากให้พี่ๆได้ติชมกัน เลยเอามาลงไว้คับผม 







ไงช่วยติชมทีคับ ไว้จะเอามาลงให้ดูกันอีกคับผม

โอม ศรี เคารีปุตรายะ นะมะ

ขอบุตรแห่งพระเคารีจงเจริญ

พระแม่มาริษา หรือ มนสนเทวี

        ตามตำนานกล่าวว่า เป็นธิดาของพระศิวะ กับพระชายาองค์หนึ่ง ผมเองก็ไม่ทราบพระนามหรอกคับ 

เท่าที่รู้กันมา พระแม่มนสาเทวี ไม่ค่อยจะลงรอยกับพระแม่ปารวตี (อุมาเทวี) ซักเท่าไหร่ นางจึงขออนุญาตพระ

บิดาศิวะเทพลงมายังโลกมนุษย์ กับเพื่อนซึ่งเป็นธิดาของพระศิวะอีกองค์นึงคือ เทวีเนตา  เมื่อนางลงมายังโลก

นางได้กระทำสิ่งดีงาม และคอยช่วยเหลือผู้คนมากมาย จนได้รับความเคารพสักการะจากมนุษย์ทั้งหลาย เหลือ

แต่เพียง เจ้าชายจานนท์ แห่งแคว้นจามปากะเท่านั้นที่ไม่สนใจบูชานาง    มนสาเทวีจึงหาทางทำให้จานนท์

บูชานางให้จงได้ ด้วยการไปเข้าฝันแล้วบอกว่า ให้หันมาบูชานางบ้าง  เจ้าชายจานนท์ไม่ยืนยอม นางจึงให้นาค

กาลี มากัดโอรสของจานนท์ที่มีอยู่ 6 คน ตายลงทีละคน และทุกครั้งที่โอรสของจานนท์ตาย มนสาเทวีก็จะ

มากระซิบบอกแก่จานนท์ว่า จงบูชาเราเสียเถิด แต่จานนท์ไม่ลดละความพยายาม มนสาเทวีก็เช่นกัน นางทราบ

อย่างหนึ่งว่า จานนท์มีสวนๆหนึ่งที่รักมาก นางจึงให้นาคบริวารไปทำลายสวนจนพินาศ เจ้าชายจานนท์รู้ว่าเป็น

ฝีมือของมนสาเทวี จึงให้เพื่อนซึ่งเป็นมายาวี(นักมายากล) ชื่อ ศังกร มาทำการชุบชีวิตและสร้างสวนให้สวยดัง

เดิม เทวีมนสาจึงสังหารศังกรตาย และทำให้เจ้าชายจานนท์อยู่ในเมืองไม่ได้อีก

       เจ้าชายจานนท์จึงออกเดินทางไปค้าขายที่ต่างเมืองทางทะเล ในระหว่างทาง มนสาเทวีได้บันดาลให้

เกิดพายุใหญ่พัดเรือหายจะให้จมลง แต่เจ้าชายจานนท์ได้ทำการวิงวอนขอพระแม่เคารี(อุมาเทวี) ให้คุ้มครอง

ซึ่งพระแม่เคารีก็บันดาลให้เรือลอยอยู่ในพายุได้โดยไม่จม มนสาเทวีเห็นดังนั้นก็ไปเฝ้าพระศิวะบิดา ขอให้ห้าม

ไม่ให้พระแม่ปารวตี(อุมาเทวี)ไปยุ่งกับเรื่องของนาง พระศิวะเห็นใจธิดา จึงสั่งห้ามพระแม่ปารวตีไม่ให้คุ้มครอง

จานนท์อีกต่อไป เรือจึงจมลงกลางทะแล แต่มนสาเทวีไม่ได้ต้องการจะให้จานนท์ตาย เพียงแต่ต้องการให้จา

นนท์บูชานางเท่านั้น จึงบันดาลให้เกิด ปัทมาสน์(บัลลังก์ดอกบัว)ลอยมาใกล้ๆจานนท์ เจ้าชายเห็นก็ไม่ได้สนใจ

ว่ายน้ำต่อไป ซึ่งนางก็ให้ความคุ้มครองแก่เขาไปจนกระทั่งถึงฝั่ง ได้เจอเพื่อนรักคนหนึ่งเป็นพ่อค้าเหมือนกัน

เลยอาศัยสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ที่นั่นเอง มนสาเทวีไม่รุ้จะทำประการใดก็เลยไปหาเพื่อนซึ่งเป็นอัปสรอยู่บนสวรรค์

ให้ลงมาเกิดเป็นธิดาของพ่อค้าเพื่อนของเจ้าชายจานนท์ และให้อีกคนหนึ่งเกิดเป็นบุตรของจานนท์ ทั้งสองรับ

ปากและลงมาเกิดเป็นลักษมิณบุตรของจานนท์ และเพหุลาธิดาพ่อค้า เมื่อทั้งสองโตขึ้น จานนท์ได้จัดพิธีวิวาหะ

ให้แก่ทั้งสอง และได้ให้ช่างสร้างเรือนหอให้ทั้งสอง โดยสร้างด้วยโลหะทั้งหลัง ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีรูอันใดเลย

และสั่งให้คนเอานกยูงกับพังพอน และโรยยาพิษไว้โดยรอบ เพราะจานนท์เกรงว่า มนสาเทวีจะมาทำอันตราย

ลักษมิณกับเพหุลา แต่มนสาเทวีรู้เข้า จึงไปขู่นายช่างให้เหลือรูเท่าเส้นผมเอาไว้ ไม่เช่นนั้นจะสังหารลูกเมียตาย

ทั้งหมด นายช่างจึงเหลือรูเท่าเส้นผมโดยเอาผงถ่านอุดรูเอาไว้ พอถึงเวลากลางคืน นาคบริวารของเทวีมนสาก็

เข้าไปในเรือนหอของลักษมิณกับเพหุลา ลักษมิณหลับไปด้วยความเหนื่อยเพลีย เหลือแต่เพหุลาที่นั่งเฝ้าสามี

ของนางอยู่ นางเห็นงูเข้ามาจึงเอานมให้งูกิน เมื่องูเผลอ ก็เอาบ่วงรัดงูไปห้อยไว้กับขื่อเรือน เป็นเช่นนี้อยู่สาม

ครั้ง จนถึงนาคกาลีตัวเดียวกับที่ทำลายสวนและสังหารศังกรเพื่อนของจานนท์เข้ามา เพหุลาโดนพิษงูเข้าที่ตา

เลยทำให้ดวงตาพร่ามัวและสลบไป นาคกาลีจึงกัดลักษมิณตาย เช้าต่อมาญาติๆทั้งสองฝ่ายมาดูเหตุการณ์ก็

ทราบว่าลักษมิณตาย ทั้งหมดกล่าวหาเพหุลาที่สังหารสามีของตน เพหุลานั้นเสียใจมาก และเล่าความจริงให้ฟัง

รวมถึงให้ดูงูที่นางจับได้ถึงสามตัวที่แขวนอยู่บนขื่อเรือนด้วย ทั้งหมดจึงเชื่อในคำพูดนาง และทำการนำเอาศพ

ของลักษมิณ ลอยแพไป โดยมีความเชื่อกันว่า ถ้าเอาศพคนโดยงูกัดตายลอยแพไป เผื่อเจอหมอที่มีวิชาอาจ

ชุบชีวิตให้ฟื้นกลับคืนมาได้ เพหุลาขอลอยไปกับศพสามีของนางด้วย ถึงญาติๆของนางจะห้ามปรามอย่างไร

นางก็ไม่ฟัง นางให้ญาติของนางจุดประทีบในเรือนหอและปิดตายเรือนหอเอาไว้ ถ้าประทีบยังสว่างอยู่นั่นหมาย

ถึงนางยังมีความหวังที่ลักษมิณจะฟื้นอีกครั้ง เมื่อลอยไปซํกพักก็ผ่านหน้าบ้านของเนตาเทวี เพื่อนของเทวี

มนสา นางกำลังซํกผ้าอยู่ ข้างๆกันมีเด็กเล่นกันส่งเสียงดัง เนตาเทวีรำคาญใจจึงเอาเด็กมาหักคอเสียและซักผ้า

ต่อ พอซักผ้าเสร็จ นางก็เอาน้ำมนต์วิเศษพรมไปที่เด็ก เด็กคนนั้นก็ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เพหุลาเห็นดังนั้นก็

เข้าไปหาเนตาเทวีขอให้นางช่วย เนตาเทวีจึงบอกว่า จะช่วยได้แต่ต้องไปเฝ้าเทวดาบนสวรรค์ร่ายรำให้เทวดาดู

และให้จานนท์หันมานับถือมนสาเทวีก่อน ซึ่งนางก็ทำตามนั้น เพราะนางเคยเป็นอัปสรมาก่อน นางจึงร่ายรำได้

อย่างสวยงาม จากนั้นเพหุลาก็พาลักษมิณไปหาจานนท์ และขอร้องให้จานนท์หันมานับถือมนสาเทวี จานนท์จึง

ยอมตาม จากนั้นมาจานนท์ก็บูชาเทวีมนสามาตลอด แต่โปรยดอกไม้ด้วยมือซ้ายและไม่มองเทวีรูปเทวีมนสา

ด้วยไม่เต็มใจบูชาเท่าไหร่ ส่วนมือขวาจะโปรยดอกไม้บูชาพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี จึงเป็นที่มาของการโปรย

ดอกไม้บูชาพระแม่มนสาเทวีด้วยมือซ้าย


เท่าที่ผมทราบก็มีเพียงแค่นี้ ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ไปหาอื่นได้นะคับ ในหนังสือ อมนุษยนิยาย ของ ส.พลาย

น้อย คับ  หวังว่าคงจะเป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นที่สนใจในประวัติของเทวีมนสามากขึ้นนะคับ ผิดพลาดประการ

ใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคับ

โอม ศรี เคารีปุตรายะ นะมะ (ขอพระคเณศบุตรแห่งพระแม่เคารีจงเจริญ)

มีคับ

แต่ไว้วันหลังจะเอามาลงให้นะคับ

ขอบคุณคับผม

ลองแปลให้นะคับ ถูกใจไม่ถูกใจก็ชี้แนะด้วยคับผม

โอม ศรี มหา ลักษมี วิษณุปรียายะ นะมะ

โอม เจ ลักษมี มาตา ไมยา เจ ลักษมี มาตา

ตุมโก นิส ดิน เสวัต หริ วิษณุ ธาตา

โอม เจ ลักษมี มาตา

--------------------------------------

อุมา รามา พรัหมาณี ตุม โก จัก มาตา

ไมยา ตุม โก จัก มาตา

สูรยา จันทมา ธยาวัต นารัท ฤษี กธา

โอม เจ ลักษมี มาตา

-----------------------------------

ดูรกา รูป นิรันจานิ สุขสัมปัติ ธาตา

ไมยา สุขสัมปัติ ธาตา

โจ โกยี ตุม โก ธยาตา ฤทธิ สิทธิ ธัน ปาตา

โอม เจ ลักษมี มาตา

--------------------------------

จิสกา เมน ตู รีที สัป สัค กูนา อาธา

ไมยา สัป สัค กูนา อาธา

ธาป ปาป มิตร จาธา มัน นาฮิน กัปราธา

โอม เจ ลักษมี มาตา

---------------------------------

ธูป ทีป ปา มีวา มา สเวการึ กาโร

ไมยา มา สเวการึ กาโร

กยาน ประกาส กาโร มา โมฮัน กยาน ฮาโร

โอม เจ ลักษมี มาตา

--------------------------------

มหาลักษมี จี กิ อารตี นิส จิน โจ กา เว

ไมยา นิส จิน โจ กา เว

ทุกข จาเว สุข อาเว อธิ อานันทา ปาเว

โอม เจ ลักษมี มาตา

--------------------------------

****โอม เจ ลักษมี มาตา

ไมยา เจ ลักษมี มาตา

ตุมโก นิส ดิน เสวัค ไมยา จิ โก นิส ดิ เสวัค

หริ วิษณุ ธาตา

โอม เจ ลักษมี มาตา*****

โอม เจ ลักษมี มาตา

คาถาบูชาพระแม่กาลี บทง่ายๆก็มีประมาณนี้นะคับ

โอม ชยันตี มังกลากาลี ภัทรกาลี กปาลินี ทุรคา สมาศิวะธาตรี สวหะ สวทา นะโม สตุเต

โอม สวรมังกัล มังกัลเล ศิวะสรวา ทะสาธิเก ชรัณเย ตรีอัมพิเก เคารี นารายณี นะโม สตุเต

หรือง่ายที่สุด ก็ โอม ชัยยะ กาลี แค่นั้นอ่ะคับ

คับผม

พระแม่ศักติ กับพระแม่อุมาเป็นองค์เดียวกันคับ

แต่พระแม่อุมาเป็นร่างอวตารของพระแม่ศักติ

ลงมาจุติเป็นชายาพระศิวะซึ่งเป็นร่างอวตารของพระสดาศิวะคับ

พระแม่ศักติ หรือชื่อเต็มๆว่า พระแม่ศักติศิวา หรือ พระแม่อธิปราศักติของชาวทมิฬ มีที่มาจากตำนานหลายๆตำนานว่า 

              เมื่อครั้งปฐมกัลป์ ในเวลานั้นมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเลย ทุกหนแห่งอยู่ในความมืดมนอนธกาล พลันท่ามกลางความเงียบสงัดนั้นก็บังเกิดเสียงหนึ่งขึ้น เสียงนั้นเปล่งเป็นคำว่า โอม ดังก้องไปทั่ว และก็บังเกิดเป็นเทพองค์หนึ่ง แต่งกายเป็นฤาษี มี 5 พักตร์ 10 กร นามว่า พระสดาศิวะ และในเวลานั้นเอง พระสดาศิวะก็ทรงเปล่งถ้อยคำว่า ตรีภูอัมภวะ ภูชัม ก็บังเกิดพระแม่ศักติศิวาขึ้นจากกลางพระหทัยของพระสดาศิวะ และปรากฏเป็นพระเทวี มี 8 กร ทรงสิงโตเป็นพาหนะ ทั้งสองพระองค์ต่างสนทนากัน และก็เริ่มวางแผนสร้างสรรค์จักรวาลในเวลาต่อมา

              *ที่มาจากคัมภีร์ ศิวะมหาปุราณะ

รูปลักษณ์ของพระสดาศิวะ





รูปลักษณ์ของพระแม่ศักติศิวา










หวังว่าผู้อ่านคงจะทราบและเข้าใจถึงที่มาของพระแม่ศักติศิวาแล้วนะคับ 

ขอพระพรแห่งพระสดาศิวะและพระแม่ศักติศิวาจงสถิตกับสานุศิษย์ของพระองค์ตลอดไป

โอม นมัช ศิวายฺ

โอม อริม ฮีม กลีม จามุณฑายฺ วิชเจย์ นะมะ